ด.ญ.เก๋ ผู้เสียหาย เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวถึงเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นว่า วันเกิดเหตุวันที่ 19 มิ.ย. ที่ผ่านมา ทางโรงเรียนมีกิจกรรมไหว้ครู
ตนพร้อมเพื่อนอีก 3 คน คือ ด.ญ.เอ ด.ญ.บี และ ด.ญ.ซี ได้แอบชักชวนกันขี่รถ จยย.ไปเที่ยวห้าง แห่งหนึ่งใน อ.สว่างแดนดิน ซึ่งอยู่ห่างออกไปราว 25 กม. เมื่อไปถึงได้เดินเที่ยวห้างและกินข้าว ก่อนจะเดินทางกลับ ในช่วงเที่ยงวันเดียวกัน ระหว่างทางได้แวะเติมน้ำมันที่ปั๊ม แห่งหนึ่งในเขตเทศบาลฯ และได้พบกับนายโอ๋ซึ่งรู้จัก กับเพื่อนในกลุ่มของตน นายโอ๋ชักชวนพวกตนให้ไปเที่ยว ที่หอพักแห่งหนึ่งตั้งอยู่ด้านหลังโรงเรียนของนายโอ๋ พวกตนเห็นว่าไม่น่าจะมีอะไร จึงตกลงไปที่หอพักดังกล่าว
ระหว่างนั่งพูดคุยกันอยู่หน้าหอพัก ได้มีเพื่อนชาย ของนายโอ๋อีกหลายคนตามมาสมทบ พร้อมซื้อเหล้าขาวมาด้วย 1 ขวด และรินแจกจ่ายให้พวกตนดื่ม
ตอนแรกตนปฏิเสธไม่ดื่ม แต่ทนถูกคะยั้นคะยอไม่ได้ โดยนายโอ๋ บอกว่าถ้าไม่ดื่มจะไม่ยอมให้กลับบ้าน จึงรับมาดื่มไป 1 แก้ว เพราะอยากกลับบ้านเร็วๆ และถูกบังคับให้ดื่มเป็น แก้วที่ 2 จนเริ่มคุมสติไม่ได้ มารู้สึกตัวอีกที ประมาณสี่โมงเย็น เมื่อเพื่อนที่มาด้วยกันปลุกให้ลุกขึ้นกลับบ้าน ตอนนั้นพบว่าตัวเองนอนอยู่ในห้องห้องหนึ่ง ทราบภายหลังว่าเป็นห้องของเพื่อนนายโอ๋ที่อยู่ในหอพักดังกล่าวนั่นเอง ตนรู้สึกเจ็บปวดตามร่างกาย โดยเฉพาะที่บริเวณอวัยวะเพศ แต่ไม่ได้บอกใคร
หลังเหตุการณ์วันนั้น รู้สึกว่าตัวเองตกเป็นเป้าสายตาของเพื่อนๆในโรงเรียน บางคนมองมาที่ตนแล้วหัวเราะคิกคัก แต่ไม่ได้ใส่ใจมากนัก
กระทั่งเมื่อประมาณต้นเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา จึงได้รู้ความจริงว่ามีภาพตัวเอง ปรากฏอยู่ในคลิปวีดิโอ เป็นภาพที่กำลังถูกนายโอ๋ข่มขืน เมื่อสอบถามเพื่อนที่ไปด้วยกันในวันนั้นก็ยอมรับว่ามีเหตุการณ์เกิดขึ้นจริง รู้สึกเสียใจและตกใจมาก แต่ไม่กล้าบอกพ่อแม่ จนเมื่อ 3-4 วันที่ผ่านมา พ่อแม่ทราบเรื่อง หลังมีคนนำคลิปวีดิโอไปให้ดูและเค้นถามความจริง จึงยอมรับสารภาพ
ขณะที่นางแสง มารดาของ ด.ญ.เก๋กล่าวว่า รู้สึกตกใจเมื่อเพื่อนบ้านนำข่าวมาบอกว่ามีภาพของลูกสาวปรากฏในคลิปวีดิโอ
ซึ่งกำลังแพร่ระบาดในกลุ่มวัยรุ่นในเขต อ.สว่างแดนดิน และใกล้เคียง เสียใจมากเพราะไม่คิดว่าจะมีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นกับลูกสาวของตน จึงปรึกษากับญาติๆ และนายคำเส็ง พรหมสากล ผู้ใหญ่บ้าน ก่อนตัดสินใจเข้าแจ้งความ เพราะก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 18 ก.ค. ที่ผ่านมา บิดาของนายโอ๋ ซึ่งเป็นนายตำรวจยศ ร.ต.ต.ได้มาพบตนที่บ้าน พร้อมกับตำรวจนอกเครื่องแบบ 5-6 คน โดยบอกว่าจะมาขอเจรจาค่าสินไหม ตนเกรงจะไม่ปลอดภัย จึงให้ไปตกลงกันที่บ้านของผู้ใหญ่บ้าน นายตำรวจพ่อของนายโอ๋ และเพื่อนตำรวจที่มาด้วยกัน พยายามไกล่เกลี่ยและข่มขู่ โดยบอกว่ายินดีจ่ายเงินค่า เสียหายให้เพียง 2 หมื่นบาท และขอให้ยุติเรื่องทั้งหมด อ้างว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของเด็กๆ หากเกิดคดีขึ้นก็ไม่เสียหายอะไรเพราะทั้งคู่ยังเป็นผู้เยาว์ พ่อของนายโอ๋ยังกล่าวอีกว่าถ้ามีการแจ้งความก็พร้อมจะไปประกันตัวให้ลูกชาย
ด้านนายคำเส็ง พรหมสากล ผู้ใหญ่บ้านทุ่งมน ซึ่งนำผู้เสียหายมาแจ้งความ กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้ผู้ เกี่ยวข้องทุกฝ่ายช่วยกันสอดส่องดูแลลูกหลานตนเอง
โดยเฉพาะตามหอพักและแหล่งมั่วสุม ไม่คาดคิดว่าเหตุการณ์ ลักษณะนี้จะมาเกิดขึ้นในสังคมชนบท ในชุมชนที่ทุกคนต่างรู้จักมักคุ้นกัน โดยเฉพาะตนก็รู้จักทั้ง 2 ฝ่าย และอยากให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอุทาหรณ์ให้กับผู้ปกครอง และครูอาจารย์ อย่างไรก็ตาม คดีนี้ขอวิงวอนให้ผู้ใหญ่และผู้บังคับบัญชารีบลงมาดูแลคดีและข้อเท็จจริงทั้งหมด เพราะครอบครัวของผู้เสียหายอาจถูกข่มขู่คุกคามได้ เนื่องจากไปมีเรื่องกับลูกชายเจ้าหน้าที่ตำรวจ
พ.ต.ท.วีระยุทธ ใบภักดี พงส. (สบ 3) สภ.สว่างแดนดิน เจ้าของคดี กล่าวว่า ขณะนี้ได้รับแจ้งความแล้ว มีการลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเรียบร้อยแล้ว
เป็นคดีความอาญาที่ยอมความไม่ได้ อย่างไรก็ตาม คดีนี้เกี่ยวข้องกับเด็กและเยาวชน จึงต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยจะต้องสอบปากคำเด็กหญิงผู้เสียหายต่อหน้าอัยการ และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องอีกหลายฝ่าย พร้อมกันนี้ ได้ติดต่อฝ่ายผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งเป็นเด็กและเยาวชนเช่นกันให้มาพบพนักงานสอบสวนโดยเร็วที่สุดภายในวันจันทร์นี้ ขอยืนยันว่าพร้อมจะให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย