ผัวเครียดทะเลาะกับเมีย ผัดหมี่ผสมยาฆ่าแมลงให้ลูกสาว 2 คนกินจนตาย ก่อนตัวเองจะกินเป็นคนสุดท้ายฆ่าตัวตาย
เมียเผยเคยติดคุกมาก่อน พอออกมาก็ไม่ได้ทำงานทำการอะไร เอาแต่เที่ยวเตร่กินเหล้า ล่าสุดเกิดทะเลาะกันเพราะขโมยทองที่บ้านไปขายเอาเงินไปกินเหล้า พอทวงถามก็ลงไม้ลงมือจนต้องหนีไปนอนบ้านน้องสาว ก่อนเกิดเหตุผัวโทร.ไปตามให้กลับบ้านแต่ไม่กล้ากลับเพราะกลัวจะเจ็บตัวอีก จนรุ่งเช้ากลับไปก็พบผัวและลูกสาววัย 17 ปี และ 12 ปี เป็นศพไปหมดแล้ว
เมื่อเวลา 05.50 น. วันที่ 29 ก.ค. พ.ต.ท.สุทธิศักดิ์ วันที สวส.สภ.พานทอง จ.ชลบุรี รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่มูลนิธิจตุรธรรมพานทองชลบุรี ว่า มีผู้เสียชีวิตที่บ้านเลขที่ 60/49 หมู่บ้านพานทอง ซอย 3 หมู่ 8 ต.มาบโป่ง อ.พานทอง
จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.ปกรณ์ มณีปกรณ์ ผกก. และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวน ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียว เมื่อเปิดประตูบ้านเข้าไปได้กลิ่นยาฆ่าแมลงและกลิ่นศพตลบอบอวล ภายในห้องนอนพบศพผู้เสียชีวิต ศพแรกเป็นชายนอนอยู่บนเตียง ไม่สวมเสื้อ สวมกางเกงขาสั้นสีน้ำตาล นอนน้ำลายฟูมปาก ทราบชื่อคือนายวิชัย ปิยารมย์ อายุ 44 ปี เจ้าของบ้าน ในห้องยังมีผู้เสียชีวิตอีก 2 ราย ทราบชื่อคือ น.ส.เจนจิรา ปินารมย์ อายุ 17 ปี และด.ญ.เจนจินดา ปิยารมย์ อายุ 12 ปี บุตรสาวของนายวิชัย โดยน.ส.เจนจิรากำลังเรียนชั้นม.6 โรงเรียนพานทองสภา ส่วนด.ญ.เจนจินดา เรียนอยู่ชั้นม.1 โรงเรียนเดียวกัน ทั้งคู่จมูกและปากมีสำลีอุดไว้ และพบธูปจำนวนมากตกอยู่เต็มพื้นห้องนอน
แพทย์ชันสูตรพลิกศพเบื้องต้นลงความเห็นว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ชั่วโมง
ในห้องนอนยังพบจดหมายลาตายของนายวิชัย 2 ฉบับ ฉบับที่ 1 เขียนไว้ที่ปฏิทินในห้องว่า ได้ขอเคลียร์เมียแล้ว แต่ไม่ยอมคืนดี เอาแต่ไปนอนที่บ้านน้อง ไม่อยากให้ตัวเองและลูกต้องเป็นภาระของเมียต่อไป จึงขอเอาลูกทั้ง 2 คนไปด้วย ส่วนอีกฉบับหนึ่งเขียนไว้ใต้หมอน ข้อความว่า ขอให้น้องภา (น้องสาว) นำศพพี่และลูกเผาวันนี้ ไม่ต้องทำพิธีอะไร
พ่อผัดหมี่ผสมแลนเนท-ให้ลูกกิน3ศพ
ส่วนภายในครัวพบกระทะตั้งอยู่บนเตา ในกระทะมีผัดเส้นหมี่มีกลิ่นยาฆ่าแมลงเหม็นฉุน และพบขวดนม 2 กล่อง
แก้วเปล่ามีคราบนม 2 ใบและยังพบขวดยาฆ่าแมลงแลนเนทในถังขยะ 1 ขวดจึงเก็บทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน และส่งศพให้สถาบันนิติเวชวิทยาตรวจพิสูจน์อย่างละเอียดต่อไป นางเข็มทราย ปิยารมย์ อายุ 41 ปี ภรรยานายวิชัยและมารดาของเด็กที่เสียชีวิต ให้การด้วยอาการเศร้าสลดว่า ช่วงเวลาประมาณ 4 ทุ่มของคืนที่ผ่านมามีเรื่องทะเลาะกับสามี เพราะนายวิชัยขโมยแหวนทองคำหนัก 1 บาทและพระเหลี่ยมทองหนัก 1 บาทไปขายเอาเงินไปดื่มเหล้า เมื่อกลับเข้ามาบ้านก็ทะเลาะกันอย่างรุนแรงถึงขั้นตบตีจนตนทนไม่ไหว จึงหนีออกไปนอนกับน้องสาวบ้านตรงข้ามกัน จนประมาณ 5 ทุ่มได้ยินนายวิชัยเปิดวิทยุเสียงดังมาก และได้ยินเสียงคนอาเจียน แต่นึกว่าสามีเมาแล้วอาเจียน กระทั่งเช้ามืดจึงกลับเข้าบ้าน เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็ต้องตกใจเมื่อพบว่าสามีและลูกเสียชีวิตดังกล่าว
นางเข็มทราย ให้การอีกว่า ปกตินายวิชัยไม่ทำมาหากินอะไร วันๆ เอาแต่กินเหล้า เที่ยวเตร่ ไม่มีความรับผิดชอบใด
และเคยติดคุกเมื่อ 5-6 ปีที่ผ่านมาในข้อหาลักทรัพย์ พอพ้นโทษออกมาก็เอาแต่เมาทั้งวันทั้งคืน ส่วนตนเองรับจ้างเลี้ยงเด็กหาเงินมาเลี้ยงดูครอบครัว เสียใจมากๆ ที่ต้องสูญเสียบุตรสาวทั้ง 2 คน เพราะทั้งคู่เป็นเด็กดี เรียนหนังสือเก่ง ช่วยเหลือแม่ทำงานมาตลอด สามีไม่น่าทำอย่างนี้เลย
นางเข็มทรายเปิดเผยต่อไปว่า ก่อนหน้านี้ตนได้เปิดร้านคาราโอเกะให้นายวิชัยดูแล ที่ตลาดบ้านเก่า อ.พานทอง ลงทุนไปหลายแสนบาท แต่มาเจอพิษเศรษฐกิจทำให้ธุรกิจขาดทุน จนหมดตัวแต่กิจการไม่ดีทำให้ต้องปิดกิจการ
ต่อมานายวิชัยหันมารับเหมาเดินสายไฟตามบ้าน แต่งานไม่ค่อยมี ทำให้เกิดอาการเครียดหันมาพึ่งสุรา และมักขโมยทรัพย์สินเช่นสร้อยคอ แหวนทองคำของตนไปขาย เกิดเรื่องทะเลาะกันถึงขั้นลงไม้ลงมืออยู่บ่อยๆ ในครั้งนี้เมื่อเกิดทะเลาะกันตนจึงหนีไปนอนที่บ้านน้องสาวซึ่งอยู่ใกล้ๆ กัน ตอนแรกนายวิชัยจึงได้ให้ลูกสาวไปตาม แต่ตนไม่ยอมกลับเพราะกลัวถูกทำร้ายอีก
ต่อมานายวิชัยได้โทรศัพท์มาขอให้กลับบ้าน จึงตอบไปว่าให้นายวิชัยสงบสติอารมณ์ก่อน
ทำให้นายวิชัยเกิดความไม่พอใจ พูดทิ้งท้ายเอาไว้ว่า ถ้าไม่ยอมเข้ามาก็ไม่ต้องอยู่ด้วยกัน กระทั่งรุ่งเช้าจึงเดินไปเคาะประตูบ้าน แต่ไม่มีเสียงตอบ จนหันไปเห็นกุญแจบ้านที่นายวิชัยนำมาวางไว้ที่ตะกร้ารถจักรยาน จึงไปไขเปิดเข้าไปพบว่าสามีและลูกเสียชีวิตทั้งหมด
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า นายวิชัยเกิดความเครียดเพราะไม่มีงานทำ และทะเลาะกับภรรยา หาทางออกให้กับชีวิตไม่ได้ จึงผัดเส้นหมี่ผสมยาฆ่าแมลงให้ลูกสาวทั้ง 2 กินจนตาย จากนั้นกินผัดหมี่ผสมยาพิษฆ่าตัวเองตายตามไปอีกคน