ตร.ออกภาพสเกตช์คนร้ายบุกเดี่ยวปล้นเงินแซมโก้เกือบ 12 ล้านแล้ว แยกสอบพนักงานบริษัท จนท.แบงก์ไทยพาณิชย์ รวม 16 คน
พบพิรุธอื้อ ผบช.ภาค 4 ชี้เกลือเป็นหนอน ยืนยัน 100 เปอร์เซ็นต์มีคนในรู้เห็น คน ร้ายมีมากกว่า 1 คน เป็นมืออาชีพ ข้องใจบริเวณจุดเกิดเหตุมีกล้องวงจรปิด แต่ไม่ได้เสียบสายไฟ ตั้งเงินรางวัล 1 ล้านนำจับคนร้าย ผจก.แซมโก้แจ้งความเพิ่มเติม ระบุในรถยังเหลือเงินอีกถุง 8 ล้านไม่โดนปล้นไปด้วย
จากกรณีคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์บุกเดี่ยวเข้าจี้ชิงรถขนเงินของบริษัท สยาม แอดมินนิสเทรทีฟ แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือแซมโก้
ขณะนำเข้าไปจอดใต้ถุนธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสี่แยกมะลิวัลย์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น ได้เงินสดจำนวน 11,980,000 บาท โดยคนร้ายอุ้มถุงใส่เงินสดวิ่งขึ้นรถ จยย.ขับหลบหนี ย้อนเส้นทางหลบหนีลอยนวล เหตุเกิดเมื่อวันที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมา เวลา 16.00 น. หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจภาค 4 พร้อมตำรวจ ภ.จว.ขอนแก่น สภ.เมืองขอนแก่น ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของธนาคารแล้วระดมเจ้าหน้าที่ตำรวจออกค้นหาทุกจุดก็ไม่พบผู้ต้องสงสัย ตามข่าวที่เสนอแล้วนั้น
ความคืบหน้าคดีนี้ เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 13 ก.ค. นายบรรเจิด กาญจนพยัคฆ์ อายุ 43 ปี ผู้จัดการแผนกปฏิบัติการศูนย์ภูมิภาค บริษัทแซมโก้ พร้อมพนักงานในบริษัท 2 คน
เดินทางเข้าพบพ.ต.ท.สวาสดิ์ นวลศรี พงส.สบ.3 สภ.เมืองขอนแก่น เจ้าของคดี ในฐานะตัวแทนของบริษัทเพื่อแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน ในฐานะผู้เสียหายที่ถูกคนร้ายชิงเงินสดในรถขนเงินของบริษัท ขณะที่ขับรถนำเงินไปเก็บไว้ใต้ถุนธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสี่แยกมะลิวัลย์ นายบรรเจิดกล่าวว่า ตนได้รับมอบอำนาจของบริษัทแซมโก้ เพราะเป็นผู้ดูแลศูนย์เงินของภูมิภาคซึ่งมีความรับผิดชอบโดยตรง เบื้องต้นเหตุคนร้ายบุกจี้ชิงเงินสดของบริษัทขณะจอดอยู่ในธนาคารไทยพาณิชย์สาขาดังกล่าว ทราบรายละเอียดเพียงว่ามีคนร้ายเข้ามาจี้ชิงเงินในรถไปเท่านั้น คนที่รู้เห็นดีที่สุดคือคนที่อยู่ในเหตุการณ์ หรือพนักงานทั้งหมดในบริษัทแซมโก้ จ.ขอนแก่น ขณะนี้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น สอบปากคำไปแล้วจำนวนมาก เรื่องคดี การติดตามหาคนร้าย ขอมอบให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ส่วนระบบการป้องกันของบริษัทก็อยู่ในขั้นของสถาบันการเงินต่างๆ ในประเทศยอมรับ แต่ก็เกิดเหตุปล้นจี้รถบริษัทหลายครั้ง
กระทั่งมาเกิดที่ จ.ขอนแก่น ได้เงินไปร่วม 12 ล้านบาท ส่วนอีกถุงหนึ่งที่อยู่ในรถคนร้ายไม่ได้เอาไป มีจำนวนถึง 8 ล้านบาทซึ่งเงินทุกบาททุกสตางค์ได้รับการประกันภัยไว้แล้ว จึงเป็นเรื่องที่บริษัทประกันภัยต้องรับผิดชอบเงินของบริษัทที่ถูกคนร้ายชิงทรัพย์เอาไป เมื่อบริษัทอยู่ในฐานะผู้เสียหายจึงต้องมาแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนเพิ่มเติม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานสอบสวน สภ. เมืองขอนแก่น จำนวน 10 คนสอบสวนผู้เกี่ยว ข้องของบริษัทแซมโก้ และพนักงานธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสี่แยกมะลิวัลย์ จำนวน 16 ราย
โดยแบ่งการสอบสวนเป็นรายบุคคล โดยเฉพาะนายนิยม อาคราช อายุ 29 ปี นายสว่าง ลอดทอน อายุ 35 ปี ทั้งสองคนเป็นพนักงานปฏิบัติการ 2 บริษัทแซมโก้ โดยนายนิยมเป็นคนขับรถ ส่วนนายสว่างเป็นคนถือกุญแจนำเงินในรถมาเก็บที่ธนาคาร และนายอิตติชัย สุราวรรณ์ อายุ 31 ปี รปภ.บริษัทแซมโก้ ทำหน้าที่เป็นรปภ.ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสี่แยกมะลิวัลย์ จากการสอบ สวนพบว่ามีพิรุธหลายอย่าง และเป็นเหตุให้ต้องสงสัยว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนในบริษัทแซมโก้มีส่วนร่วมรู้เห็น
ตร.ออกภาพสเกตช์ แฉคนในปล้น12ล.
นอกจากนี้ พ.ต.ท.ถนอมสิทธิ์ วงษ์วิจารณ์ รองผกก.สส.สภ.เมืองขอนแก่น พร้อมด้วยพนักงานสอบสวน ควบคุมตัวนายนิยมและนายสว่างไปจำลองเหตุการณ์คนร้ายบุกจี้ชิงเงินร่วม 12 ล้านบาท
ในธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสี่แยกมะลิวัลย์ โดยให้ทั้งสองคนจำลองภาพเหตุการณ์ตอนคนร้ายบุกจี้อย่างละเอียดตั้งแต่ต้น พร้อมทดสอบประตูปิดเปิดด้วยระบบไฟฟ้า รวมเวลาคนร้ายบุกจี้ชิงทรัพย์ 3 นาที นำเงินขึ้นรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่หน้าธนาคารหลบหนีไปได้ นายสว่างกล่าวว่า วันเกิดเหตุเป็นเวรของตนซึ่งย้ายจากวันอาทิตย์ไปทำวันเสาร์ ถือว่าเป็นวันแรกที่ได้ย้ายมา การเข้าเวรปฏิบัติหน้าที่ในแต่ละวันมีจำนวน 6 คน โดยเฉพาะวันเกิดเหตุมีคนลา 2 คน มีคนเฝ้าศูนย์ 1 คน เรื่องอย่างนี้น่าเชื่อว่าต้องมีคนภายในเกี่ยวข้อง เพราะการเข้าออกในศูนย์ที่ตั้งอยู่ภายในธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสี่แยกมะลิวัลย์ คนร้ายรู้เป็นอย่างดี ตรงไหนเข้าออกได้ง่าย และยังชำนาญสถานที่หลบหนีอีกด้วย ตนจึงคิดว่าต้องเป็นคนภายในบริษัทเดียวกัน หรือคนในธนาคารที่เกิดเหตุซึ่งรู้รายละเอียดอย่างดี แม้กล้องวงจรปิดไม่เสียบสายที่มีอยู่ใต้ถุนของธนาคารคนร้ายก็ยังรู้ ตนพึ่งรู้ว่ากล้องวงจรปิดเสียในวันเกิดเหตุนั่นเอง เพราะไม่มีใครบอกว่าเสียหรือไม่เสีย อย่างไรก็ตามเมื่อต้นปี 2551 มีคนในบริษัทชื่อว่านายจีรทีป ไม่ทราบนามสกุล ทำงานแผนกเดียวกับตน ทำผิดกฎบริษัทจนถูกไล่ออกจากงาน ตนเชื่อว่าอาจมีส่วนเกี่ยวข้องก็เป็นได้
ต่อมาเวลา 13.00 น. ที่ห้องประชุมศูนย์ประสานงานประชาชนกับตำรวจ สภ.เมืองขอน แก่น ฝ่ายงานป้องกันปราบปราม สภ.เมืองขอนแก่น
พล.ต.ท.วุฒิ วิฑิตานนท์ ผบช.ภ.4 ประชุมร่วมกับพล.ต.ต.พัฒนี ศิริวัฒนี ผบก.ภ.จว. ขอนแก่น พ.ต.อ.จตุพล ปานรักษา รอง ผบก. ศสส.ภ.4 พ.ต.อ.ยรรยง เวชโอสถ ผกก. ศสส.ภ.4 พ.ต.อ.สันติ ไทยเสถียร ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.ท.นพเก้า โสมนัส รองผกก.ป.ฯ พ.ต.ท.ดิเรก ฤทธิ์ ปานเรือนแสง สว.สส.ฯ พ.ต.ท.จินดา เทพยศ สวป.ฯ หัวหน้าชุดสืบสวน ภ.จว.ขอนแก่น กลุ่มงานสืบสวนสอบสวน ศสส.ภ.4 ตำรวจ ภ.จว. ขอนแก่น และตำรวจชุดพยัคฆ์ สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อคลี่คลายคดีปล้นเงิน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้รับผิดชอบบรรยายสรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การบรรยายสรุปครั้งนี้เจ้า หน้าที่เรียกนายทรงพล เสยยงคะ ผอ.ฝ่ายบริหารระบบการจัดการเงินตรา และขนส่งนิรภัย บริษัทแซมโก้ พร้อมหัวหน้าฝ่ายดูแลความปลอดภัยของบริษัท มาสอบถามเพื่อขอทราบรายละเอียดการดำเนินงานของบริษัทแซมโก้
และการปฏิบัติงานของพนักงานปฏิบัติการ 2 รปภ.ของบริษัท นอกจากนี้พนักงานสอบสวนเรียกนายอิตติชัย สุราวรรณ์ มาสอบปากคำเพิ่มเติมเป็นครั้งที่สาม โดยมีตำรวจคอยควบคุมอย่างใกล้ชิด เพราะพนักงานสอบสวนเชื่อว่าอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีบุกเดี่ยวชิงเงินสดร่วม 12 ล้านบาทในครั้งนี้ พล.ต.ท.วุฒิกล่าวภายหลังการประชุมว่า คน ร้ายต้องเป็นคนใน เพราะรู้ทุกอย่างในการเข้าไปจี้ชิงทรัพย์รถเก็บเงินที่อยู่ในธนาคารเกิดเหตุ โดยทราบว่าจุดเกิดเหตุไม่มีกล้องวงจรปิด บริษัทแซมโก้ก็บกพร่องอย่างรุนแรง เพราะไม่ได้ต่อสายเข้ากับกล้องวงจรปิดที่มีอยู่ใต้ถุนธนาคารเกิดเหตุ ช่วงเกิดเหตุมีการผลัดเปลี่ยนเวรของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงเกิดเหตุขึ้น อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่รู้ตำหนิรูปพรรณของคนร้าย ขอยืนยัน 100% ต้องเป็นคนที่อยู่ในศูนย์ของบริษัทแซมโก้ที่มีสาขา จ.ขอนแก่น เกี่ยวข้องแน่นอน ด้วยการให้เบาะแสคนร้าย หรือดำเนินการจี้ชิงทรัพย์เอง ตนเชื่อว่าคนร้ายรายนี้น่าจะมีมากกว่า 1 คนที่ร่วมขบวน การปล้นจี้ชิงทรัพย์รถขนเงินของบริษัทแซมโก้ ขณะนี้มีการตั้งให้เงินรางวัล 1 ล้านบาทซึ่งเป็นเงินของบริษัท ให้กับผู้แจ้งเบาะแสให้ตำรวจในการติดตามจับกลุ่มคนร้ายรายนี้
ผบช.ภ.4 กล่าวต่อว่า การติดตามล่าตัวคนร้ายรายนี้มุ่งเน้นประเด็นคนภายในบริษัทแซมโก้ เพราะคนร้ายรู้ขั้นตอนวิธีการขนเงิน ปฏิบัติการโดยมาสังเกตการณ์จุดชิงทรัพย์ล่วงหน้าประมาณ 1 สัปดาห์ จึงทำงานรวดเร็ว ไม่บกพร่อง ใช้เวลา 3 นาที
และบริษัทแซมโก้ยอมรับข้อบกพร่องในการขนเงิน-เก็บเงินขึ้นลงจากรถยนต์ปิกอัพของบริษัท ภายในใต้ถุนในธนาคารเกิดเหตุ โดยมีกล้องวงจรปิดอยู่ถึง 4 ตัว มีการติดตั้งแต่ไม่มีการต่อสายเข้ากับกล้อง ดังนั้นการสอบสวนจับกุมคนร้ายรายนี้เจ้าหน้าที่รู้เบื้องต้นว่าคนร้ายเป็นมืออาชีพ ใช้ปืนที่ตำรวจนิยมใช้จำนวนมาก เพราะพบหัวกระสุนและปลอกกระสุนในที่เกิดเหตุ ตอนนี้มีพยานเห็นคนร้ายหลายคน แม้ไม่เห็นหน้าก็ตาม หลังหลบหนีมีพยานรู้เห็นที่มาให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจ และมีพฤติกรรมเหมือนคนร้ายที่ชิงทรัพย์ธนาคารแห่งหนึ่งใน จ.ขอน แก่น เมื่อหลายปีที่ผ่านมา ขณะนี้ภาพสเกตช์ออกมาเรียบร้อยแล้ว
"พนักงานสอบสวนสืบสวนแบ่งหน้าที่มากกว่า 10 ประเด็นที่จะต้องไปหาให้แคบลง จนสรุปได้ 4 ประเด็น โดยเชื่อว่าเป็นคนในพื้นที่ จ.ขอนแก่น คนในบริษัทแซมโก้ มีศูนย์ตั้งอยู่ใน จ.ขอนแก่น พนักงานแซมโก้ และแก๊งวัยรุ่นในขอนแก่นที่เสียพนันบอลยูโร 2008" พล.ต.ท.วุฒิกล่าว