บุกห้างฆ่าเมีย ส.ต.อ.โหด ยิงตัวตาม 2 ศพ

จ่อยิงเละ 4 นัด คาเคาน์เตอร์



เมื่อเวลา 17.00 น. วานนี้ (5 มิ.ย.) พ.ต.ท.เอกพงษ์ ทองพูล พงส. (สบ 3) สน.บุคคโล รับแจ้งเหตุยิงกันตาย ภายในร้านนาฬิกาซิตี้เชน ชั้น 1 ห้างสรรพสินค้า เดอะมอลล์ ท่าพระ ถนนรัชดาภิเษก-ท่าพระ แขวงบุคคโล เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร (กทม.) จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.จีระศักดิ์ ขำคง ผกก.สส. น.8 พ.ต.ท.สมบัติ มิลินทจินดา รอง ผกก.สส.น.8 พ.ต.ท.สถิตย์ สังข์ประไพ สว.สส.สน.บุคคโล เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และแพทย์นิติเวช โรงพยาบาลศิริราช


บริเวณด้านหลังเคาน์เตอร์ด้านในสุดของร้าน พบศพนางณัฐวดี ปัตตัง อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 90/351 หมู่ 34 ตรอกหมู่บ้านเขตขยายใหม่ แขวงและเขตบางซื่อ กทม. พนักงานขายนาฬิกาของร้านเกิดเหตุ นอนตะแคงซ้ายจมกองเลือดในชุดพนักงาน เสื้อยืดโปโลแขนสั้นสีแดง กางเกงยีน มีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุน 9 มม. รวมทั้งสิ้น 4 นัด เข้าขมับขวา 1 นัด แก้มขวา 1 นัด กลางหลัง 1 นัดและสะบักขวาอีก 1 นัด ในที่เกิดเหตุ พบปลอกกระสุนตกอยู่ 4 ปลอก หัวกระสุน 1 หัว นอกจากนี้ ยังพบจดหมายลาตายเขียนด้วยลายมือบนกระดาษเอ 4 รวมทั้งสิ้น 5 ฉบับ ทราบว่าเป็นของ ส.ต.อ.นพรัตน์ ปัตตัง อายุ 35 ปี ผบ.หมู่ กก.1 บก.ปส.1 บช.ปส. มือปืนผู้ก่อเหตุ สามีของนางณัฐวดีผู้ตายเอง หล่นอยู่ที่พื้น ในที่เกิดเหตุยังพบรองเท้าแตะสีน้ำตาลของ ส.ต.อ.นพรัตน์ถอดอยู่ในร้านทิ้งไว้ด้วย

4นัดซ้อน ยิงตัวตายตามใน แท็กซี่



จากการสอบสวน น.ส.สุมนตรา แสงปันชัย อายุ 27 ปี พนักงานขายร้านเกิดเหตุ ให้การว่า ผู้ตายเป็นพนักงาน เข้าเวรตอนเที่ยงวัน แต่เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. ตนเห็น ส.ต.อ.นพรัตน์ไปป้วนเปี้ยนที่หน้าร้าน เกรงว่าจะไม่ปลอดภัยต่อผู้ตาย เนื่องจากเมื่อวันที่ 3 มิ.ย.ที่ผ่านมา ส.ต.อ.นพรัตน์ได้บุกไปอาละวาดทำร้ายนางณัฐวดี ภรรยามาแล้วครั้งหนึ่ง เนื่องจากหึงหวง ระแคะระคายว่ามีผู้ชายไปติดพัน แต่พนักงานในร้านได้ช่วยกันห้ามปรามพร้อมแจ้งตำรวจสายตรวจไประงับเหตุ ทำให้ไม่เกิดเรื่องบานปลาย ตนจึงโทรศัพท์ไปบอกนางณัฐวดีผู้ตาย ว่าสามีไปรออยู่ที่ร้าน นางณัฐวดีจึงขอเลื่อนเวลาเข้าเวรไปตอน 4 โมงเย็นแทน จนกระทั่งถึงเวลาดังกล่าว ผู้ตายไปทำงาน

ขณะกำลังจัดเก็บสิ่งของอยู่ภายในร้าน จู่ๆ ส.ต.อ.นพรัตน์ก็โผล่พรวดเข้าไปประชิดตัวนางณัฐวดี จากนั้นตะคอกถามว่ามึงจะเอายังไง เมื่อผู้ตายย้อนกลับว่ามีอะไร ส.ต.อ.นพรัตน์ไม่พูดต่อ ชักปืนจ่อยิงเผาขนรวม 4 นัด จนร่างภรรยาล้มลงตายคาที่ เสร็จแล้ววิ่งหลบหนีออกไปทางด้านหลังห้าง โดยทำจดหมายลาตายที่ถือมาตกไว้

ภายหลังทราบรายละเอียด เจ้าหน้าที่ได้วิทยุแจ้งสกัดจับตามเส้นทางหลบหนี ในที่สุดได้รับแจ้งว่า ส.ต.อ.นพรัตน์เรียกรถแท็กซี่หลบหนีแล้วไปยิงตัวตายคารถ แท็กซี่ บริเวณปากซอยสมเด็จพระเจ้าตากสิน 19 แขวงบุคคโล เขตธนบุรี

แท็กซี่จอดรถแจ้งเหตุ อึ้งยิงตัวตายในรถ



เมื่อไปตรวจสอบ พบรถแท็กซี่โตโยต้า สีส้ม ทะเบียน ทพ 7192 กรุงเทพมหานคร ของสหกรณ์ปทุมวันแท็กซี่ จำกัด จอดอยู่เลนกลางมุ่งหน้าแยกจอมทอง ส่วนเบาะหลังด้านซ้าย พบร่างไร้วิญญาณของ ส.ต.อ.นพรัตน์ คอพับพิงประตู สภาพศพยิงกรอกปากตัวเอง กระสุนทะลุตาขวาถลนออกมานอกเบ้า สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีดำขลิบแดงขาว กางเกงขายาวสีน้ำเงิน บนตักพบทูตมรณะ 9 มม.ยี่ห้อนอรินโก ผลิตในประเทศจีน ทะเบียน อบ 11/526 มีกระสุนเหลืออีก 1 นัด

จากการสอบสวนนายวุฒิชัย รัตนพิเชฐกุล อายุ 51 ปี โชเฟอร์แท็กซี่คันดังกล่าวให้การว่า รับผู้ตายมาจากป้ายรถเมล์หน้า รพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า ให้ไปส่งที่สามแยกจอมทอง โดยมีท่าทีลุกลี้ลุกลนกระสับกระส่ายผิดสังเกต หลังจากไปกลับรถเพื่อมุ่งหน้าแยกจอมทอง ผู้โดยสารได้บ่นให้ฟังว่ามีปัญหาหลายด้านเหลือเกินแก้ไม่ตก และขอโทษพี่ด้วย เมื่อพูดจบได้ชักปืนออกมายิงกรอกปากตัวเอง จนทำอะไรไม่ถูก ต้องจอดรถแจ้งเหตุ


ด้าน ส.ต.อ.พงษ์สาร นนท์ตา อายุ 35 ปี ผบ.หมู่งานปราบปราม สน.บุคคโล เพื่อนร่วมรุ่นของผู้ตาย ให้ราย ละเอียดเพิ่มเติมว่า ผู้ตายจบ นพต.รุ่น 68 รุ่นเดียวกันและสนิทกันมาก แต่งงานอยู่กินกับนางณัฐวดีมา 8 ปี มีลูกด้วยกันเป็นผู้ชาย 1 คน อายุ 4 ขวบ อยู่กับญาติฝ่ายหญิงที่ จ.พะเยา ผู้ตายเคยเล่าให้ฟังว่ามีปัญหากับแฟน เมื่อ 2 อาทิตย์ที่แล้ว เปิดโทรศัพท์ของภรรยาดู พบข้อความหวานแหววส่งมาให้ สงสัยจะแอบมีความสัมพันธ์ชู้สาวกับชายอื่น จึงเกิดทะเลาะกันจนต้องแยกกันอยู่ แต่ ส.ต.อ. นพรัตน์คิดไม่ตก กลับไปอาละวาดที่ร้านทำงานของเมียจนเรื่องถึงตำรวจ


ต่อมาวันที่ 4 มิ.ย. ทั้งคู่ได้เดินทางไปลงบันทึกประจำวันที่ สน.บุคคโลว่าจะขอแยกทางต่อกันโดยดี ไม่มีการทำร้ายร่างกายกัน และตำรวจได้ลงบันทึกประจำวันไว้เรียบร้อยแล้ว หลังจากแยกทางกัน ส.ต.อ.นพรัตน์ ได้ปรับทุกข์กับตนว่า มีปัญหารุมเร้าหลายด้าน ทั้งเรื่องครอบครัวที่ถูกเมียร้องเรียนเรื่องพฤติกรรมและหน้าที่การงาน ซึ่งเคยทำหน้าที่เป็นชุดสืบสวนจับกุมยาเสพติด ก็ถูกผู้บังคับบัญชาลงโทษทางวินัย ให้ไปเข้าเวรยามที่ บช.ปส.เป็นเวลา 2 เดือนแทน ตนยังปลอบใจว่าอย่าไปคิดอะไรมากเลยเพื่อน แต่ทาง ส.ต.อ.นพรัตน์พูดเป็นปริศนาว่าพูดไปก็เหมือนแค่ยื้อเวลาไว้เท่านั้น ก่อนจะก็ลงจาก สน.กลับไป

ทิ้งจดหมายลาตายปริศนา



ส.ต.อ.พงษ์สารให้รายละเอียดต่อว่า ต่อมาเวลา 13.47 น. ส.ต.อ.นพรัตน์ได้โทรศัพท์มาหาตนอีก บอกว่าได้เขียนจดหมายลาตายทิ้งไว้แล้ว ก่อนวางหูไปเฉยๆ โดยไม่ทราบว่าจะเกิดอะไรขึ้น กระทั่งมาทราบอีกที ส.ต.อ.นพรัตน์ยิงภรรยาแล้วยิงตัวเองตายตามไปแล้ว

ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบข้อความในจดหมายทั้ง 5 ฉบับ พบว่าเขียนถึง ผบช.ปส. 1 ฉบับ ผกก.1 ปส. 1 ฉบับ เพื่อนร่วมรุ่น 1 ฉบับ ญาติและระบายความในใจอีกคนละ 1 ฉบับ สรุปใจความว่าขอโทษที่ต้องกระทำอย่างนี้ ฝากญาติให้ช่วยใช้หนี้เพื่อนฝูงด้วย 100 บาท นอกจากนี้ยังทิ้งปริศนาฝากถึง ผกก.1 ปส.อีกด้วยว่า ผกก.ไม่เข้าใจเรื่องยาเสพติด ผกก.ไม่เข้าใจเรื่องเงิน 5 ล้าน ซึ่งพนักงานสอบสวนได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

ผู้บังคับบัญชาเปิดเผย ถูกอ้างถึงเพราะผู้ตายเข้าใจว่ายุ่งเรื่องครอบครัว



ด้าน พ.ต.อ.ชาตรี ไพศาลศิลป์ ผกก. 1 บก.ปส. 1 บช.ปส. ผู้บังคับบัญชาของ ส.ต.อ.นพรัตน์ เปิดเผยว่า ส.ต.อ.นพรัตน์ หรือหรั่ง มีปัญหาครอบครัว ทะเลาะกับภรรยา เพราะจับได้ว่าภรรยาส่งข้อความทางโทรศัพท์ถึงผู้ชายคนหนึ่ง จึงเกิดความหึงหวงหวาดระแวง แล้วทะเลาะกัน ทางภรรยาอ้างว่าแค่เอาใจลูกค้าไม่ได้มีความสัมพันธ์ชู้สาว และได้เข้าพบตนเล่าเรื่องราวให้ฟัง จึงเรียก ส.ต.อ.นพรัตน์มาปรับความเข้าใจกัน ส.ต.อ.นพรัตน์ก็ รับปากว่าจะปรับปรุงตัว แต่ก็มีปัญหากันอยู่บ่อยครั้ง กระทั่งฝ่ายหญิงทนไม่ไหวทำเรื่องถึงหัวหน้างานขอย้ายไปประจำศูนย์ขายที่ภาคเหนือเพื่อหนีปัญหาครอบครัว ตนเห็นว่าไม่อยากให้เรื่องบานปลายจึงตัดปัญหาให้ ส.ต.อ. นพรัตน์ไปเข้าเวรยามที่ บช.ปส. แต่ก็ไม่สามารถแก้ปัญหา ได้


เพราะ ส.ต.อ.นพรัตน์ก็ยังแอบไปหาเรื่องภรรยาอยู่ร่ำไป กระทั่งทั้งคู่ตกลงแยกทางกันโดยดี ก็ไม่คิดว่าจะจบลงเช่นนี้ ส่วนเรื่องเงิน 5 ล้านบาทที่อ้างถึงนั้น เป็นเงินล่อซื้อยาเสพติดในคดีเก่า เมื่อครั้งที่ตำรวจ ปส.ชุดปราบปรามยาเสพติดถูกตำรวจนครบาลจับกุมว่าพัวพันกับแก๊งค้ายาบ้า เรื่องนี้ได้ชี้แจงกับหน่วยงานที่จับกุมกันเรียบร้อยแล้ว เข้าใจว่าทาง ส.ต.อ.นพรัตน์ไม่พอใจตนเป็นการส่วนตัว ที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องผัวเมียเลยนำมาระบายในจดหมาย


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์