เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 19 ก.ค. ร.ต.ท.ธนชาติ สุขสวัสดิ์ พงส.(สบ 1) สน.คลองตัน รับแจ้งเหตุจี้ชิงทรัพย์ที่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ปากซอยปรีดี พนมยงค์ 13 ถนนสุขุมวิท 71 แขวงคลองตัน เขตพระโขนง กทม. จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ศิวโรจน์ สุขัควานนท์ ผกก.สน.คลองตัน พบ น.ส.โสนห์ ดาวใส อายุ 20 ปี พนักงานประจำร้าน ยืนรอพบเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยอาการตื่นตระหนก น.ส.โสนห์ให้การว่า
ขณะที่ตนยืนรอ บริการลูกค้าอยู่ในเคาน์เตอร์เพียงลำพัง คนร้ายเป็นชาย สวมหมวกแก๊ปสีดำ เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว กางเกงยีนส์สีดำทำทีเข้ามาซื้อมาม่าและเดินวนดูสินค้าอยู่ในร้าน ประมาณ 5 นาที จากนั้นก็ตรงมาที่เคาน์เตอร์ ดึงอาวุธปืนขึ้นมาขู่ และกวาดเงินในลิ้นชักเก็บเงินไปประมาณ 1,200 บาท ก่อนจะวิ่งออกจากร้านขึ้นรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนขี่หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ด้าน พ.ต.อ.ศิวโรจน์กล่าวว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในร้านพบว่า คนร้ายเป็นคนเดียวกันกับที่ก่อเหตุปล้นเซเว่นฯ 2 ร้านในท้องที่ สน.มีนบุรี เมื่อคืนวันที่ 18 ก.ค. สำหรับปืนคาดว่าน่าจะเป็นปืนปลอม อย่างไรก็ตาม เหตุจี้ชิงทรัพย์ที่เกิดขึ้นติดต่อกัน ทำให้พนักงาน ในร้านสะดวกซื้อต่างๆพากันหวาดกลัว ซึ่งจะต้องเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
จับแล้วโจรจี้เซเว่นฯ-7วัน9แห่ง
ต่อมาเวลา 03.00 น. พ.ต.ท.ภูมิทัศน์ โฆษิตวนิชพงศ์ รอง ผกก.ป.สน.มักกะสัน รับแจ้งเหตุคนร้ายเข้าไปชิงทรัพย์ภายในร้านเซเว่นอีเลฟเว่น สาขาถนนเพชรบุรี ติดกับโรงพยาบาลเพชรเวช แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม. จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
พบ น.ส.อรนุช ภูพวก อายุ 24 ปี พนักงานประจำร้านให้การว่า ขณะที่กำลังจัดของอยู่ในร้านมีคนร้ายเป็นชายสวมหมวกแก๊ปสีดำ เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาว กางเกงยีนส์สีดำ ทำทีเข้ามาเลือกซื้อหมากฝรั่งและเดินมาจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์ ขณะตนกำลังจะหยิบเงินทอนในลิ้นชักเก็บเงิน คนร้ายก็ชักอาวุธปืนออกมาจี้ แล้วเอื้อมมือเข้ามาคว้าเงินไป 1,150 บาท ออกจากร้านตรงไปขึ้นรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน ทะเบียน ขคข 81 ขี่หลบหนีไป หลังทราบเหตุเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งศูนย์วิทยุเพื่อสกัดจับ ต่อมาเวลาประมาณ 04.00 น. ขณะที่ ด.ต.พนัส จันจารุป ด.ต.บัณฑิต อุบล ส.ต.อ.นฤพล ตติยากรณ์ และ ส.ต.อ.เกรียงศักดิ์ เอี่ยมสะอาด ผบ.หมู่สายตรวจ กก.สตร.บก. ตปพ. 191 ขับรถสายตรวจออกตรวจในพื้นที่มาตามถนนพัฒนาการ พบผู้ต้องสงสัยลักษณะการแต่งกายและขี่รถจักรยานยนต์รุ่นเดียวกับคนร้ายที่ก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านเซเว่นฯจึงขับรถติดตาม กระทั่งสามารถจับกุมตัวไว้ได้ทราบชื่อต่อมานายนันทวุฒิ พรมใจ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 80/59 ม. 5 แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กทม. ในสภาพศีรษะแตก นำตัวส่ง สน.มักกะสัน ดำเนินคดี
นายนันทวุฒิให้การว่า ทำงานเป็นช่างซ่อมแอร์ และตู้เย็นอยู่ร้านแห่งหนึ่ง ย่านถนนวัชรพล และเช่าห้องพักอยู่ในบริเวณดังกล่าว มีภรรยากำลังเรียนปริญญาโทอยู่ที่ จ.นครศรีธรรมราช
ผู้ต้องหายังยอมรับว่า ก่อเหตุ ปล้นร้านสะดวกซื้อมาแล้ว 9 ครั้ง และเคยถูกดำเนินคดีข้อหายาเสพติด ในท้องที่ สน.บางชัน เมื่อ 7 ปีที่แล้ว ส่วนสาเหตุที่ก่อเหตุชิงทรัพย์ เพราะจะหาเงินส่งไปให้แม่ทำไร่ที่ต่างจังหวัด และส่งเงินให้ภรรยาเรียนปริญญาโทและเอาไปใช้หนี้แม่ยาย เนื่องจากก่อนหน้านี้เอาทองของแม่ยายไปจำนำ เอามาลงทุนให้เช่าจตุคามรามเทพ แต่ขาดทุนจนหมดตัว นอกจากนั้นยังมีภาระต้องผ่อนจักรยานยนต์งวดละ 1,600 บาท ติดค้างมา 6-7 งวดแล้ว ส่วนเหตุสาเหตุที่ ออกชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน เนื่องจากไม่ค่อยมีคน ทำให้ ก่อเหตุได้ง่าย สำหรับปืนที่ใช้เป็นปืนปลอมขอยืมมาจากรุ่นพี่ที่สนิทกัน
ด้าน ส.ต.อ.นฤพล ตติยากรณ์ สายตรวจ 191 หนึ่ง ในชุดจับกุม เปิดเผยว่า ขณะขับรถออกตรวจพื้นที่พร้อมคู่ตรวจ ด.ต.บัณฑิต อุบล ได้รับแจ้งว่ามีคนร้ายจี้ชิงทรัพย์ ขี่จักรยานยนต์หลบหนีมาตามถนนพัฒนาการ มุ่งหน้าถนนศรีนครินทร์
จึงประสานกับรถสายตรวจของ ด.ต.พนัส จันจารุป และ ส.ต.อ.เกรียงศักดิ์ เอี่ยมสะอาดที่ตรวจพื้นที่ในย่านเดียวกัน ใช้รถสายตรวจ 2 คัน ช่วยกันตรวจสอบ กระทั่งถึงบริเวณแยกลำสาลี เห็นคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ พยายามหลบหนี จึงขับรถติดตามไปอย่างกระชั้นชิด และพยายามให้คนร้ายหยุดรถยอมมอบตัว แต่ไม่เป็นผล จนกระทั่งก่อนข้ามสะพานใกล้ถึงวัดศรีบุญเรือง จึงตัดสินใจขับรถเบียดจักรยานยนต์ของคนร้าย เป็นเหตุให้จักรยานยนต์ล้มลงไปและศีรษะของคนร้ายไปกระแทกกับตอม่อข้างทางจนหัวแตก ทำให้รวบตัวไว้ ได้ในที่สุด จากนั้น เวลา 10.00 น.วันเดียวกัน พ.ต.อ.ศรัณญู ชำนาญราช ผกก.สน.มักกะสัน พ.ต.ต.สืบพงษ์ กรุณา พงส. (สบ 2) เจ้าของคดี ร.ต.อ.สุรินทร์ ภูฤทธิ์ รอง สว.สส. นำตัวนายนันทวุฒิ พรมใจ อายุ 30 ปี ผู้ต้องหา ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ตั้งอยู่ใกล้กับโรงพยาบาลเพชรเวช โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที จึงเสร็จสิ้น พ.ต.อ.ศรัณญู ชำนาญราช เปิดเผยว่า ผู้ต้องหารายนี้ เป็นผู้ต้องหาที่ออกก่อเหตุชิงทรัพย์มาหลายท้องที่ ตำรวจจับได้ครั้งนี้ถือว่าเป็นผู้ร้ายตัวจริง ส่วนสาเหตุที่ทำไปเพราะผู้ต้องหามีหนี้สินรุงรัง สำหรับคดีที่ผู้ต้องหาเคยก่อเหตุไว้จะมีตำรวจท้องที่เจ้าของคดีมาอายัดดำเนินคดีต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.พงษ์สันต์ เอี่ยมอ่อน รอง ผบช.น. เปิดเผยว่า
คดีนี้ผู้ต้องหายอมรับว่าทำมา 9 ครั้ง เพื่อนำเงินไปใช้หนี้ โดยก่อเหตุครั้งแรกเมื่อวันที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยก่อเหตุปล้น 2 ร้านในคืนเดียวกัน ในท้องที่ สน.หัวหมาก ทั้งนี้ ต้องขอชมเชยตำรวจทั้ง 4 นาย ที่สามารถจับคนร้ายได้ ซึ่งจะทำเรื่องไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อมอบรางวัลพร้อมมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวนายนันทวุฒิไปขออำนาจฝากขังต่อศาลอาญา พร้อมคัดค้านการประกันตัว และขอรับตัวกลับไปควบคุมและสอบสวนต่อที่ สน. ศาลพิจารณาคำร้องขอฝากขังแล้ว มีคำสั่งอนุญาตให้ฝากขังได้เป็นเวลา 12 วัน แต่ไม่อนุญาตให้รับตัวไปขังและสอบสวนต่อที่ สน. จากนั้นจึงออกหมายขังให้ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ควบคุมตัวผู้ต้องหาเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯต่อไป