จุดแรกเจ้าหน้าที่นำตัวนายเอ็มและนายเลิฟไปยังบริเวณสี่แยกนิสสัน ถ.เพชรเกษม ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นจุดที่ลงมือสังหารนางกอบกุลจนเสียชีวิต เมื่อกำลังเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึงพบว่าได้มีประชาชนที่ทราบข่าว ได้เดินทางมามุงดูการทำแผนครั้งนี้กว่า 3,000 คน เต็มไปทั่วบริเวณสี่แยก ทำให้การจราจรติดขัด และยากต่อการทำแผน จึงกันผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปจากบริเวณที่เกิดเหตุให้หมด ระหว่างที่นำตัวผู้ต้องหาทั้งสองออกมาจากรถนั้น ชาวบ้านที่มารอดูได้ร้องตะโกนด่าสาปแช่งกันเป็นจำนวนมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจุดนี้เป็นการจำลองสถานการณ์จริง มีนายเลิฟทำหน้าที่เป็นคนขับรถยนต์กระบะโตโยต้า วีโก้ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน บม-6149 นครศรีธรรมราช ส่วนนายเอ็มและส.ท.ต่ายเป็นผู้ลงมือสังหาร โดยยืนอยู่ที่กระบะหลัง และในการลงมือครั้งนั้นนายเอ็มได้ใช้อาวุธปืนเอ็ม16 กระบอกยาวเป็นผู้ลั่นไก ส่วนส.ท.ต่ายใช้เอ็ม16 ท้ายพับลั่นไกเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาทั้งสองได้ให้การว่า ขณะที่รถของส.ส.กอบกุลขับมาจอดติดไฟแดงตรงสี่แยก นายเลิฟซึ่งขับติดตามมาด้านหลังค่อยๆขับประกบก่อนจะเลื่อนรถชิดด้านข้าง เมื่อเห็นเป้าหมายตามที่ได้รับแจ้งเบาะแสจากสารวัตรเปี๊ยกแล้ว จึงได้ลงมือลั่นไกสังหารเป็นชุดในระบบการยิงแบบออโตเมติก กระทั่งแน่ใจว่าเหยื่อเสียชีวิตแล้ว นายเลิฟได้ขับรถหลบหนีไปส่งที่ตลาดศรีเมือง จากนั้นส.ท.ต่ายได้โทรศัพท์ติดต่อไปยังนายวันชนะ หรือวัน ศุภชัยศิริเรืองให้มาหา และระหว่างนั้นส.ท.ต่ายได้นำอาวุธปืนเอ็ม16ทั้ง 2 กระบอกใส่ในถุงปุ๋ยไว้ กระทั่งนายวันชนะขับรถโตโยต้า ไทเกอร์ดีโฟร์ดี สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน บน-2524 ราชบุรี มาหาตามที่ได้เรียกมาโดยบอกให้ขับไปที่บริเวณสะพานบางโตนด-เจ็ดเสมียน ม.2 ต.บางโตนด อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ขณะที่รถมาถึงสะพานดังกล่าวส.ท.ต่ายกับนายเอ็มขอขึ้นไปนั่งที่กระบะท้าย พร้อมถุงปุ๋ยที่ถือไปด้วยก่อนจะเอาปืนทั้งสองกระบอกออกมา แล้วช่วยกันโยนทิ้งลงแม่น้ำแม่กลอง บริเวณกลางสะพาน ก่อนจะขับรถไปส่งที่ตลาดศรีเมืองแล้วต่างแยกย้ายกันหลบหนี จนกระทั่งมาถูกจับกุมในที่สุด
นาทีถล่ม - ตำรวจคุมตัวนายอานนท์ หรือเอ็ม พันธ์รัตน์ ทำแผนฯ นาทีลั่นไกปืนเอ็ม 16 ถล่มฆ่าส.ส.กอบกุล นพอมรบดี ที่สี่แยกนิสสัน กลางเมืองราชบุรี โดยต้องให้ผู้ต้องหาใส่เสื้อเกราะเพราะกลัวโดนฆ่าตัดตอน เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.
จุดที่สอง เจ้าหน้าที่ได้พาตัวนายเอ็มไปยังบ้านเลขที่ 109/2 ม.4 ต.หลุมดิน อ.เมือง จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นบ้านของนายเอ็ม เพื่อชี้จุดบริเวณเพิงพักที่ต่อเติมออกมาจากบ้าน จุดนี้เป็นจุดที่นายเอ็มได้นำปืนเอ็ม 16 ทั้ง 2 กระบอกที่ได้รับจากส.ท.ต่ายไปเก็บรักษาไว้ โดยนำปืนใส่ถุงปุ๋ยแล้วนำมาห่อด้วยผ้าใบคลุมทับไว้ ก่อนจะนำเศษไม้มาวางทับอำพรางไม่ให้ใครทราบ
จุดที่สาม บริเวณปากทางเข้าบ้านนายเอ็ม เป็นจุดที่นายชลสิชณ์ ธีระวรงศ์ หรือเก้า ขับรถโตโยต้า ดีโฟร์ดี สี่ประตู สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ษอ-1790 กรุงเทพ รับส่งส.ท.ต่ายจากตลาดไปส่งที่บริเวณทางเข้าบ้านนายเอ็ม เพื่อปรึกษาหารือ โดยภายในบ้าน มีนายเลิฟขับรถโตโยต้าวีโก้มารอก่อนหน้าแล้ว
จุดที่สี่ บริเวณหน้าวัดราชสิงขร ต.เกาะพลับพลา อ.เมือง เป็นจุดที่นายเอ็ม ส.ท.ต่าย และนายเลิฟ ขับรถวนไปมาเพื่อรอโทรศัพท์จากนายสงัด พุ่มเพ็ง หรือเปี๊ยก เป็นผู้แจ้งเบาะแสความเคลื่อนไหวส.ส.กอบกุลที่ไปร่วมงานบวชชาวบ้าน จุดนี้เพื่อดูเส้นทางกลับ
จุดที่ห้า บริเวณหน้าวัดอรัญญิกาวาส ม.4 ต.เจดีย์หัก เป็นจุดที่นายเลิฟ นายเอ็ม และส.ท.ต่ายจอดรถรอที่ปากทาง เพื่อดูความเคลื่อนไหวของส.ส.กอบกุล ซึ่งห่างจากบริเวณสี่แยกไฟแดงนิสสันประมาณ 2-3 ก.ม. เพื่อรอรับคำสั่งจากนายเปี๊ยกได้แจ้งการเคลื่อนไหวว่าส.ส.กอบกุลออกจากวัด โดยใช้รหัส "สาวน้อยออกจากวัดแล้ว" เพื่อให้ทีมสังหารเตรียมพร้อมกระทั่งรถของส.ส.กอบกุลเดินทางกลับจึงได้ขับรถตามประกบ
จุดที่หก บริเวณโครงการสวนอุตสาหกรรม เครือสหพัฒน์ ม.3 ต.น้ำพุ เป็นจุดที่ส.ท.ต่ายพานายเอ็มมาซ้อมยิงปืนก่อนจะปฏิบัติการจริง โดยส.ท.ต่ายได้ให้นายเอ็มทดลองยิงปืนเอ็ม 16 กระบอกยาว และเป็นจุดที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบกระสุนปืน ที่กลุ่มของส.ท.ต่ายซ้อมยิงแล้วนำกระสุนปืนไปทิ้งที่ธารน้ำไหลข้างไร่อยู่ใกล้จากจุดยิงเพียง 10 เมตร
จุดที่เจ็ด บริเวณทางเข้าโครงการอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์ เป็นจุดจอดรถตกลงเรื่องการลงมือสังหารส.ส.กอบกุล มีเพียงนายเอ็มและส.ท.ต่ายเท่านั้นที่พูดคุยปรึกษากัน
จุดที่แปด บริเวณตลาดศรีเมือง เป็นจุดสุดท้ายบริเวณหน้าห้องน้ำของส.ท.ต่าย หลังก่อเหตุแล้วนายเลิฟได้ขับรถมาส่งที่ตลาดศรีเมือง และเป็นจุดที่นายวันชนะ หรือวัน ขับรถมารับนายเอ็มและส.ท.ต่ายเพื่อนำปืนไปทิ้งที่แม่น้ำแม่กลองที่อ.โพธาราม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับจุดสุดท้ายภายในตลาดศรีเมือง มีพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนที่ทราบข่าวต่างเดินทางมามุงดูการทำแผนครั้งนี้จำนวนกว่าพันคน ทำให้เจ้าหน้าที่จึงต้องขอกำลังเสริม ทั้งอาสาสมัครรักษาดินแดนของจังหวัดราชบุรี ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ มาคอยดูแลเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์รุมประชาทัณฑ์ โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาทีจึงเสร็จสิ้น จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้รีบนำตัวขึ้นรถกลับไปควบคุมที่สภ.อ.เมืองราชบุรีต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเจ้าหน้าที่จับตัวนายเลิฟมาได้ได้แยกไปควบคุมไว้ที่ห้องควบคุมสภ.อ.โพธาราม กระทั่งรุ่งเช้าเจ้าหน้าที่ได้เบิกตัวมาสอบปากคำที่สภ.อ.เมืองราชบุรี ระหว่างนำตัวเดินผ่านห้องควบคุมของส.ท.ต่าย ทันทีที่ส.ท.ต่ายได้เห็นหน้านายเลิฟถึงกับหน้าซีดมีอาการเครียดอย่างเห็นได้ชัด ระหว่างนั้นส.ท.ต่ายได้ขอให้สิบเวรเรียกภรรยาที่มารอเยี่ยมเข้าไปสอบถามถึงการจับกุมตัวนายเลิฟมาได้ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นายคอยยืนประกบ
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับนายวันชนะที่ถูกเจ้าหน้าที่กันไว้เป็นพยาน ให้การที่เป็นประโยชน์ โดยอยู่ในช่วงหลังจากที่ทีมสังหารลงมือสังหารเรียบร้อยแล้ว โดยได้รับโทรศัพท์จากส.ท.ต่ายให้มาหาที่ตลาดศรีเมือง ขับรถมาแล้วพาไปยังจุดทิ้งปืนบริเวณแม่น้ำแม่กลอง ครั้งแรกยังไม่รู้ว่าในถุงปุ๋ยมีอะไร พอถึงจุดทิ้งถึงได้เห็นว่าเป็นปืนเอ็ม16 นำไปทิ้งจึงคิดว่าจะต้องไปก่อเรื่องที่ไหนมาก่อนอย่างแน่นอน อีกทั้งในช่วงดึกก่อนที่จะมารับได้ดูข่าวส.ส.กอบกุลถูกยิงโดยคนร้ายใช้ปืนเอ็ม16 จึงเชื่อว่าเป็นกลุ่มนี้อย่างแน่นอน และที่ต้องไปหาส.ท.ต่ายหลังจากโทรศัพท์มาเพราะเพราะเกรงใจ อีกทั้งเป็นพ่อค้าขายพวงมาลัยที่ตลาดศรีเมืองด้วย ส่วนนายเก้าเพื่อนสนิทกับส.ท.ต่าย ที่มีชื่อไปพัวพันคดีนี้ เป็นเพราะส.ท.ต่ายให้ขับรถไปส่งที่บ้านนายเอ็มก็เท่านั้น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลงมือสังหารแต่อย่างใด และให้การที่เป็นประโยชน์ เจ้าหน้าที่จึงกันไว้เป็นพยาน
ด้านนายอานนท์ หรือเอ็ม พันธ์รัตน์ ให้การรับสารภาพกับเจ้าหน้าที่อย่างหมดเปลือกว่าเป็นลูกน้องของส.ท.ต่าย ซึ่งมีบุญคุณกับตนมาก จนได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจให้คุมโต๊ะสนุ้กที่เปิดอยู่ในตลาดศรีเมือง ก่อนหน้านี้แม่ตนไม่สบายอย่างหนัก ไม่มีเงินรักษา ได้ขอยืมเงินมา 2-3 หมื่นบาทเพื่อไปรักษาแม่ ส.ท.ต่ายก็ไม่เคยทวงคืน จึงซาบซึ้งและทำงานให้ส.ท.ต่ายมาตลอด ก่อนหน้าที่จะไปก่อเหตุประมาณ 10 วัน ส.ท.ต่ายได้ชวนขึ้นรถและนำปืนเอ็ม 16 ใส่ท้ายรถเก๋งบีเอ็มดับบลิวสีดำซึ่งเป็นของท่านส.ท. ขับเข้ามาที่ภายในไร่โครงการสวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์ ก่อนที่ท่านจะให้ตนทดลองยิง ซึ่งตนไม่เคยยิงมาก่อนและไม่มีความชำนาญเรื่องปืน
นายอานนท์ ให้การต่อว่า การซ้อมยิงปืนนั้น ส.ท.ต่ายจะเป็นคนสอนตั้งแต่จับปืนจนถึงการเล็งเป้าจนสามารถยิงได้เป็นอย่างดี ได้มาซ้อมยิงกันประมาณ 3 ครั้ง ครั้งแรกที่มาซ้อมยังไม่รู้ว่ามาซ้อมเพื่ออะไร พอมาครั้งที่สองมารู้ว่าท่านมีงานให้ผมทำ และครั้งที่สามรู้แน่ชัดคือการยิงส.ส.กอบกุล จึงปฏิเสธไม่ได้เพราะท่านมีบุญคุณ
"ก่อนก่อเหตุนายเลิฟทำหน้าที่ขับรถยนต์กระบะมาที่บ้าน ต่อมานายเก้าซึ่งเป็นเพื่อนท่านส.ท.ได้ขับรถมาส่งส.ท.ที่ทางเข้าบ้าน จากนั้นท่านส.ท.ได้เข้ามาที่บ้านพร้อมเดินไปที่ข้างบ้านที่เป็นเพิงพักต่อเติมขึ้นซึ่งเป็นที่เก็บปืนเอ็ม 16 ที่ผมนำมาซ่อนไว้ก่อน จากนั้นนำขึ้นหลังรถแล้วเอาเข่งปิดไว้ ก่อนจะให้นายเลิฟขับไปที่บริเวณหน้าวัดราชสิงขรเพื่อรอโทรศัพท์จากสารวัตรเปี๊ยก แล้วขับเรื่อยมาจอดรออยู่ที่ปากทางเข้าวัดอรัญญิกาวาส เมื่อส.ส.กอบกุลขึ้นรถออกจากวัด สารวัตรเปี๊ยกที่แฝงตัวอยู่ภายในงานบวช ได้โทรศัพท์มาบอกผมว่า "สาวน้อยออกจากวัดแล้ว" จากนั้นได้ให้นายเลิฟสตาร์ตรถรอ" หนึ่งในมือปืน กล่าว
นายเอ็มกล่าวอีกว่า เมื่อเห็นรถส.ส.กอบกุลวิ่งผ่านหน้า นายเลิฟจึงขับรถตามท้ายไป เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุรถของสส.กอบกุลจอดติดไฟแดง นายเลิฟค่อยๆประกบด้านขวาจากนั้นตนกับส.ท.ต่าย ซึ่งนั่งหลังได้หยิบปืนเอ็ม 16 ที่วางไว้หลังรถพาดกระบะแล้วกราดยิงคนละชุดจึงแน่ใจว่าส.ส.กอบกุล ตายแน่ นายเลิฟได้ขับรถเข้ามาจอดที่ข้างห้องน้ำในตลาดศรีเมืองเพื่อมาส่งชุดลงมือ ก่อนจะขับรถออกไป
ต่อมาเวลา 02.00 น.ท่านส.ท.ตายได้โทรศัพท์ไปเรียกนายวันชนะ ซึ่งอยู่ที่บ้านให้มาหาไม่รู้ว่าให้มาหาเรื่องอะไร นายวันชนะจึงขับรถยนต์กระบะโตโยต้า ไทเกอร์ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน บน 2524 ราชบุรี มาถึงตลาดศรีเมือง ท่านส.ท.ได้เรียกตนขึ้นรถนายวันชนะพร้อมทั้งนำปืนเอ็ม 16 ที่ใส่ในถุงปุ๋ยขับออกไป โดยไม่รู้จะไปที่ไหนท่านส.ท.จึงถามตนว่าจะไปทิ้งที่ไหนจึงได้บอกไปว่าทิ้งที่แม่น้ำแม่กลอง ตรงสะพานเจ็ดเสมียนก่อนจะโยนทิ้งแม่น้ำแล้วกลับมาส่งที่ตลาดศรีเมือง ก่อนจะแยกย้ายหลบหนีทำตัวเหมือนไม่เกิดอะไรขึ้น
เมื่อเวลา 11.00 น. ที่บริเวณอาคารภายในตลาดศรีเมือง ด้านข้างสำนักงาน มีพ่อค้าแม่ค้าได้ร่วมกันรวบรวมเงินกันจัดทำบุญตลาดเลี้ยงพระเพล โดยนิมนต์พระสงฆ์จากวัดต่างๆในเขตจังหวัดราชบุรี จำนวน 108 รูป เพื่อเจริญพระพุทธมนต์ปัดรังควาน เนื่องจากในช่วงนี้ในตลาดศรีเมืองมักจะเกิดเหตุการณ์ที่ไม่ค่อยดี และทำให้พ่อค้าแม่ค้าต่างเสียขวัญกำลังใจ จึงร่วมกันจัดทำบุญเลี้ยงพระครั้งใหญ่ เพื่อเป็นสิริมงคล
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุนางกอบกุล ถูกยิงเสียชีวิตและมีการจับผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นคนที่เกี่ยวข้องและทำงานอยู่ในตลาดศรีเมืองทั้งหมด ก่อนหน้าประมาณ 2-3 เดือน ก็เกิดเหตุยิงกัน ทำให้มีผู้เสียชีวิตภายในตลาดมาแล้ว 2 ครั้ง จนทำให้พ่อค้าแม่ค้าต่างเสียขวัญมาแล้ว และมาเกิดเรื่องครั้งนี้อีกซึ่งนับว่าเป็นครั้งที่ใหญ่และรุนแรง