รวบมือปล้นแบงก์กรุงเก่า

ตร.กรุงเก่าระดมกำลังกว่า 200 นาย บุกค้นบ้านเป้าหมายล่าโจรจี้แบงก์กสิกรไทย สาขาโรจนะ รวบ 2 โจ๋พี่น้องต้องสงสัย หลังพบหลักฐานเพียบ ผ้าปิดปากผืนเดียวกับภาพวงจรปิด ก่อนตะครุบญาติได้อีก 1 มือปฏิบัติการบุกเดี่ยวกวาด 6 แสน


จากกรณี เมื่อวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้มีคนร้ายเป็นชาย อายุประมาณ 35-40 ปี สวมเสื้อแจ๊กเจ็ตสีดำ สวมหมวกกันน๊อค และผ้าปิดปาก ควงปืนบุกเดี่ยวเข้าไปปล้นธนาคารกสิกรไทย สาขาโรจนะ จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมกวาดเงินไปประมาณ 5.9 แสนบาท จากนั้นขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีดำ หลบหนีไป


ความคืบหน้าวันนี้ (11 ก.ค.) เมื่อเวลา  06.00 น.  พล.ต.ต.นเรศ  นันทโชติ  ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา

พร้อมด้วย พ.ต.ท.อำนาจ สุขทรัพย์ศรี รอง ผกก.หน.กลุ่มงานสืบสวน ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 1 รวมกว่า 200 นาย นำหมายศาลเข้าปิดล้อมตรวจค้นบ้านเลขที่ 18  ม.2  ต.บ่อโพง  อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งสืบทราบเป็นบ้านของกลุ่มผู้ต้องสงสัยในคดีปล้นธนาคารกสิกรไทย นอกจากนี้ยังตรวจค้นสถานที่ใกล้เคียงอีก 9 จุด


จากการตรวจค้นพบ หมวกไหมพรหม  ผ้าปิดปาก อาวุธปืนปลอม  กระเป๋าหนังสีดำ  เสื้อแจ๊คเก็ตสีดำ  รองเท้าหนัง  รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ  สีดำ และหมวกกันน๊อค

โดยผ้าปิดปากตรงกับที่คนร้ายใช้ปิดปากเข้าไปก่อเหตุ  นอกจากนี้พบกระเป๋าถือของผู้หญิง บัตรประชาชนคนอื่น บัตรเอทีเอ็ม จำนวนมาก ส่วนที่กองขยะริมน้ำหน้าบ้านหลังดังกล่าว พบชิ้นส่วนของแผ่นป้ายเสียภาษีรถจักรยานยนต์อีกหลายคัน



ต่อมาสามารถควบคุมตัวนาย ปภังกร  สัมมาขันธ์  อายุ 30 ปี และ นาย ธานี  สัมมาขันธ์  อายุ 23 ปี สองพี่น้อง

หลังจากนั้นเจ้าหน้าได้จับกุมเป้าหมายคนสำคัญ คือ นายสมหมาย สัมมาขันธ์ อายุ 45 ปี ซึ่งเป็นญาติสนิทของสองพี่น้อง ได้ที่บริเวณหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ใกล้สี่แยกโคกมะลิ  ต.นครหลวง อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมยาบ้าจำนวน 25 เม็ด จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงเก็บทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน และควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปสอบสวนต่อ


พล.ต.ต.นเรศ  กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากที่เจ้าหน้าที่มีหลักฐานและพยาน จนเชื่อว่า นายสมหมาย คือบุคคลต้องสงสัยที่ก่อเหตุปล้นธนาคารกสิกรไทย

เนื่องจากหลักฐานที่เกิดเหตุ  อาทิ  เสื้อแจ๊คเก็ต  รองเท้า   และผ้าปิดปาก  ตรงกับของคนร้ายที่ก่อเหตุปล้นธนาคาร อีกทั้งรถจักรยานยนต์และหมวกกันน๊อค  ก็ยังคล้ายกับของคนร้ายที่ใช้ก่อเหตุด้วย  เบื้องต้นได้แจ้งข้อหานายสมหมาย มียาเสพติดไว้ในครอบครอง ส่วนคดีการปล้นธนาคารนั้น นายสมหมาย ยังคงให้การปฏิเสธ  อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะเร่งสอบสวนหาตัวคนร้ายที่แท้จริงต่อไป


พล.ต.ต.นเรศ  กล่าวต่อว่า สำหรับนายปภังกร  และนายธานี  ได้ให้การว่า ไม่รู้เห็นกับการก่อเหตุปล้นธนาคาร 

แต่จากหลักฐานที่ค้นพบในบ้านหลังดังกล่าว เชื่อว่าทั้ง 3 คน น่าจะเป็นคนร้ายที่เคยก่อเหตุชิงทรัพย์ในจังหวัดเป็นประจำ เนื่องจากหลักฐานที่พบ คือ กระเป๋าถือของผู้หญิง บัตรประชาชนคนอื่น บัตรเอทีเอ็ม จำนวนมาก และมีแผ่นป้ายจะทะเบียนเสียภาษีรถจักรยานยนต์ เบื้องต้นจะสอบสวนขยายผลต่อไป หากผิดจริงก็จะแจ้งข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์