คดีอาจารย์ มธ.บังคับศิษย์สาว “อมนกเขา” ถูกปลดออกแล้ว
โดยที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เมื่อวันที่ 15 ก.ค. นายสุรพล นิติไกรพจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดเผยผลการสอบสวนทางวินัยร้ายแรงกรณี นายกำธร เชิดชูเกียรติ ตำแหน่งอาจารย์ สังกัดคณะวิศวกรรมศาสตร์ มีพฤติกรรมอนาจารต่อนักศึกษาหญิงคณะวิศวกรรมศาสตร์ โดยให้นักศึกษาอมนกเขาเพื่อแลกกับเกรด ว่า กรณีดังกล่าวมหาวิทยาลัยได้มีคำสั่งให้นายกำธรออกจากราชการไว้ก่อนตั้งแต่วันที่ 24 เม.ย. 2551 และตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยร้ายแรง ซึ่งเปิดโอกาสให้นายกำธรนำพยานหลักฐาน เอกสารต่างๆมาแก้ข้อกล่าวหา แต่นายกำธรส่งหนังสือชี้แจงเป็นลายลักษณ์ อักษรเท่านั้น ซึ่งผลจากการสอบสวนทั้งนายกำธรและนักศึกษาที่เสียหาย คณะกรรมการสอบสวนฯ ได้สรุปความเห็นว่า พฤติกรรมดังกล่าวเป็นสิ่งที่บุคคลที่อยู่ในฐานะอาจารย์ไม่ควรประพฤติ เป็นการกระทำผิดวินัยร้ายแรง จึงเสนอโทษให้ปลดออกจากราชการ โดยมีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 24 เม.ย. 2551 เป็นต้นไป
นายสุรพลกล่าวต่อว่า โทษของวินัยร้ายแรงสูงสุดคือ ไล่ออก รองลงมาคือ ปลดออก ซึ่งสาเหตุที่คณะกรรมการสอบสวนฯ ไม่ได้เสนอโทษไล่ออก
เนื่องจากทางคณะกรรมการสอบสวนฯ ไม่มีพยานหลักฐานที่เป็นพยานบุคคลที่เห็นเหตุการณ์ หรือพยานวัตถุ คือ เทปบันทึกภาพและเสียงจากพนักงานสอบสวนที่จะมาเป็นพยานหลักฐานได้ แต่จากพฤติกรรมของนายกำธร ก็ถือว่าทำให้เกิดความเสียหายต่อมหาวิทยาลัย และจรรยาบรรณวิชาชีพอาจารย์แล้ว ทั้งนี้ กรณีปลดออกนั้น ตาม พ.ร.บ. ระเบียบข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา พ.ศ.2547 จะห้ามมิให้ส่วนราชการใดรับกลับเข้ารับราชการได้อีก
“ผมในนามของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ขอโทษต่อสังคมไทยอีกครั้ง ที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นในสถาบันการศึกษาที่เก่าแก่ และขอรับรองต่อสังคมไทยในการดูแล ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก ทั้งนี้ มธ.กำลังทำประชาพิจารณ์เกี่ยวกับจรรยาบรรณของบุคลากร มธ. ซึ่งระบุว่า การล่วงละเมิดทางเพศหรือมีความสัมพันธ์ทางเพศกับนักศึกษา เป็นการกระทำผิดจรรยาบรรณร้ายแรงและเป็นความผิดทางวินัยร้ายแรง ซึ่งจะนำเข้าที่ประชุมสภามหาวิทยาลัยในสัปดาห์หน้า” นายสุรพลกล่าว