ทนายเด็กแว้นชี้รอยที่คอด.ต.เป็นสายรัดคาง

คดีเด็กแว้นตกเป็นผู้ต้องสงสัย “ฆ่าตำรวจ” สภาทนายความเตรียมยื่นเรื่องให้สำนักงานนิติวิทยาศาสตร์

ตรวจพิสูจน์ศพผู้ตายอีกครั้ง ชี้ผลชันสูตรศพจากนิติเวช รพ.ตำรวจ ระบุมีแผลกดทับที่ลำคอ สันนิษฐานว่าอาจเกิดจากสายรัดคางหมวกกันน็อกก็ได้ “ผกก.พหลฯ” ชี้เป็นสิทธิของทนาย เผยสอบปากคำพยานไปแล้ว 20 ราย ยังไม่ขอเปิดเผยข้อมูล เปรยอีก 14 วันรู้เรื่อง

กรณีแก๊งเด็กแว้นก่อเหตุรุมสังหารใช้เชือกรัดคอ ด.ต.สัมฤทธิ์ แต้มทอง ผบ.หมู่ งานจราจร สน.วิภาวดีฯ เสียชีวิต

ขณะเข้าจับกุมแก๊งจยย.ซิ่งที่นำรถมาแข่งกันบนถนนวิภาวดี-รังสิต ขาเข้า ใกล้โรงเรียนหอวัง แขวง-เขตจตุจักร เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวกลุ่มเด็กแว้น 4-5 คนมาสอบสวน ซึ่งทั้งหมดให้การขัดกันเอง บางคนบอกผู้ตายล้มฟุบไปเอง อีกคนระบุ ด.ต.สัมฤทธิ์ ถูกตีแล้วถูกฉกเอาปืนไป โดยเห็นชาย 3 คน ในรถเก๋งเซฟิโรสีดำที่จอดหน้ารถตู้ลงมาเดินถือไม้เบสบอลวนรอบที่เกิดเหตุ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ปล่อยตัวทั้งหมด เนื่องจากไม่มีพยานหลักฐานเอาผิดได้  ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีนี้วันที่ 15 ส.ค. พ.ต.อ.อาคม จันทนลาช ผกก.สน.พหลโยธิน เปิดเผยว่า

ขณะนี้กำลังรวบรวมหลักฐาน และสอบปากคำพยาน แต่ไม่ขอบอกรายละเอียดของแนวทางการสอบสวน เนื่องจากผู้กระทำผิดอาจหาช่องทางเพื่อให้พ้นผิด ที่ผ่านมาสอบปากคำพยานไปแล้วประมาณ 20 ปาก อย่างไรก็ตามต้องพิจารณาถึงความน่าเชื่อถือ และไม่ขอเปิดเผย การสอบพยานว่า มีผู้เห็นเหตุการณ์ตำรวจถูกทำร้ายหรือไม่ ขอให้รายละเอียดดังกล่าวอยู่ในสำนวนการสอบสวนก่อนแล้วจะแถลงอีกครั้ง    คงต้องขอเวลาประมาณ 2 สัปดาห์ ในการทำสำนวนให้ละเอียดรอบคอบมากที่สุด เพราะเกี่ยวเนื่องกับชีวิตและอิสรภาพของบุคคล
 
ผกก.พหลโยธิน กล่าวต่อว่า
 
ส่วนกรณีมีข่าวทนายความของสภาทนายความที่แก๊งเด็กแว้นทั้ง 5 คน ขอความช่วยเหลือ จะยื่นเรื่องต่อพนักงานสอบสวนเพื่อขอให้สำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ตรวจพิสูจน์ศพ ด.ต.สัมฤทธิ์  อีกครั้ง เนื่องจากผลการชันสูตรศพจากนิติเวช รพ.ตำรวจ ระบุว่ามีแผลกดทับที่บริเวณลำคอของ ผู้เสียชีวิตนั้น ทนายความมีความสงสัยว่าอาจเกิดจากสายรัดคางหมวกกันน็อก ซึ่งเป็นสิทธิของทนายความที่จะดำเนินการ แต่คงต้องไปศึกษารายละเอียดว่ามีช่องทางใดตามกฎหมายที่จะยื่นเรื่องขอชันสูตรศพใหม่อีกครั้ง แต่คงไม่ต้องมายื่นขอต่อพนักงานสอบสวน.