สาวบาร์เบียร์พัทยาวิ่งโร่มอบตัว หลังร่วมกับเพื่อนสาวอีกคนที่ถูกจับได้ฆ่าโหดเฒ่าฮอลแลนด์ เผ่นหนีไปกบดานเมืองจันทน์
แต่ทนถูกตำรวจกดดันอย่างหนักไม่ไหวยอมมอบตัวแต่โดยดี สารภาพไม่พอใจผู้ตายยึดกุญแจรถ-ไม่ยอมให้กลับ หลังร่วมหลับนอนกัน คว้าท่อนเหล็กฟาดหัว เสียบซ้ำด้วยดาบทะลุคอหอยตายสยองคาที่ ก่อนราดน้ำมันจุดไฟเผาอำพรางคดี ไม่ให้เสียเที่ยวจัดการปลดนาฬิกาและแหวนทองคำฝังเพชร มูลค่าร่วม 3 ล้านติดตัวหลบหนี
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 10 ก.ค. พล.ต.ท.ธีรยุทธ กิตติวัฒน์
ผบช.ภ.2 พร้อมด้วย พ.ต.อ.สรายุทธ สงวนโภคัย ผกก.สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม น.ส.รัตนา อินทิราช อายุ 29 ปี กับ น.ส.จันทร์จิรา กอบแก้ว อายุ 23 ปี สองสาวบาร์เบียร์ ผู้ต้องหาร่วมกันใช้อาวุธมีดดาบเสียบคอฆ่า นายมาตินัสโจฮานเนส กราร์ดัส แอนโทเนียส์ โจเชม อายุ 63 ปี สัญชาติเนเธอร์แลนด์ แล้วจุดไฟเผาบ้านจนวอด เหตุเกิดภายในบ้านพักของผู้ตาย เลขที่ 68/5 หมู่บ้านบาหลีวิลเลจ หมู่ 1 ต.หนองปลาไหล อ.บางละมุง โดยมีผู้ไปพบศพเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 7 ก.ค.ที่ผ่านมา พร้อมกับยึดของกลางเป็นทรัพย์สินของผู้ตายคือ นาฬิกาข้อมือราคากว่า 2 ล้านบาท และแหวนทองคำฝังเพชร 1 วง
พล.ต.ท.ธีรยุทธ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ได้เชิญ น.ส.รัตนา อินทิราช มาสอบปากคำอย่างเคร่งเครียด จึงยอมเปิดปากรับสารภาพว่า ร่วมกับ น.ส.จันทร์จิรา ลงมือฆ่านายมาตินัส
สาเหตุเพราะผู้ตายยึดโทรศัพท์ของ น.ส.จันทร์จิราและกุญแจรถของ น.ส.รัตนาไว้ ไม่ยอมให้กลับบ้าน ซึ่งการสอบสวนในขั้นแรก น.ส.รัตนาให้การว่า น.ส.จันทร์จิรา เป็นคนลงมือใช้มีดเสียบคอผู้ตาย ส่วนตัวเองเป็นคนลงมือราดน้ำมันจุดไฟเผา ซึ่งหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายจับ น.ส.จันทร์จิรา และกดดันอย่างหนัก จึงทำให้ น.ส.จันทร์จิรา ยอมเข้ามอบตัวกับตำรวจเมื่อช่วงเช้าวันเดียวกันนี้
พล.ต.ท.ธีรยุทธ เผยต่อไปว่า แต่จากการนำทั้งคู่มาสอบสวนแบบประจันหน้ากัน น.ส.รัตนาจึงยอมรับสารภาพว่า เป็นคนลงมือใช้มีดดาบเสียบคอนายมาตินัสจนตายเอง
ส่วน น.ส.จันทร์จิรา คู่ขาของผู้ตาย เป็นผู้อยู่ในเหตุการณ์ และช่วยกันทำร้ายนายมาตินัส สาเหตุที่ทำไปเพราะแค้นที่ถูกยึดกุญแจรถและโทรศัพท์ ซึ่งเป็นของ น.ส.รัตนาทั้งหมด ไม่ได้เป็นของ น.ส.จันทร์จิรา ซ้ำผู้ตายยังลงมือทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ จึงใช้ท่อนเหล็กกระหน่ำตีขณะที่ผู้ตายเข้าไปล้างหน้าที่ห้องน้ำ แล้วคว้าเอามีดดาบที่ห้อยโชว์อยู่ในบ้าน เสียบเข้าที่คอจนทะลุ แล้วฉกเอานาฬิกาเรือนทองและแหวนทองฝังเพชรมาแบ่งกัน
หลังจากนั้น น.ส.รัตนา กลับไปทำงานตามปกติ แล้วย้อนกลับมาบ้านที่เกิดเหตุเมื่อช่วงกลางดึก
พร้อมกับนำน้ำมันเบนซินมาราดแล้วจุดไฟเผาเพื่ออำพรางคดี ส่วน น.ส.จันทร์จิรา หลบหนีไปพักอยู่กับเพื่อนที่ อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี จนถูกตำรวจกดดันอย่างหนัก จึงยอมเดินทางมามอบตัวดังกล่าว ต่อมาตำรวจควบคุมตัวทั้งสองคน ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุ โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชม.จึงแล้วเสร็จ ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.