มือปืนพระกาฬสังหารโหดรัวเด็ดชีพอดีต ส.ว.ลพบุรี

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 28 ก.ค. พ.ต.ท.วิทยา นวลรักษา สารวัตร สภ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี รับแจ้งเหตุ ยิงถล่มกันมีผู้เสียชีวิตบนถนนทางเข้าหมู่บ้าน หมู่ที่ 3 ต.โคกสำโรง

จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วพร้อมด้วย พล.ต.ต.เติมพงษ์ สิทธิประเสริฐ ผบก.ภ.จ.ลพบุรี พ.ต.อ.อดิศักดิ์ ดีมาก ผกก.สภ.โคกสำโรง พ.ต.ท.ธนภัทร หนูแก้ว รอง ผกก.ป. พ.ต.ต.ชาติชาย ภักดิ์บุตร สว.สส. นำกำลังตำรวจชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยโคกสำโรงสงเคราะห์เดินทางไปตรวจสอบ


ที่เกิดเหตุเป็นถนนลาดยางและทางโค้งรูปตัวเอส ในคูริมทุ่งนาพบรถปิกอัพมิตซูบิชิ ไทรทัน 4 ประตู สีดำ ทะเบียน กฉ 942 ลพบุรี จอดเสียหลักอยู่

กระจกหน้ารถมีรอยกระสุนเจาะทะลุ 4 รู กระจกแตกร้าวทั้งบาน กระจกประตูหลังขวา 3 รู และกระจกประตูหน้าขวาอีก 1 รู เบาะนั่งคนขับมีคราบเลือดเปรอะเปื้อนแดงฉาน ส่วนผู้บาดเจ็บถูกนำส่ง รพ.โคกสำโรง และเสียชีวิตต่อมา ทราบชื่อนายวรวิทย์ เชื้อเพ็ชร อายุ 47 ปี อดีต ส.ว.ลพบุรี อยู่บ้านเลขที่ 10 หมู่ 1 ต.คลองเกตุ อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี มีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืน .38 เข้าขมับขวา 2 นัด ชายโครงขวา 2 นัด และไหล่อีก 1 นัด รวม 5 นัด ในที่เกิดเหตุบนถนนพบปลอกกระสุนปืนขนาดเดียวกันตกอยู่เกลื่อน 5 ปลอก


สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายขับรถปิกอัพคันดังกล่าวกลับจากดูแลไร่ข้าวโพด มุ่งหน้ากลับบ้านเพียงลำพัง

ถึงที่เกิดเหตุถนนเป็นทางโค้งรูปตัวเอส ได้มีกลุ่มคนร้าย 3 ชุดตามล่าสังหาร โดยชุดแรกนั่งรถปิกอัพอีซูซุ ดีแมคซ์ ไม่ทราบทะเบียน ขับแซงนำหน้า ชุดที่สองนั่งรถเก๋งวอลโว่ แซงประกบขวา และชุดสุดท้ายนั่งรถปิกอัพโตโยต้า ไทเกอร์ ตามหลัง ก่อนชักปืนพกยิงถล่มพร้อมกันทั้ง 3 ชุด กระสุนเจาะร่างพรุน รถเสียหลักพุ่งตกคูข้าง ถนนสิ้นฤทธิ์ หลังมั่นใจเหยื่อไม่รอดแน่แล้วกลุ่มคนร้ายพากันขับรถหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว


ขณะที่แนวทางการสืบสวนทราบว่า ผู้ตายเป็นนักการเมืองที่มีชื่อเสียงในพื้นที่ เคยเป็น ส.ว.ลพบุรี จากการเลือกตั้งเมื่อปี 44-49

และสมัยการเลือกตั้ง ส.ส. ที่ผ่านมา ผู้ตายได้ลงสมัครสังกัดพรรคประชาธิปัตย์แต่สอบตก และผู้ตายได้ทำหนังสือร้องเรียน กกต.ว่า มีการโกงการเลือกตั้งในพื้นที่ เรื่องอยู่ระหว่างการสอบสวนข้อเท็จจริง นอกจากนั้น ผู้ตายยังมีปัญหาเกี่ยวกับญาติน้องที่ไปพัวพันกับผู้มีอิทธิพลบางคนด้วย ตำรวจประมวลจากพยานหลักฐานลงความเห็นว่า กลุ่มคนร้ายเป็นมืออาชีพ เพราะทำงานกันเป็นระบบ และรับรู้ความเคลื่อนไหวของผู้ตายเป็นอย่างดี ในชั้นนี้พุ่งปมการเมือง กับขัดแย้งส่วนตัวเป็นหลัก ซึ่งจะได้สอบสวนคลี่คลายคดีให้แน่ชัดอีกครั้ง


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์