ซุกยาบ้า-มือถือ ในรองเท้าเข้าคุก

รวบคาเรือนจำบางขวาง 2 หนุ่มวินจยย.ซุกยาบ้า-มือถือเข้าเยี่ยม 2 นักโทษชาย

เผยซ่อนมาในรองเท้าแตะ 2 คู่ ยาบ้า 199 เม็ด กับมือถืออีก 2 เครื่อง อ้างคนรู้จักกันจ้าง 500 บาทให้นำของมาเยี่ยมผู้ต้องขัง เห็นว่าดีกว่าขับวินเลยยอมรับงาน แต่จนท.ไม่เชื่อเพราะมีพิรุธหลายอย่าง ส่งดำเนินคดีต่อไป เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 11 ก.ค. ขณะที่นายสุธีร์ แสงสว่าง เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ 3 นายธีระพันธ์ พลับพลึง เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ 2 นายวีระพล กูลเกื้อ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ 3 นายสุพรรณ อักษรดี เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ 6 และนายศุภชัย กรรเกษม นักทัณฑวิทยา 7 กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ภายในเรือนจำกลางบางขวาง พบนายชวินทร์ สมิทธิพรผล อายุ 31 ปี และนายพงษ์วิทย์ อนุพัฒน์ อายุ 33 ปี เข้ายื่นเรื่องเพื่อขอนำสิ่งของมาเยี่ยม นช.ณพนธ์ เพียวอยู่ และนช.พงษ์ศักดิ์ เจริญสุข เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจค้นของที่เข้าเยี่ยม

จากการตรวจค้นถุงพลาสติกของนายชวินทร์ภายในบรรจุด้วยรองเท้าแตะ 2 คู่ เสื้อยืด มันฝรั่งกระป๋องและขนมปัง

เมื่อตรวจค้นอย่างละเอียดนั้น พบว่ารองเท้าแตะมีร่องรอยการกรีดผ่าช่วงกลางของรองเท้า จึงแกะออกมาตรวจสอบดู พบว่าบริเวณรอยกรีดใต้รองเท้าดังกล่าว มียาบ้าบรรจุในหลอดกาแฟ หลอดละ 10 เม็ด จำนวน 10 หลอดซุกซ่อน เมื่อตรวจสอบรองเท้าแตะอีกข้างก็พบยาบ้าบรรจุอยู่ในหลอดกาแฟลักษณะเดียวกัน รวมทั้งสิ้น 199 เม็ด

นอกจากนี้ เมื่อตรวจสอบรองเท้าแตะอีกคู่ที่นายชวินทร์และนายพงษ์วิทย์นำมาเยี่ยมผู้ต้องขังก็พบโทรศัพท์มือถืออย่างบาง 2 เครื่องยี่ห้อซัมซุงซุกอยู่ในรองเท้าแตะอย่างละข้าง

จึงยึดของกลางทั้งหมด พร้อมควบคุมตัวนายชวินทร์และนายพงษ์วิทย์ แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองนนทบุรี มารับตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย สอบสวนนายชวินทร์ ให้การว่า เพื่อนชื่อนายเก็ส ไม่ทราบนามสกุล ซึ่งเป็นคนรู้จักกัน ว่าจ้างให้ตนนำของมาเยี่ยมเพื่อนนักโทษที่เรือนจำกลางบางขวาง ในราคา 500 บาท โดยไม่รู้ว่าสิ่งของที่นายเก็สให้นำมาเยี่ยมเพื่อนนั้นเป็นอะไร และไม่รู้จักกับ 2 นักโทษคนดังกล่าวด้วย เมื่อเห็นว่าได้ค่าจ้างดีกว่าขับวินอยู่เฉยๆ จึงรับถุงของจากนายเก็สมาเยี่ยม 2 นักโทษดังกล่าว กระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่จับกุม

ส่วนนายพงษ์วิทย์ ผู้ต้องหาอีกคนให้การว่า ระหว่างวิ่งขับวินมอเตอร์อยู่ที่ปากซอยท่าอิฐนั้น นายชวินทร์ว่าจ้างให้มาส่งที่เรือนจำกลางบางขวาง เพื่อมาเยี่ยมเพื่อนนักโทษ ไม่ได้เอะใจอะไร

จึงรับนายชวินทร์ขับรถมาส่งที่เรือนจำกลางบางขวาง และเข้าไปเป็นเพื่อนกับนายชวินทร์ จนกระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่เรือนจำค้นพบยาบ้ากับโทรศัพท์มือถือและถูกแจ้งข้อหาร่วมกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของ 2 ผู้ต้องหา เนื่องจากเมื่อตรวจสอบรถจักรยายนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า สีชมพู หมายเลขทะเบียน กตฉ 681 นนทบุรี ที่สองผู้ต้องหาใช้เป็นพาหนะมาเยี่ยมนั้น พบกระเป๋าสตางค์ของนายชวินทร์ซ่อนอยู่ใต้เบาะรถ มีเงินสดร่วมหมื่นกว่าบาท เชื่อว่ามีพิรุธ รวมทั้งตัวนายพงษ์วิทย์ ที่อ้างว่าเป็นคนขับรถจักรยานยนต์รับจ้างมาส่งนายชวินทร์ที่เรือนจำกลางบางขวางโดยไม่รู้จักกันนั้น แต่ตัวนายพงษ์วิทย์กลับเข้าไปเยี่ยมผู้ต้องขังพร้อมนายชวินทร์ด้วย ทั้งๆ ที่เมื่อส่งเสร็จแล้วที่หน้าเรือนจำควรจะขับรถกลับทันที จึงแจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดไว้ในครอบครอง และนำส่งของต้องห้ามเข้าไปในเรือนจำ นำตัวส่งพ.ต.ต.ประชา บรรณาธิกร สารวัตรเวร สภ.เมืองนนทบุรีต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวันชัย รุจนวงศ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ มีมาตรการห้ามนําของเยี่ยมมาฝากให้กับนักโทษและออกคําสั่งให้ทุกเรือนจําปฏิบัติมาตั้งแต่วันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา