คดีคนร้ายมาทำทีติดต่อซื้อเพชรแอฟริกาจำนวน 2 ก้อน น้ำหนักกว่า 3,800 กะรัต มูลค่ากว่า 315 ล้านบาท จากนางรินทร์ลภัส ปุณยจิรพัฒน์ เจ้าของบริษัทจัดหางานซาป้า อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์วิส
ก่อนออกอุบายขอส่องดูคุณภาพแล้วฉวยโอกาสวิ่งขึ้นรถจักรยานยนต์ที่คนร้ายอีกคนติดเครื่องรอหลบหนีไปไร้ร่องรอยนั้น วันนี้ (25 ก.ค.) พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยความคืบหน้าคดี ว่า ล่าสุด ศาลอนุมัติหมายจับ นายพรหมมา จันทร์มะลิ อายุ 51 ปี ชาว จ.เชียงราย ข้อหาวิ่งราวทรัพย์ หลังพนักงานสอบสวนสอบปากคำพยานและพบหลักฐาน ระบุว่า นายพรหมา คือบุคคลที่เข้ามาติดต่อขอดูเพชร หลังจากนั้นได้ชิงเพชรไปก่อนขึ้นรถจักรยานยนต์ที่ติดเครื่องรออยู่หน้าร้าน ส่วนมูลค่าเพชรนั้น ยังไม่สามารถตีราคาได้ เพราะยังไม่เจียระไน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมา ตำรวจได้นำนายจักรพันธ์ ประมวลสุข อายุ 71 ปี เจ้าของเพชรน้ำหนัก 2,100 กะรัต และนางมณฑาทิพย์ สุขพัฒนา 58 ปี หลานสาวไปสเกตซ์ภาพคนร้ายเพิ่มเติม
พบว่าเป็นชายผิวขาว อายุ 50-55 ปี คล้ายคนจีน โดยชายคนนี้มาพร้อมกับนายพรหมมา ซึ่งตำรวจเตรียมรวบรวมหลักฐานเพื่อขอศาลอนุมัติหมายจับ ร่วมกับคนร้ายที่ขับรถจักรยานยนต์พาหลบหนี นอกจากนี้ ยังมีผู้ร่วมขบวนการอีก 1-2 คน เชื่อว่าทำกันเป็นขบวนการ 4-5 คน วางแผนก่อเหตุล่วงหน้า และพบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุฉกเพชรกับคนร้ายในภาพสเกตซ์เป็นคนต่างด้าวเข้ามาอยู่ในประเทศนานแล้ว และสนิทสนมกับผู้ต้องสงสัยรายหนึ่งที่กำลังจับตาดูพฤติกรรม
นายจักรพันธ์ ย้อนเหตุการณ์ให้ฟังว่า เมื่อวานนี้ (24 ก.ค.) ได้นำเพชรทั้ง 2 ก้อนน้ำหนักรวม 3,850 กะรัต มูลค่า 577 ล้านบาท มาที่บริษัทนางรินทร์ลภัส ปุณยจิรพัฒน์ ที่ซอยวิภาวดี 76 ซึ่งเป็นนายหน้าขายเพชร
กระทั่งเห็นชาย 2 คน ซึ่งเป็นลูกค้ามาขอดูเพชร ตนจึงมอบเพชรให้นางรินทร์ลภัส ซึ่งเอาขึ้นไปให้ลูกค้าดูที่ชั้น 2 โดยไม่อนุญาตให้ตนและนางมณฑาทิพย์ หลานสาวขึ้นไปด้วย อ้างว่าอาจทำให้ลูกค้าสับสน เพราะตนได้ตั้งราคาเพชรไว้ที่กะรัตละ 150,000 บาท แต่นางรินท์ลภัส อ้างว่าตั้งราคาไว้สูงกว่าที่นายจักรพันธ์ ตั้งไว้ นายจักรพันธ์ จึงตกลง สักพักนางมณฑาทิพย์ ก็เห็นชายผิวขาวตามภาพสเกตซ์เดินทางลงมาจากชั้นบนของบริษัท แล้วชำเลืองดูนายจักรพันธ์ ซึ่งนั่งหันหลังให้ประตู ก่อนเดินออกไป
นายจักรพันธ์ เล่าต่อว่า จากนั้นไม่นาน นางรินทร์ลภัส ได้นำเพชรก้อนเล็กลงมาส่งคืนให้ แล้วบอกว่าเพชรก้อนใหญ่ถูกฉกไป
ขณะลูกค้าขอนำออกไปส่องดูน้ำนอกบริษัทเพราะแสงในบริษัทไม่พอ นางมณฑาทิพย์ จึงเอาเพชรก้อนเล็กให้นายจักรพันธ์ ถือไว้แล้ววิ่งตามออกไป แต่ไม่พบใครแล้ว ที่น่าแปลกใจคือนางรินทร์ลภัส ไม่แสดงอาการหวาดวิตกใดๆ ทั้งสิ้น จนนางมณฑาทิพย์ ต้องบอกให้โทรศัพท์แจ้งตำรวจ 191 จากนั้นประมาณ 20-30 นาที ตำรวจและสื่อมวลชนจึงมาที่เกิดเหตุ
นายจักรพันธ์ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เพชรทั้ง 2 ก้อนซื้อมาจากเพื่อนสนิทที่ไปรับจ้างทำเหมืองที่แอฟริกาเมื่อ 15 ปีที่แล้ว ในราคา 1 ล้านบาท โดยตกลงกันว่าหากขายเพชรได้เมื่อใดจะแบ่งให้ และตลอด 15 ปีที่เพชรอยู่กับตนเพื่อนก็ไม่เคยเซ้าซี้หรือถามเรื่องขายเพชรแม้แต่ครั้งเดียว
ส่วนนางมณฑาทิพย์ รู้จักมักคุ้นกันมานานกว่า 5 ปี จนเหมือนเป็นญาติสนิท และบอกให้นางมณฑาทิพย์ หาคนมาซื้อเพชร ซึ่งนางมณฑาทิพย์ ก็ใช้เวลานานหลายปีในการติดต่อ กระทั่งมารู้จักนางรินทร์ลภัส และนางรินทร์ลภัส ได้บอกให้ตนมอบอำนาจในการขายเพชรให้ พร้อมกับทำสัญญาค่านายหน้า ซึ่งในหนังสือสัญญา ระบุชื่อผู้รับค่านายหน้า 3 คน คนละ 19,250,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 57,750,000 บาท ประกอบด้วยนางมณฑาทิพย์ สุขพัฒนา นางรินทร์ลภัส ปุณยจิรพัฒน์ และ พล.ต.ต.ชัยวัฒน์ อุ้ยคำ แต่มาเกิดเรื่องเสียก่อน
Love illusion ความรักลวงตา เพลงที่เข้ากับสังคมonline
Love illusion Version 2คนฟังเยอะ จนต้องมี Version2กันทีเดียว
Smiling to your birthday เพลงเพราะๆ ไว้ส่งอวยพรวันเกิด หรือร้องแทน happybirthday