เมื่อเวลา 00.05 น. วันที่ 2 ก.ค. ร.ต.ต.ฤทธิ์ชัย ชุมช่วย ร้อยเวร สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี รับแจ้งเหตุคนถูกยิงตาย 2 ศพ
ภายในตึกแถวเลขที่ 124 ซอยพวงเพชร 1 ถนนดอนนก ต.ตลาด จึงรายงานให้ พ.ต.อ.บุญทวี โตรักษา ผกก. พ.ต.ท.วัชรศิริ ราชรักษ์ รอง ผกก.สส.สภ.บ้านนาเดิม ช่วยราชการ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี พ.ต.ท.วรวิทย์ เจริญศุภผล สว.สส. พ.ต.ต.ชัญญวิทย์ ศรีจรูญ สวป. นำกำลังตำรวจ พร้อมเจ้าหน้าที่วิทยาการ แพทย์เวร รพ.สุราษฎร์ธานี และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานี ไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นตึกแถว 3 ชั้น ชั้นล่างเปิดเป็นร้านนวดแผนไทย
ส่วนชั้น 2 และชั้น 3 ดัดแปลงเป็นห้องแบ่งเช่า ภายในห้องครัวชั้นล่างพบเหยื่อกระสุน 2 ศพนอนจมกองเลือด ศพแรกทราบชื่อ นายทรงศักดิ์ หนูจินจิต อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 57/1 หมู่ 1 ต.บางไทร อ.เมืองสุราษฎร์ธานี ถูกยิงด้วยปืน 9 มม. ที่ขมับซ้าย ศีรษะด้านหลัง และกกหูทั้ง 2 ข้าง รวม 5 นัด ห่างไปประมาณ 3 เมตร พบผู้เสียชีวิตอีกศพชื่อ นางราศรี จิตรตรง อายุ 31 ปี เจ้าของตึกแถวที่เกิดเหตุ ถูกยิงด้วยปืนขนาดเดียวกันที่ศีรษะด้านหลัง 1 นัด โดยที่มือขวากำโทรศัพท์มือถือไว้แน่น ใกล้ศพพบปลอกกระสุนปืน 9 มม. 2 ปลอก และหัวกระสุน 1 หัว ตกอยู่ที่พื้น ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน พร้อมนำศพส่งชันสูตรที่ รพ.สุราษฎร์ธานี
สอบสวนทราบว่า นางราศรีเป็นหญิงม่าย มีลูกชายอายุ 7 ขวบ และลูกสาวอายุ 5 ขวบ หลังแยกทางกับสามี ได้มาคบหาเป็นแฟนกับ ส.อ.หมู (นามสมมติ) อายุ 34 ปี ทหารสังกัด ร.25 ค่ายวิภาวดีรังสิต อ.เมืองสุราษฎร์ธานี
ก่อนจะย้ายไปอยู่ด้วยกันที่บ้านพักภายในค่ายวิภาวดี เมื่อประมาณ 1 ปีที่ผ่านมา โดยให้น้องสาวช่วยดูแลกิจการร้านนวดแผนไทยกับห้องเช่าที่ตึกแถวดังกล่าว รวมทั้งช่วยเลี้ยงดูลูกๆทั้ง 2 คน จนกระทั่งเมื่อ 3 เดือนที่ผ่านมา ส.อ.หมูได้รับคำสั่งให้ไปช่วยราชการ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ จ.ยะลา
ก่อนเกิดเหตุนางราศรีได้พานายทรงศักดิ์ เพื่อนชายรุ่นน้อง ไปเยี่ยมลูกๆที่ตึกแถวดังกล่าว
ระหว่างนั้น ส.อ.หมู เพิ่งเดินทางกลับจากปฏิบัติหน้าที่ จ.ยะลา มาถึงบ้านพักในค่ายวิภาวดี ไม่พบนางราศรีอยู่ที่บ้าน จึงออกไปตามหาที่ตึกแถวดังกล่าว ปรากฏว่าไปพบนางราศรีอยู่กับนายทรงศักดิ์ จึงเกิดความหึงหวงโกรธแค้นและมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง ก่อนที่ ส.อ.หมูจะชักปืน 9 มม. ที่พกติดตัวมาด้วยกระหน่ำยิงทั้งคู่จนเสียชีวิต แล้วขี่รถ จยย.หลบหนีไป
ด้าน พ.ต.อ.บุญทวี โตรักษา ผกก.สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า สาเหตุน่าจะมาจากเรื่องชู้สาว
ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนประสานไปยังผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดของ ส.อ.ผู้ต้องสงสัยที่คาดว่าน่าจะเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุแล้ว เพื่อนำตัวมาสอบสวนแต่ยังไม่พบตัว ขณะเดียวกัน จะได้เร่งสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องถึงสาเหตุที่แท้จริงและติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีต่อไป