ผัวโหดทุบเมีย-ลูกฝังบ่อ ฆ่าหมาซ้ำ-อำพรางกลิ่น

กองปราบฯ รวบผัวโหดฆ่าเมีย พร้อมลูกชาย 3 ขวบ ศพฝังบ่อหลังบ้าน สารภาพหมดเปลือก สาเหตุทะเลาะกันอย่างรุนแรง

สุดโมโหใช้ไม้หน้าสามฟาดจนล้มสลบแน่นิ่ง แล้วนำร่างไปฝัง ชาวบ้านไม่เห็นสองแม่ลูกนาน สอบถาม อ้างหนีตามชู้ไปอยู่ที่อื่น ขณะที่พ่อตาแม่ยายสงสัย ร้องกองปราบฯช่วยสืบหา จนพบที่แท้ผัวเป็นคนฆ่าเอง แฉหวั่นเพื่อนบ้านได้กลิ่นศพ จึงฆ่าหมาแล้วฝังใกล้กันหวังอำพรางกลิ่น

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 11 ก.ค. ที่บก.ภ.จ.กระบี่ พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบช.ก. พล.ต.ต.พศิน นกสกุล ผบก.ภ.จ.กระบี่

แถลงข่าวจับกุมนายประสิทธิ์ หรือเล็ก บุญคง อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59 หมู่ 3 ต.อ่าวลึกเหนือ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ ตามหมายจับศาลจังหวัดกระบี่ ที่ 285/2551 ลงวันที่ 11 ก.ค. 2551 ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ในคดีสังหารนางลำไย แพทย์จันลา อายุ 36 ปี และด.ช.พรเทพ บุญคง อายุ 3 ขวบ ภรรยาและบุตรชายของตัวเอง โดยจับกุมได้ที่บ้านพักแห่งหนึ่งใน อ.อ่าวลึก

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา นายตุ๊ และนางพิศมัย แพทย์จันลา บิดามารดาของนางลำไย เข้าร้องทุกข์ต่อพล.ต.ต.พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผบก.ป. ให้ช่วยสืบหาตัวนางลำไย

หลังหายตัวไปอย่างลึกลับตั้งแต่เม.ย.2549 พล.ต.ต.พงศ์พัฒน์จึงสั่งการให้ชุดสืบสวนกองปราบปราม นำโดย พ.ต.อ.ประยนต์ ลาเสือ พ.ต.อ.ฐิติราช หนองหาญพิทักษ์ รองผบก.ป. พ.ต.อ.วิวัฒน์ ชัยสังฆะ ผกก.ฝป.5 บก.ป. พ.ต.อ.กิตติ สะเภาทอง ผกก.ฝป.8 บก.ป. เข้าทำการสืบสวนลงพื้นที่สอบสวนพยานที่เกี่ยวข้อง

จากการสอบสวนทราบว่า นางลำไยพื้นเพเป็นคน จ.อุดรธานี และอยู่กินกับนายประสิทธิ์มากว่า 10 ปี

โดยทั้งสองช่วยกันทำสวนยางพารา และมีลูกชายด้วยกัน 1 คน คือด.ช.พรเทพ ที่ผ่านมาทั้งสองมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันเป็นประจำ โดยเฉพาะนายประสิทธิ์นั้น เวลาทะเลาะกับนางลำไยจะมีอารมณ์รุนแรง โมโหร้าย โดยเมื่อวันที่ 12 เม.ย. 49 ก่อนที่นางลำไยกับลูกชายจะหายตัวไป นางลำไยมีปากเสียงกับนายประสิทธิ์อย่างรุนแรงถึงขั้นมีการลงไม้ลงมือกัน หลังจากวันนั้น นางลำไยและด.ช.พรเทพหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เพื่อนบ้านใกล้เคียงเคยถามนายประสิทธิ์ว่านางลำไยกับลูกชายหายไปไหน แต่นายประสิทธิ์อ้างว่านางลำไยหนีไปกับชายชู้และพาลูกชายไปด้วย จากนั้นไม่นาน นายประสิทธิ์ไปบวชอยู่ที่วัดเทวดาราม อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช นาน 10 วัน หลังจากสึกออกมาแล้วไม่ได้กลับมาอยู่ที่บ้านหลังนี้ แต่กลับไปอาศัยอยู่บ้านญาติซึ่งใกล้เคียงกันโดยจะกลับมาดูแลบ้านเป็นครั้งคราว

หลังจากนางลำไยกับลูกชายหายตัวไปนาน โดยไม่มีการติดต่อกลับทางบ้าน

ทำให้นายตุ๊และนางพิศมัยติดใจสงสัย เนื่องจากลูกสาวจะติดต่อกลับทางบ้านเป็นประจำ หากไม่โทรศัพท์ ก็จะต้องส่งจดหมายมาหาอยู่สม่ำเสมอ นายตุ๊และนางพิศมัยจึงเดินทางมาตามหาลูกสาวที่จ.กระบี่ โดยสอบถามนายประสิทธิ์ ลูกเขยว่าได้รับการติดต่อจากลูกสาวหรือไม่ แต่นายประสิทธิ์ยังยืนยันว่า นางลำไยหนีตามผู้ชายไปและได้เงินไปหลายแสนบาท แต่นายตุ๊และนางพิศมัยไม่ปักใจเชื่อ จึงเข้าร้องขอความช่วยเหลือจากตำรวจ

หลังสอบสวนพยานที่เกี่ยวข้องแล้ว ชุดสืบสวนกองปราบปรามตรวจสอบประวัติของนางลำไย พบว่าไม่เคยมีปัญหาขัดแย้งกับใคร
 
ประกอบกับข้อมูลที่ได้จากพยานที่ว่านายประสิทธิ์เป็นคนมีอารมณ์รุนแรง สติไม่ค่อยดี และมักทะเลาะกับนางลำไยเป็นประจำ ทำให้ชาวบ้านไม่กล้ายุ่ง จึงเชื่อว่านายประสิทธิ์น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของนางลำไยและลูกชาย ต่อมาวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.อ.ประยนต์ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจประสานเจ้าหน้าที่วิทยาการนำหมายค้นศาลจังหวัดกระบี่เข้าตรวจสอบบ้านพักของนายประสิทธิ์ เลขที่ 59 หมู่ 3 ต.อ่าวลึกเหนือ ซึ่งเป็นบ้านปูนชั้นเดียว 2 หลัง ปลูกติดกันอยู่กลางสวนยางพารา เพื่อหาพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เพิ่มเติม ระหว่างตรวจสอบนั้น เจ้าหน้าที่สังเกตเห็นบ่อเกรอะหลังบ้านหลังที่ 2 มีลักษณะผิดสังเกต เนื่องจากมีดินทรายถมจนเต็มบ่อที่มีความลึกประมาณ 2 เมตร จึงขุดดินทรายในบ่อเกรอะเพื่อตรวจสอบ ระหว่างขุดไปใกล้ถึงก้นบ่อ เจ้าหน้าที่ถึงกับผงะเมื่อพบหัวกะโหลก และโครงกระดูกของผู้ใหญ่และเด็กยังสวมเสื้อผ้าอยู่จำนวน 2 ร่าง จึงเก็บหลักฐานทั้งหมดส่งตรวจพิสูจน์จนแน่ชัดว่าเป็นร่างของนางลำไยกับลูกชายจริง จึงรวบรวมหลักฐานขออนุมัติหมายจับนายประสิทธิ์และติดตามจับกุมตัวมาได้

จากการสอบสวนนายประสิทธิ์ ให้การรับสารภาพว่า วันที่เกิดเหตุทะเลาะกับนางลำไยอย่างรุนแรง หลังจากจับได้ว่านางลำไยแอบส่งเงินกลับบ้าน

แต่นางลำไยกลับนำไม้กวาดมาตี ตนโมโห จึงคว้าไม้หน้าสามฟาดกลับ ขณะที่นางลำไยกำลังอุ้มลูกชายอยู่ด้วย ฟาดไป 3-4 ครั้งจนทั้งภรรยาและลูกชายล้มลงไปนอนแน่นิ่ง จากนั้นนำร่างภรรยาและลูกชายไปที่บ้านหลังที่ 2 ซึ่งอยู่ห่างกัน 50 เมตร แล้วโยนลงบ่ออุจจาระหลังบ้าน ก่อนจะตักดินทรายฝังกลบเพื่ออำพรางคดี นอกจากนี้ตนยังฆ่าสุนัขในบ้านที่เลี้ยงไว้แล้วนำมาฝังใกล้กันด้วย เนื่องจากกลัวว่าศพทั้งสองจะส่งกลิ่นจนทำให้สุนัขไปคุ้ยเขี่ย หากชาวบ้านแถวนั้นได้กลิ่น ก็จะได้อ้างว่าเป็นกลิ่นสุนัขตาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังแถลงข่าว นายประสิทธิ์ขอขมานายตุ๊และนางพิศมัยในสิ่งที่ก่อขึ้น โดยพ่อตาแม่ยายของนายประสิทธิ์ถึงกับน้ำตาคลอเบ้า

พร้อมต่อว่านายประสิทธิ์ว่า หากเลี้ยงลูกสาวไม่ได้ ก็น่าจะบอกกับพวกตน จะได้พากลับบ้านเพราะพวกตนเลี้ยงลูกเองได้ จากนั้นเจ้าหน้าที่นำนายประสิทธิ์ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บ้านที่เกิดเหตุ เริ่มจากจุดที่ทั้งสองทะเลาะกัน จุดที่ลงมือก่อเหตุ และจุดที่นำศพภรรยาและลูกชายไปฝัง เพื่อประกอบสำนวนคดี

อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบประวัติ พบว่าก่อนจะอยู่กินกับนางลำไยนั้น นายประสิทธิ์เคยมีภรรยามาแล้ว 3 คน ซึ่งภรรยาเก่าแต่ละคนหนีออกจากบ้านเช่นกัน
 
แต่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อและกำลังสืบสวนขยายผลอยู่ หากญาติอดีตภรรยาของนายประสิทธิ์รายใดสงสัย ขอให้แจ้งเบาะแสมาที่กองปราบปราม ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ช่วงที่นางลำไยกับลูกชายหายตัวไป มีชาวบ้านบางรายเห็นวิญญาณแม่ลูกคู่นี้มาปรากฏตัวให้เห็นในบริเวณบ้านด้วย นอกจากนั้นช่วงที่นายตุ๊และนางพิศมัยมาตามหาลูกสาวนั้น นางพิศมัยเคยได้กลิ่นธูป หอมโชยผ่านในบริเวณบ้านเหมือนมีอะไรมาดลใจให้เชื่อว่าน่าจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นกับลูกสาวและหลานชาย

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์