จับทันควัน แก๊งสตอ.ชั่ว แฉสิ้นไส้!

จากคดี ส.ต.อ.สุริยา หรือโดม ชะระจำนงค์ อายุ 38 ปี ผบ.หมู่ ป.สภ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ร่วมกับพวกดักอุ้มตัวนายสมชาย แซ่เหลียง อายุ 39 ปี เสี่ยร้านขายส้มตำไก่ย่าง

อยู่บ้านเลขที่
182 หมู่ 2 ต.บางคา อ.ราชสาส์น จ.ฉะเชิงเทรา ขณะขับรถพา น.ส.ศิริวรรณ แซ่เหลียง อายุ 16 ปี ลูกสาวและหลานอีก 5 คน ไปส่งโรงเรียนเซนต์หลุยส์ อ.เมืองฉะเชิงเทรา เมื่อเช้าวันที่ 8
ส.ค.ที่ผ่านมา โดยแยกลูกและหลานของนายสมชายไป กักขังไว้ที่ห้องเอ 3 บังกะโลแสนสบาย ริมหาดบางแสน ต.แสนสุข อ.เมืองชลบุรี เรียกค่าไถ่ 3 ล้านบาท ก่อนที่แก๊งตำรวจเหี้ยมจะรุมซ้อม ด.ญ.ปภัสสร ธาราพิศ อายุ 14 ปี หลานของนายสมชาย แล้วขับรถทับจนตายคาที่บริเวณปากซอยหลังวัดเขาดิน หมู่ 5 ต.ห้วยกะปิ อ.เมืองชลบุรี ขณะที่ น.ส.ศิริวรรณแกล้งตายหนีรอดมาได้อย่างหวุดหวิด ส่วนที่หลานของนายสมชายที่เหลือ คนร้ายนำไปปล่อยตัวแล้วนั้น
 


ในที่สุดตำรวจก็สามารถลากคอ ส.ต.อ.โหดกับพวกมาดำเนินคดีตามกฎหมาย


โดยเมื่อเวลา
10.30 น. วันที่ 10 ส.ค. ที่ห้องประชุม บก.ภ.จ.ฉะเชิงเทรา พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ธีรยุทธ กิตติวัฒน์ ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.สุรพงษ์ กายตะวัน ผบก.ภ.จ.ฉะเชิงเทรา และ พ.ต.อ.กิตติพงษ์ เงามุข รอง ผบก.ศสส.ภ.2 นำตัว ส.ต.อ.สุริยา หรือโดม ชะระจำนงค์ ผบ.หมู่ ป.สภ.พนมสารคาม ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดฉะเชิงเทราเลขที่ 489/2551 ในข้อหาร่วมกันจับคนไปเรียกค่าไถ่ โดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือข่มขืนใจด้วยประการใดๆ และกระทำโดยทรมาน หรือทารุณ โหดร้าย มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา โดยไตร่ตรองไว้ก่อน

 

พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศสส.ภ.2 ได้เข้าสืบสวนสอบสวน กระทั่งทราบว่า ส.ต.อ.สุริยาไปซ่อนตัวอยู่ในหมู่บ้านเอื้ออาทรสาม ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี

จึงนำกำลังเข้าจับกุมได้เมื่อเวลา
02.00 น. วันที่ 10 ส.ค. พร้อมของกลางปืน .38 จำนวน 1 กระบอก กระสุน 6 นัด คุมตัวมาสอบสวนขยายผลกระทั่งทราบตัวเพื่อนร่วมแก๊งที่เหลือ ประกอบด้วยนายนิธิ หรือปาน ศรีเจริญ อายุ 40 ปี นายปุณณรัตน์ หรืออ๊อด แสงพวง อายุ 34 ปี และ น.ส.ธมนวรรณ สุวรรณ อายุ 36 ปี เมียนายปุณณรัตน์ ซึ่งชุดสืบสวนจับกุมนายปุณณรัตน์ กับ น.ส.ธมนวรรณ ได้ที่บ้านของทั้งสองคน ในหมู่บ้านปรารถนา 3 หมู่ 3 ต.เสม็ด อ.เมืองชลบุรี พร้อมของกลางยาบ้า 500 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในบ้าน อยู่ระหว่างนำตัวมาสอบสวน

 

รอง ผบ.ตร. กล่าวต่อว่า จากการสอบสวน ส.ต.อ.สุริยา ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า เมื่อราวต้นเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา นายนิธิถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจังหวัดชลบุรี จับกุมในคดีค้ายาเสพติด

ต้องการใช้เงินในการประกันตัว ขอให้ ส.ต.อ.สุริยา ซึ่งสนิทสนมกันมากว่า
12 ปี ตั้งแต่รับราชการเป็นตำรวจรถไฟ ช่วยหาเงินให้ ส.ต.อ.สุริยา จึงวางแผนลักพาตัวนายสมชาย แซ่เหลียง ด.ญ.ปภัสสร ธาราพิศ ผู้ตาย และ ด.ช.ปวริศ ธาราพิศ อายุ 6 ขวบ บุตรของนางทิพาวรรณ สมสร ไปเรียกค่าไถ่ เพราะรู้ว่าเป็นคนมีฐานะดี โดยในวันเกิดเหตุเวลา 06.30 น. ส.ต.อ.สุริยาให้นายปุณณรัตน์และนายนิธิขับรถยนต์โตโยต้า สปอร์ตไรเดอร์ ไม่ทราบทะเบียน มารับที่บริเวณหน้าวัดเมืองกราย ถ.พนมสารคาม-ราชสาส์น ไปดักรอนายสมชายที่บริเวณทางแยกเข้ามหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ ซึ่งเป็นทางเปลี่ยว


กระทั่งเวลา 07.00 น. นายสมชาย แซ่เหลียง อายุ 38 ปี ได้ขับรถกระบะนิสสัน ฟรอนเทียร์ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ตน 2948 กรุงเทพมหานคร

พา น.ส.ศิริวรรณ แซ่เหลียง อายุ
16 ปี ด.ญ.ปภัสสร ธาราพิศ อายุ 14 ปี ด.ญ.บี สมสร อายุ 10 ขวบ ด.ช.ปวริศ ธาราพิศ และ ด.ญ.พีรดา สมสร อายุ 3 ขวบ ลูกและหลานของนายสมชายไปส่งโรงเรียนเซนต์หลุยส์ อ.เมืองฉะเชิงเทรา ผ่านมา ส.ต.อ.สุริยากับพวกได้ขับรถปาดหน้ารถนายสมชาย แล้ว ส.ต.อ.สุริยาได้ลงจากรถใช้อาวุธปืน .38 จี้จับใส่กุญแจมือ พาไปขึ้นรถนายปุณณรัตน์ จากนั้น ส.ต.อ.สุริยาได้ขึ้นไปขับรถของนายสมชาย พาพวกเด็กๆ ไปกักขังที่ห้องเอ 3 บังกะโลแสนสบาย ซึ่ง น.ส.ธมนวรรณ เปิดห้องรออยู่ก่อนแล้ว โดยใช้ชื่อ น.ส.สุรีพร เผือกผ่อง ซึ่งเป็นชื่อเมียเก่าของนายปุณณรัตน์

 
ต่อมาบ่ายวันเดียวกัน ส.ต.อ.สุริยาได้โทรศัพท์ไปเรียกค่าไถ่ 3 ล้านบาท จากแม่ของ ด.ญ.ปภัสสร และ ด.ช.ปวริศ และมีการต่อรองยอดเงินค่าไถ่

กระทั่งเวลา
20.30 น. ได้ขาดการติดต่อไป และคนร้ายทราบว่าแม่ของเด็กได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ จึงสั่งให้นายนิธิกับนายปุณณรัตน์ลงมือฆ่านายสมชาย และให้กลับมารวมตัวกันที่บังกะโลแสนสบาย จนกระทั่งเวลา 01.00 น. วันที่ 9 ส.ค. ส.ต.อ.สุริยากับพวก ได้นำตัว ด.ญ.ปภัสสร และ น.ส.ศิริวรรณไปที่หมู่บ้านเอื้ออาทร หมู่ 5 ต.ห้วยกะปิ อ.เมือง ชลบุรี เพื่อฆ่าทิ้ง โดย ส.ต.อ.สุริยาใช้ผ้าขนหนูรัดคอ ด.ญ.ปภัสสรจนตาย ส่วนนายนิธิได้ใช้ผ้าขนหนูรัดคอ น.ส.ศิริวรรณ แต่ น.ส.ศิริวรรณไหวทันแกล้งทำเป็นตายเมื่อสบโอกาสวิ่งหนีรอดไปได้ ส.ต.อ.สุริยาและนายนิธิได้ขับรถทับร่างของ ด.ญ.ปภัสสรในที่เกิดเหตุ แล้วได้ขับรถตามหา น.ส.ศิริวรรณแต่ไม่พบ ส.ต.อ.สุริยาจึงขับรถปิกอัพของนายสมชายพาตัว ด.ช.ปวริศ ด.ญ.พีรดา และ ด.ญ.บีมาส่งบ้านพักที่ ต.บางคา อ.ราชสาส์น แล้วจอดรถทิ้งไว้ที่ศาลาริมทางหน้าวัดเมืองกราย อ.พนมสารคาม แล้วแยกย้ายกันหลบหนีกระทั่งถูกตำรวจจับกุมได้


ระหว่างแถลงข่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจ ศสส.ภ.
2 ได้นำตัวนายปุณณรัตน์ มีอาการเมายามาที่ห้องแถลงข่าว ส่วน น.ส.ธมนวรรณ ถูกคุมตัวแยกไปสอบสวนเพิ่มเติม ซึ่งทั้งคู่ได้ให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกับ ส.ต.อ.สุริยา ก่อคดีดังกล่าว ส่วนนายสมชาย แซ่เหลียง นายปุณณรัตน์ อ้างว่าถูกนายนิธิฆ่าตาย แต่ไม่รู้ว่าศพถูกนำไปทิ้งที่ไหน

 

จากนั้น พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร. เปิดเผย ส.ต.อ.สุริยาถือว่าเลวมาก เป็นคนที่คุ้นเคยกับบ้านของเหยื่อค่าไถ่ จนเด็กทุกคนในบ้านเรียกว่าลุงดม พ่อดม ยังทำได้ขนาดนี้ ขนาดลักพาตัวไปเรียกค่าไถ่ และลงมือฆ่าเด็กและพ่อ เป็นคนที่วางแผนด้วยตัวเอง เชื่อว่าสาเหตุมาจากติดการพนัน เพราะประวัติเป็นคนชอบเล่นการพนัน แต่ที่รับสารภาพอ้างว่าต้องการหาเงินช่วยเหลือเพื่อนที่เดือดร้อน เป็นเรื่องไม่จริง ไม่มีใครที่รักเพื่อนขนาดนั้น ขณะนี้เชื่อว่ามี ส.ต.อ.สุริยาเป็นผู้วางแผนลงมือ แต่ จะมีการขยายผลหากพบว่ามีตำรวจคนใดเข้ามาเกี่ยวข้อง และจะมีการดำเนินการทางวินัยกับผู้บังคับบัญชาของ ส.ต.อ.สุริยาที่ปล่อยปละละเลย ซึ่งผิดทางคดีอาญาโทษในข้อหาเรียกค่าไถ่ จนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายมีโทษประหารชีวิตสถานเดียว ส่วนนายนิธิ ศรีเจริญ อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาที่ยังหลบหนี ตำรวจได้ออกหมายจับแล้ว คาดว่าจะได้ตัวในเร็วๆนี้

 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการแถลงผลจับกุม ขณะที่ตำรวจกำลังจะนำตัว ส.ต.อ.สุริยาออกจากห้อง นายทองปาน สมศรี อายุ 58 ปี และนางเล็ก สมศรี อายุ 58 ปี พ่อตาและแม่ยายของนายสมชาย

ซึ่งเคยถูก ส.ต.อ.สุริยาอุ้มไปรีดทรัพย์ ได้พา ด.ช.ปวริศ ด.ญ.พีรดา และ ด.ญ.บี มาที่ บก.ภ.จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมด้วย และเมื่อนายทองปาน เห็น ส.ต.อ.สุริยาก็ปรี่เข้าไปชกที่หน้าด้วยความแค้น
1 ที เจ้าหน้าที่ตำรวจรีบเข้าไปแยก แล้วรีบนำผู้ต้องหาเดินทางไปทำแผนประทุษกรรมที่ จ.ชลบุรี

ต่อมาเวลา
12.30 น. พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร. ได้คุมตัว ส.ต.อ.สุริยา ตำรวจโหดไปทำแผนรัดคอฆ่า ด.ญ.ปภัสสร ผู้ตาย

บริเวณปากซอยหลังวัดเขาดิน หมู่
5 ต.ห้วยกะปิ อ.เมืองชลบุรี โดยแสดงท่ารัดคอ น.ส.ศิริวรรณ จนต้องแกล้งทำเป็นตาย แล้วแสดงท่ารัดคอฆ่า ด.ญ.ปภัสสร ก่อนจะขับรถทับร่าง ด.ญ.ปภัสสร โดยใช้ ตุ๊กตาแทนร่างเด็กหญิงเหยื่อโหด จากนั้นได้ไปตรวจห้องเอ 3 บังกะโลแสนสบายที่ใช้กักขังเด็ก ระหว่างนั้นได้รับแจ้งจาก พ.ต.อ.นิพนธ์ โพธิ์ทอง ผกก.ศสส.ภ.2 นำกำลังคุมตัวนายปุณณรัตน์ ไปค้นหาศพนายสมชายว่าพบศพอยู่ในบริเวณพงหญ้าริมถนนสายห้วยขวาง หมู่ 2 ต.เหมือง อ.เมืองชลบุรี ถูกใส่กุญแจมือไพล่หลัง ลำคอถูกรัดเขียวช้ำ จึงไปร่วมชันสูตรก่อนเดินทางกลับ

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์