เมื่อ 9 ก.ค. เอเอฟพีรายงานว่า ราคาน้ำมันในตลาดโลกดีดตัวกลับขึ้นมาอีก
เมื่ออิหร่านทดสอบยิงขีปนาวุธรุ่นใหม่ "ชาฮับ 3" พิสัยทำการไกล 2,000 กิโลเมตร ทำให้รัฐบาลสหรัฐไม่พอใจมากและว่าอาจนำไปสู่สงคราม ท่ามกลางบรรยากาศการเมืองที่ตึงเครียดขึ้นอีก ส่งผลให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นที่ 138 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังช่วง 2 วันก่อนเพิ่งลดลงไปต่อเนื่องเกือบ 10 ดอลลาร์
นายกอร์ดอน จอห์นโดร โฆษกทำเนียบขาว แถลงว่า รัฐบาลสหรัฐขอประณามการทดสอบอาวุธครั้งนี้ของอิหร่าน
และเรียกร้องให้อิหร่านยุติโครงการขีปนาวุธทั้งหมด เพราะถือเป็นการละเมิดมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ที่น่าวิตกคือ ขีปนาวุธนี้อาจติดตั้งอาวุธนิวเคลียร์ได้ด้วย การซ้อมยิงขีปนาวุธของกองทัพอิหร่านจำนวน 9 ลูก เป็นชาฮับ 3 ลูกหนึ่ง เจตนาตอบโต้อิสราเอล มีขึ้นตั้งแต่ช่วง 8 โมงเช้า โดยภาพทางทีวีแสดงให้เห็นเป็นเขตทะเลทราย พล.อ.อ.ฮอสเซน ซาลามี แห่งกองทัพอิหร่าน แจ้งว่า การซ้อมยิงขีปนาวุธครั้งนี้ต้องการให้ประเทศปรปักษ์ที่มีแผนโจมตีแหล่งที่ตั้งนิวเคลียร์ของอิหร่านก่อนได้ประจักษ์ว่า อิหร่านพร้อมจะป้องกันตนเอง ขีปนาวุธของอิหร่านตอบโต้ได้รวดเร็วและแม่นยำ ดังนั้นศัตรูจะได้ไม่ตัดสินใจอะไรผิดพลาด
วันเดียวกัน รัสเซียข่มขู่ว่า จะใช้เทคโนโลยีทางทหารพัฒนาอาวุธใหม่ๆ ขึ้นมาตอบโต้หากสหรัฐติดตั้งโล่ป้องกันขีปนาวุธ บริเวณประเทศที่ติดกับชายแดนของรัสเซีย
หลังจากดร.คอนโดลีซซา ไรซ์ รมว.ต่างประเทศสหรัฐ ลงนามในข้อตกลงกับนายคาเรล ชวาร์เซนเบิร์ก รมว.ต่างประเทศสาธารณรัฐเช็ก ให้สหรัฐเข้าไปติดตั้งระบบเรดาร์บริเวณชายแดนเช็ก ซึ่งสหรัฐอ้างว่าเพื่อป้องกันการคุกคามจากโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน