จับแก๊งนักมวยดังปล่อยกู้โหด-ตื้บลูกหนี้

ตร.ตรังจับแก๊งอดีตนักมวยดัง "จงรัก ลูกพระบาท" ระดับแชมป์เวทีมวย ราชดำเนิน ปล่อยกู้โคตรโหด ดอกเบี้ยร้อยละ60 ใครขอผัดหนี้โดนตื้บทันที ชาวบ้านทนไม่ไหวร้องเรียน ผบก.ตรัง ตรวจสอบพฤติกรรมโหด พร้อมตามรวบตัวมาสอบสวนทั้งแก๊ง อ้างเป็นความยินยอมของทั้งสองฝ่าย ไม่ได้ขู่บังคับ

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 5 ส.ค. พล.ต.ต.ประเสริฐ จันทร์สว่าง ผบก.ตรัง พร้อมด้วย พ.ต.อ.นุกูล ไกรทอง ผกก.สภ.เมืองตรัง

พ.ต.ท.วดล คงพิพัฒน์กุล รักษาการ รองผกก.สส. พ.ต.ท.ณัฐภาคย์ นุ้ยโดด สว.สส. พ.ต.ต. ณฐาภพ พงศาปาน สว.ปป. และพ.ต.ต.อรรถพล วิภาศินนท์ สวป. ร่วมแถลงจับกุมแก๊งทวงหนี้เงินกู้นอกระบบ คิดดอกเบี้ยโหดร้อยละ 60 ต่อเดือน โดยสืบเนื่องจากผู้เสียหายส่วนใหญ่เป็นแม่ค้าตามตลาดนัดต่างๆ ใน จ.ตรัง และกลุ่มคนรับจ้างทั่วไป เข้าแจ้งความและร้องเรียนต่อผบก.ตรัง ว่ามีกลุ่มคนปล่อยเงินกู้นอกระบบ เรียกเก็บดอกเบี้ยร้อยละ 60 ต่อเดือน และจะเรียกเก็บเป็นรายวัน หากผู้กู้ไม่ยอมจ่าย หรือขอผัดผ่อน จะมีกลุ่มชายฉกรรจ์ 2-4 คน ตามทวงหนี้ ด้วยการข่มขู่ว่าจะทำร้ายร่างกาย สร้างความหวาดกลัวให้แก่ผู้กู้เป็นอย่างมาก

จากนั้นตำรวจสภ.เมืองตรัง สืบสวนสอบสวนและสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 4 คน ได้ที่หน้าบ้านเลขที่ 105/33 ถนนพัทลุง เขตเทศบาลนครตรัง

ประกอบด้วย นายประโยชน์ หรือเจ็ง วงษ์อยู่ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 147 หมู่ที่ 2 ต.ห้วยทับมอญ กิ่งอ.เขาชะเมา จ.ระยอง หัวหน้าแก๊ง, นายสุวินัย ล้วนหิรัญ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33 หมู่ 6 ต.โขมง อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี, นายสาธิต พงษ์พิทักษ์ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 22/1 หมู่ 5 ต.โขมง อ.ท่าใหม่ เป็นอดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ต.โขมง และนายประจวบ โสรี อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1/22 หมู่ 7 ต.ธารเกษม อ.พระ พุทธบาท จ.สระบุรี หรือ จงรัก ลูกพระบาท อดีตนักมวยไทยแชมป์เวทีราชดำเนิน

นอกจากนี้ยังตรวจยึดของกลาง จำนวน 8 รายการ ได้แก่ เงินสด 13,150 บาท, โทรศัพท์มือถือ 9 เครื่อง นามบัตรบริษัทเงินกู้ 3 แห่ง คือ ซึ้งใจร่วมทุน เทใจร่วมทุน และล้างใจร่วมทุน เสื้อแจ๊กเกตลายพราง 1 ตัว และรถจักรยานยนต์ 2 คัน รวมทั้งสมุดจดรายชื่อลูกค้า สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนลูกค้า และสำเนาทะเบียนบ้านลูกค้าอีกจำนวนหนึ่ง

จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ต้องหาทั้งหมด มีนายประโยชน์เป็นหัวหน้าแก๊ง นำเงินทุนจากนายทุนที่กรุงเทพฯ มาวางดอกเบี้ย แล้วว่าจ้างให้ผู้ต้องหาอีก 3 คน เป็นคนทวงหนี้

และเก็บดอกเบี้ยรายวันตามรายชื่อลูกค้าที่มีจำนวนกว่า 150 ราย โดยเริ่มปล่อยเงินกู้เมื่อต้นเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา ด้วยการแจกใบปลิว และนามบัตร ระบุว่า สำหรับทุกท่านที่มีปัญหาในกิจการ เราช่วยท่านได้ ตามด้วยหมายเลขโทรศัพท์ของผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ที่ระบุไว้ในนามบัตรแต่ละชื่อบริษัท โดยว่าจ้างให้รถจักรยานยนต์รับจ้างนำใบปลิวไปแจกตามจุดต่างๆ ครั้งละประมาณ 200-300 ใบ

เมื่อลูกค้าหรือผู้เสียหายติดต่อเข้ามา ก็จะปล่อยเงินกู้ตามวงเงินที่ต้องการ ตั้งแต่ 1,000-50,000 บาท เรียกเก็บดอกเบี้ยตั้งแต่วันละ 20-200 บาท ตามสัญญา

โดยใช้สำเนาทะเบียนบ้าน และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของลูกค้าค้ำประกัน หากลูกค้ารายใดไม่ยอมจ่ายเงิน จะข่มขู่ทำร้าย โดยลูกน้องของนายประโยชน์ จะได้ค่าจ้างวันละ 200 บาท ส่วนค่ากินอยู่ นายประโยชน์จะเป็นคนจ่ายให้ทั้งหมด ซึ่งนายประโยชน์จะได้เงินเดือนละ 35,000-40,000 บาท หลังหักค่าใช้จ่ายแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขณะแถลงผลการจับกุม มีผู้เสียหายกว่า 10 คน เดินทางมาชี้ตัวผู้ต้องหา

และสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า ปล่อยเงินกู้เรียกเก็บดอกเบี้ยร้อยละ 60 ต่อเดือนจริง แต่เป็นไปตามข้อตกลงของทั้ง 2 ฝ่าย มิได้มีการข่มขู่ หรือทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด ตำรวจจึงควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ดำเนินคดีในข้อหาให้บุคคลอื่นยืมเงินโดยคิดดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้ (ร้อยละ 15 ต่อปี) ส่วนคดีทำร้ายร่างกาย หรือข่มขู่กรรโชกทรัพย์ทางตำรวจสืบสวนสอบสวนตามกระบวนการของกฎหมายต่อไป

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์