แม่พาลูกนศ.ปวช.แจ้งจับวิทยากรอดีตแชมป์มวยไทยข่มขืน

แม่พาลูกสาวนศ.ปวช.ปี 1 เข้าแจ้งถูกวิทยากรรับเชิญสอนมวยไทย อดีตแชมป์มวยไทยค่าย"ส.ธนิกุล"ข่มขืน เผย ใช้มีดจี้ไปข่มขืนครั้งแรก ก่อนข่มขู่ให้เป็นทาสสังเวยกาม สุดท้ายถูกบันทึกหลักฐานการสนทนานำมาแจ้งความ

เหตุฉาวเรื่องครูกระทำอาจารและข่มขืนลุกศิษย์อีกครั้ง ถูกเปิดเผยขึ้นเวลา 15.30 น.วันที่ 5 ก.ย.นางสุภาภร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 46 ปี ผู้เป็นแม่ของผู้เสียหาย อยู่ต.ทุ่งเบญจา อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ได้พานางสาวโบว์ (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี บุตรสาว นักศึกษาระดับปวช.ปี 1 วิทยาลัยแห่งหนึ่ง เข้าแจ้งความพ.ต.ท.สยาม จิตเพียร สารวัตรสืบสวนสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองจันทบุรี ให้ดำเนินคดี นายสมบัติ อินทวรรณ อายุ 50 ปี วิทยากรรับเชิญที่เข้ามาสอนวิชามวยไทย ให้สถานบันดังกล่าว และเป็นอดีตนักมวยไทย แชมป์ 2 สถาบันจากเวทีราชดำเนิน ใช้ชื่อในการชกมวยว่า "คมพยัคฆ์ ส.ธนิกุล"

ทั้งนี้กล่าวหาว่า นายสมบัติ ใช้มีดจี้บังคับข่มขู่บุตรสาวพาไปข่มขืน ถึง 2 ครั้ง ที่โรงแรมแห่งใจกลางเมืองจันทบุรีที่อยู่ใกล้สถาบัน และในช่วงเช้าของวันนี้ นายสมบัติ โทรศัพท์มาหาบุตรสาวอีกครั้ง เพื่อนัดหมายให้ไปหลับนอนด้วย โดยขู่บังคับไม่ให้บอกใคร ไม่เช่นนั้นจะฆ่าให้ตาย ซึ่งครั้งนี้ นางสาวโบว์ จึงได้ใช้โทรศัพท์บันทึกการสนทนาไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะพร้อมกับผู้ปกครองเข้ามาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินคดีกับ นายสมบัติ อินทวรรณ ไม่ให้ไปบังคับข่มขืนใครอีก

น.ส.โบว์ เปิดเผยทั้งน้ำตา ว่า นายสมบัติ เป็นวิทยากรรับเชิญของวิทยาลัยฯ เข้ามาสอนศิลปะมวยไทย ได้ 3 เดือน นอกจากนี้มีเพื่อนนักศึกษาหญิงอีกหลายสิบคน ได้โดนครูมวยแสดงพฤติกรรมลวนลามทางเพศ ทั้งการพูดจาแทะโลมและการถูกเนื้อต้องตัว

ส่วนเรื่องของตัวเองถูกครูมวยบังคับข่มขืนเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อกลางเดือนมิถุนายน 2551 ที่ผ่านมา โดยขณะที่นั่งรอเพื่อนที่หน้าร้านเกมส์ แห่งหนึ่งใกล้กับวิทยาลัย นายสมบัติ ได้ใช้มีดจี้ด้านหลังบังคับให้ขี่จักรยานยนต์ไปที่โรงแรม โดยบอกให้ทำตัวปกติ ไม่งั้นจะฆ่าให้ตาย จนมาถึงโรงแรม ที่ห้อง 318 นายสมบัติได้พาให้เข้าไปในห้องและวางมีดไว้บนหัวเตียง ก่อนจะใช้กำลังบังคับข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ หลังเสร็จกิจได้ พูดข่มขู่ห้ามนำเรื่องไปบอกใคร ต่อมาเมื่อวันที่ 26 มิถุนายนที่ผ่านมา นายสมบัติ พาไปบังคับข่มขืนอีกครั้งที่โรมแรมแห่งเดิม ภายในห้อง 316

น.ส.โบว์ กล่าวต่อไปว่า กระทั่งเช้าวันนี้ นายสมบัติ โทรมาหาตนเอง เพื่อจะนัดให้ไปหลับนอนกันอีกในวันจันทร์ที่ 7 กรกฎาคม 2551 จึงใช้โทรศัพท์บันทึกเสียงการสนทนาไว้ ขณะที่นายสมบัติ ได้พูดคุยกับตนอย่างวาจาที่ยั่วยวนต่างๆนานาอีก และคิดว่าในวันดังกล่าว นางสาวโบว์ จะต้องออกไปตามนัดเพราะกลัวจะเรื่องจะถูกเปิดเผยทำให้อับอาย และกลัวถูกทำร้าย จึงนำจึงได้บอกความจริงกับแม่และอาจารย์ฝ่ายปกครอง ก่อนที่จะตกลงพากันมาแจ้งความในครั้งนี้

ขณะที่ผู้เป็นแม่ กล่าวด้วยเสียงสั่นๆสั้นๆ ว่า ไม่อยากให้คดีแบบนี้เกิดกับนักเรียน นักศึกษาคนอื่นอีก

ต่อมาเวลา 16.00 น. วันเดียวกัน นางสนอง เพ็ญภู่ อาจารย์ฝ่ายปกครอง นำหลักฐานที่นักศึกษาของวิทยาลัย เขียนไว้พร้อมบรรยายข้อความเกี่ยวกับการถูกครูมวยลวนลามทางเพศ ทั้งจากการพูดคุยและทางร่างกาย หลาย 10 แผ่น พร้อมกับแจ้งความเพิ่มเติม ที่ถูกครูมวยขู่ฆ่า และพูดจาดูหมิ่น เหยียดหยาม จนได้รับความเสื่อมเสียทางจิตใจ โดยนางสนอง เพ็ญภู่ อาจารย์ฝ่ายปกครอง เคยนำเรื่องที่เกิดขึ้นแจ้งให้ทาง ผู้อำนวยการวิทยาลัยรับทราบ กลับถูกต่อว่าเข้าข้างนักเรียน จนกระทั่งพยายามบีบบังคับให้ได้ออกจากตำแหน่งนี้และให้นายสมบัติ เข้ามาดำรงตำแหน่งแทน

ด้านพ.ต.ท.สยาม จิตเพียร สารวัตรสืบสวนสอบสวน สถานีตำรวจภูธร เมืองจันทบุรี ได้บันทึกการให้ปากและเอกสารคำบันทึกของนักศึกษาหญิงไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกับจะนำหมายเรียกตัว นายสมบัติ อินทวรรณ วิทยากรครูมวย มาสอบสวนหาข้อเท็จจริง

ต่อมาเมื่อช่วงเย็น วันเดียวกัน พ.ต.ท.สยาม จิตเพียร สารวัตรสืบสวนสอบสวน สถานีตำรวจภูธร เมืองจันทบุรี ได้พาตัว นางสาวโบว์ มาชี้จุดยังห้องพัก 318 และ 316 ในโรงแรมที่เกิดเหตุ ซึ่ง นางสาวโบว์ ได้พาเจ้าหน้าที่ตำรวจ มาชี้จุดที่บริเวณหน้าห้องพักได้อย่างแม่นยำ