เตือนภัยริมน้ำโขง ระวังท่วมฉับพลัน!

สถานการณ์น้ำท่วมหลายพื้นที่ยังน่าเป็นห่วง โดยผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 16 ส.ค.ว่า ที่ จ.หนองคาย แม่น้ำโขงล้นตลิ่งทะลักเข้าท่วมบ้านเรือน เรือกสวนไร่นาเป็นวันที่ 7 แล้ว ขณะนี้ระดับน้ำในแม่น้ำโขงมีปริมาณลดลงอยู่ที่ 13.53 เมตร เฉลี่ยลดลง 3 ชั่วโมงต่อ 1 ซม. ซึ่งถือว่าช้ามากและไม่มีผลต่อปริมาณน้ำที่ท่วมขังอยู่ในพื้นที่เพราะระดับน้ำยังสูงกว่าระดับที่ตลิ่งจะสามารถรองรับเอาไว้ได้

อีกทั้งฝนที่ตกลงมาอย่างหนักติดต่อกันหลายวันก็ไม่สามารถระบายน้ำออกจากพื้นที่ได้ จึงทำให้ สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดหนองคายขยายวงกว้าง ขึ้นเรื่อยๆ
สำหรับถนนสายหลักในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย โดยเฉพาะถนนประจักษ์ศิลปาคมถูกน้ำท่วมสูงเกือบทั้งสาย ร้านค้าส่วนใหญ่พากันปิดร้าน และนำกระสอบทรายวางกั้นหน้าร้าน แถมยังติดป้ายขอร้องให้รถยนต์ขนาดใหญ่ที่ผ่านไปมาได้ชะลอความเร็ว เพราะจะทำให้น้ำกระเพื่อมเข้าไป ในร้าน ขณะเดียวกันทางเทศบาลเมืองหนองคาย ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 10 เครื่อง เร่งสูบน้ำออกจากตัวเมืองหนองคาย ลงสู่แม่น้ำโขงตลอด 24 ชม. แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ส่วนพื้นที่รอบนอกที่บ้านปากโสม ต.ผาตั้ง อ.สังคม จ.หนองคาย ชาวบ้านถูกตัดขาดจากโลกภายนอกมาหลายวันแล้ว เพราะถนนทางเข้าหมู่บ้านถูกน้ำท่วมสูง แม้ว่าหมู่บ้านจะอยู่ห่างตัวอำเภอสังคมเพียง 2 กม.เท่านั้น แต่ยังไม่มีเจ้าหน้าที่หน่วยงานใดยื่นมือช่วยเหลือ ชาวบ้านพากันเดือดร้อนอย่างหนัก ส่วนพื้นที่ อ.ศรีเชียงใหม่ ซึ่งถือว่าเป็นจุดที่น้ำในแม่น้ำโขงล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมหนัก ที่สุด ขณะนี้ยังมีน้ำท่วมบ้านเรือน เรือกสวนไร่นาอย่าง ต่อเนื่อง ชาวบ้านติดอยู่ในบ้านจำนวนมาก เป็นห่วงทรัพย์ สินไม่กล้าออกจากบ้าน เนื่องจากกระแสน้ำไหลเชี่ยวกราก

นพ.ศิริศักดิ์ วรินทราวาท รองอธิบดีกรมควบคุมโรคกล่าวว่า ขณะนี้พื้นที่จังหวัดหนองคายถูกน้ำท่วมเป็น วงกว้าง ประชาชนต้องระมัดระวังเชื้อโรคต่างๆปะปนมากับน้ำทำให้เจ็บป่วยได้ง่าย โดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร

สาเหตุหลักมาจากการรับประทานอาหาร หรือดื่มน้ำที่ไม่สะอาด ช่วงน้ำท่วมพืชผักต่างๆอาจได้รับเชื้อโรคโดยเฉพาะเชื้อไทฟอยด์ ซึ่งเป็นอันตรายต่อระบบทางเดินอาหาร รวมทั้งโรคตาแดง และโรคเลปโตสไปโรซีส หรือโรคฉี่หนู ซึ่งเชื้อโรคมักจะมากับน้ำ คาดว่าหลังจากนี้ประมาณ
3 เดือน ประชาชนชาวหนองคายจะประสบกับโรคฉี่หนูมาก จึงขอเตือนให้ประชาชนได้ระมัดระวังกันเป็นพิเศษ
ที่ จ.นครพนม สถานการณ์น้ำท่วมล่าสุด แม้ฝนจะหยุดตกแต่ระดับน้ำโขงยังสูงขึ้นต่อเนื่อง ตอนนี้น้ำอยู่ที่ระดับ 12.65 เมตร เกินจุดวิกฤติ 15 ซม. ส่งผลให้ ลำห้วยสาขาต่างๆน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายจำนวนมาก ทาง จ.นครพนมได้ระดมเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย นำอุปกรณ์ กระสอบทราย เครื่องสูบน้ำ เร่งทำฝายกั้นน้ำให้ความช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่ประสบภัยตามแนวริมฝั่งโขงในเขต อ.ท่าอุเทน ศรีสงคราม บ้านแพง และ อ.เมืองนครพนม อย่างเร่งด่วน ขณะเดียวกัน นายธีระชัย แสนแก้ว รมช.เกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะเดินทางไปตรวจสภาพน้ำท่วมและแจกถุงยังชีพให้กับชาวบ้านผู้ประสบภัยในเขตพื้นที่ ต.ท่าค้อ อ.เมืองนครพนม พร้อมกำชับให้ทางจังหวัดเตรียม พร้อมเฝ้าระวังให้ความช่วยเหลือประชาชนโดยเร่งด่วน เนื่องจากไม่เคยเกิดสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่แบบนี้มาก่อนในรอบหลายปีที่ผ่านมา

 

ที่ จ.เชียงราย ปริมาณน้ำในแม่น้ำโขงที่เอ่อท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตร 3 อำเภอ ได้แก่ อ.เชียงแสน เชียงของ และเวียงแก่น ได้ลดลงเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว เหลือเพียงบริเวณปากแม่น้ำอิงกับปากแม่น้ำกก หรือสบกก ที่ยังมีน้ำท่วมขังอยู่บ้าง

ชาวบ้านพากันเก็บกวาดบ้านและลำเลียงข้าวของต่างๆกลับเข้าบ้านแล้ว สายวันเดียวกันนายดิษธร วัชโรทัย ประธานมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมด้วยคณะนำสิ่งของพระราช ทานมอบให้แก่ราษฎรที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ อ.เชียงแสน และ อ.เชียงของ
ส่วน จ.น่าน เช้าวันเดียวกันนี้ นายสมพงษ์ อนุยุทธพงศ์ ผวจ.น่าน พร้อมด้วยนางอัญชลี อนุยุทธพงศ์ นายกเหล่ากาชาดน่าน และผู้บังคับบัญชาทหาร ตำรวจ เข้าเยี่ยมดูอาการของสิบเอกภาพ โนฤทธิ์ และพลทหารคมสันต์ กันทะวงศ์ สังกัดกองพันทหารม้าที่ 10 ค่ายสุริยพงษ์ ขณะนอนพักรักษาตัวที่ รพ.ค่ายสุริยพงษ์ หลังออกช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบอุทกภัยน้ำท่วม เขตอำเภอปัว ท่าวังผา และเขตภูเพียง และในเขตเทศบาลเมืองน่าน แล้วป่วยเป็นโรคฉี่หนู โดยทางพันตรี สมัย ขำพันธ์ ผอ.รพ.ค่ายสุริยพงษ์ เฝ้าดูแลอาการอย่างใกล้ชิด

 

พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือและภาคอีสานว่า ขณะนี้กระทรวงมหาดไทยได้เข้าไปดูแลและให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ แต่ยังมีพื้นที่อีก 4 จังหวัดที่น่าเป็นห่วง คือจังหวัดเชียงราย หนองคาย มุกดาหาร นครพนม และในพื้นที่จังหวัดที่ติดริมแม่น้ำโขง เพราะขณะนี้น้ำในแม่น้ำโขงมีระดับสูงจนล้นตลิ่งและทะลักเข้าท่วมพื้นที่เกษตรกร ทำให้นาข้าวเสียหาย ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรโดยตรง อย่างไรก็ตาม ทางกระทรวงมหาดไทย มีงบพิเศษเพื่อเข้าช่วยเหลือเกษตรกร โดยจะจัดซื้อเมล็ดพันธุ์ข้าวและเมล็ดพันธุ์พืชต่างๆ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ ในวันที่ 18 ส.ค.นี้ นายประสงค์ โฆษิตานนท์ รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อตรวจสอบพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในครั้งนี้ด้วย

 นายสุพจน์ โตวิจักษ์ชัยกุล ผอ.สำนักนโยบายและแผนทรัพยากรน้ำ กรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า

ขณะนี้ระดับน้ำที่ จ.เชียงราย กับ จ.เลย ลดลง แต่ที่ จ.หนองคาย และนครพนม น้ำเพิ่มขึ้นเพราะมีปริมาณฝนตกมาก ส่งผลให้แม่น้ำสาขาไม่สามารถระบายน้ำออกได้ โดยที่เลยทำให้น้ำท่วมสูงเป็นวงกว้าง อาทิ อ.เชียงคาน จ.เลย วัดระดับน้ำได้
16.02 เมตร จ.หนองคาย วัดระดับน้ำได้ 15.53 เมตร จ.นครพนม วัดได้ 12.65 เมตร และ จ.มุกดาหาร วัดระดับน้ำได้ 13.66 เมตร ถือว่ามีปริมาณน้ำยังสูงอยู่ แต่ถ้าฝนไม่ตกซ้ำปริมาณน้ำจะลดลง แต่ที่ยังห่วงเพราะฝนยังมีปริมาณมาก ขณะนี้กรมทรัพยากรน้ำได้จัดส่งเจ้าหน้าที่และรถโมบายสำหรับผลิตน้ำดื่มไปช่วยประชาชนในพื้นที่แล้ว
ด้านนายศุภฤกษ์ ตันศรีรัตนวงศ์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กล่าวถึงสภาพอากาศในระยะนี้ว่า มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทยมีกำลังอ่อน ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกน้อยลงในระยะนี้ ส่วนประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้ลุ่มแม่น้ำโขงและลุ่มแม่น้ำสาขาต่างๆ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี ระวังอันตรายจากน้ำล้นตลิ่งและน้ำท่วมฉับพลันในระหว่างวันที่ 16-18 ส.ค.นี้

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์