จ่อจับ48ชม.ตัวบงการฆ่า ใส่เกราะทำแผนหวั่นถูกตัดตอน

จ่อจับจอมบงการ คดีสะเทือนขวัญลอบสังหารนางกอบกุล นพอมรบดี



จ่อจับจอมบงการภายใน 48 ชม.หลังได้ 7 พยานยืนยันนั่งสั่งการในร้านอาหาร ขณะที่ตำรวจภาค 7 ให้ "เอ็ม-เลิฟ" ใส่เสื้อเกราะทำแผน หวั่นถูกเก็บ ท่ามกลางเสียงสาปแช่ง เผยเส้นทางฆ่าโดยละเอียด เริ่มต้นจากตลาดศรีเมืองจบที่ตลาดศรีเมือง


คดีสะเทือนขวัญลอบสังหารนางกอบกุล นพอมรบดี อดีต ส.ส.ราชบุรี เขต 1 พรรคไทยรักไทย เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม ใกล้สาวถึงตัวผู้บงการมากยิ่งขึ้น หลัง พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ฝ่ายปราบปราม หัวหน้าทีมสืบสวนสอบสวนคดีนี้ ระบุว่า ขณะนี้การติดตามจับทีมสังหารได้จบลงแล้ว เหลือเพียงการเชื่อมโยงหลักฐานสู่คนบงการเท่านั้น


การคลี่คลายคดีนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม ภายหลังตำรวจนำตัวนายอานนท์ พันธุ์รัตน์ หรือเอ็ม อายุ 27 ปี ผู้จัดการโต๊ะสนุ้กในตลาดศรีเมือง อ.เมือง จ.ราชบุรี ไปสอบสวน และให้การซัดทอดจนนำไปสู่การจับกุมนายอนันตศักดิ์ ศรีสวัสดิ์ หรือ ส.ท.ต่าย อายุ 42 ปี ผู้จัดการตลาดศรีเมือง และนายสงัด พุ่มเพ็ง หรือ เปี๊ยก อายุ 48 ปี สารวัตรกำนันตำบลเกาะพลับพลา อ.เมือง ซึ่งเป็นคนชี้เป้าหมาย แม้ว่าต่อมาจะกินยาฆ่าแมลงตายปริศนาขณะหลบหนีไปที่ อ.สวนผึ้ง


ส่วนนายพงษ์พัฒน์ นากหนู หรือนายพงษ์พัฒน์ ศรีเมือง ส.อบต.ดอนตะโก ซึ่งเป็นผู้จัดการค้าปลีกในตลาดศรีเมือง และเป็นผู้พานายสงัดหลบหนี ชุดสืบสวนได้เชิญตัวมาดูแลชั่วคราว สำหรับนายจำรณ หรือจำลอง อ่วมทอง กำนันตำบลหนองกระเจ็ด อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี และลูกชาย นายศุภฤกษ์ อ่วมทอง ซึ่งเดิมถูกซัดทอดว่าเป็นผู้ลงมือสังหารนั้น ต่อมานายอานนท์กลับคำให้การยอมรับว่าเป็นผู้ลงมือยิงร่วมกับนายอนันตศักดิ์


ศาลจังหวัดราชบุรีจึงได้ให้ประกันตัวออกไปเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน ขณะเดียวกัน เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน ชุดสอบสวนได้จับกุมผู้ร่วมขบวนการคนสำคัญได้ คือ นายกรวิทย์ วีระวรวงศ์ ซึ่งรู้จักกันในอีกหลายชื่อ เช่น นายนพเก้า หรือ นายชยสิทธิ์ หรือเก้า หรือ เก้านิ้ว ซึ่งนายกรวิทย์ให้การเป็นประโยชน์ว่า ในวันเกิดเหตุ ผู้บงการฆ่านางกอบกุลได้นั่งสั่งการทีมสังหารอยู่ภายในร้านอาหารแห่งหนึ่งใน จ.ราชบุรี ต่อมามีพยานหลายปากยืนยันตรงกันว่า เห็นตัวผู้บงการจริง คาดว่าจะออกหมายจับตัวได้ในเร็วๆ นี้


ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน ตำรวจสามารถจับตัวทีมสังหาร 2 คนสุดท้ายได้ คือ นายวิญญู รัตนวรรณี หรือ เลิฟ หรือระ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1/135 หมู่ 1 ซอยตลาดแม่พะยอม ถ.กะโรม ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พ่อค้าผักในตลาดศรีเมือง เป็นคนขับรถกระบะโตโยต้า วีโก้ ให้นายอนันตศักดิ์ และนายอานนท์ไปลอบยิงนางกอบกุล และนายวันชนะ ศุภชัยศิริเรือง อายุ 31 ปี


อยู่บ้านเลขที่ 41 หมู่ 2 ต.จอมบึง อ.จอมบึง จ.ราชบุรี คนเข็นผักในตลาดศรีเมือง เป็นคนขับรถไปกับนายกรวิทย์ เพื่อรับตัวนายอนันตศักดิ์กับนายอานนท์ หลังปฏิบัติการเสร็จ และนำปืนเอ็ม 16 ที่ใช้ก่อเหตุไปทิ้งในแม่น้ำแม่กลองหวั่นถูกเก็บให้ใส่เสื้อเกราะทำแผน

ตำรวจภูธรภาค 7 พร้อมกำลังตำรวจกว่า 300 นาย คุมตัวสองผู้ต้องหา ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ



ความคืบหน้าล่าสุดคดีสังหารนางกอบกุล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดวันที่ 4 มิถุนายน พล.ต.ท.ฉลอง สนใจ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พร้อมกำลังตำรวจกว่า 300 นาย ควบคุมตัวสองผู้ต้องหา คือ นายอานนท์ พันธุ์รัตน์ หรือเอ็ม กับนายวิญญู รัตนวรรณี หรือเลิฟ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพตามจุดต่างๆ ท่ามกลางประชาชนจำนวนมากที่ทราบข่าวไปเฝ้าคอยมุงดูพร้อมส่งเสียงตะโกนด่า จนเจ้าหน้าที่ต้องตรึงกำลังคุ้มกันอย่างแน่นหนา โดยมีการระดมกำลังตำรวจจากทุก สภ.อ. รวมทั้งกำลัง อส.เข้าเสริมรวมกว่า 1,000 นาย


เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุรุมประชาทัณฑ์ผู้ต้องหา การทำแผนเริ่มตั้งแต่เวลา 08.00 น.เมื่อตำรวจนำตัวนายอานนท์ และนายวิญญู ไปยังจุดแรกที่ทั้งคู่ไปนำอาวุธปืนเอ็ม 16 ออกมาจากตลาดศรีเมือง ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องให้ทั้งสองผู้ต้องหาใส่เสื้อเกราะกันกระสุนเนื่องจากหวั่นเกรงว่าอาจจะถูกลอบยิงฆ่าตัดตอนเพื่อปิดปากได้ จากนั้นได้ไปทำแผนที่บ้านของนายอานนท์ ซึ่งทีมสังหารได้มาร่วมวางแผนกัน และทำแผนอีกหลายจุดจนถึงวินาทีลั่นกระสุนสังหารที่บริเวณสี่แยกไฟแดงนิสสัน ถนนเพชรเกษม หมู่ 2 ต.เจดีย์หัก อ.เมือง จ.ราชบุรี


จนไปถึงจุดสุดท้ายที่มีการนำปืนไปทิ้งที่แม่น้ำแม่กลอง หน้าวัดใหม่ชำนาญ หมู่ 1 ต.เจ็ดเสมียน อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นอกจากการทำแผนแล้ว ที่ตลาดศรีเมือง เมื่อเวลา 10.30 น.วันเดียวกัน พ่อค้าแม่ค้าในตลาดได้ร่วมกันทำบุญเลี้ยงพระสงฆ์ 108 รูป เนื่องในโอกาสวันครบรอบปีของตลาดและเพื่อทำบุญเสริมดวงชะตาและความเป็นสิริมงคลให้แก่ตลาด หลังคดีสะเทือนขวัญสังหารนางกอบกุลมีคนในตลาดศรีเมืองจำนวนมากเข้าไปเกี่ยวข้อง"เอ็ม-เลิฟ"



สารภาพระหว่างทำแผน เอ็ม 16 รัวยิงซ้ำ



เจอข้อหาหนักฆ่าโดยไตร่ตรอง นายอานนท์ รับสารภาพระหว่างทำแผนว่า นายอนันตศักดิ์ หรือ ส.ท.ต่าย ซึ่งนั่งมาบนท้ายกระบะหลังรถกับตน เป็นคนใช้ปืนเอ็ม 16 แบบสั้น (พับฐาน)เริ่มยิงก่อน ส่วนตนเองใช้ปืนเอ็ม 16 แบบยาวรัวยิงซ้ำ จนนางกอบกุลเสียชีวิต และนายวิญญู เป็นคนขับรถพาหลบหนีไปเปลี่ยนขึ้นรถกระบะอีกคันหนึ่ง ก่อนแยกย้ายกันไปซ่อนตัว ขณะที่นายวิญญู บอกกับเจ้าหน้าที่ว่า การมาร่วมทีมสังหาร ส.ส.กอบกุลในครั้งนี้ ไม่ได้ค่าจ้างอะไร แต่ทำไปเพื่อทดแทนบุญคุณนายอนันตศักดิ์ ที่เคยช่วยเหลือครอบครัว


รวมทั้งให้เงินทองใช้เป็นประจำ ตนเองก็ไม่รู้ว่าสาเหตุที่แท้จริงของการสังหารนางกอบกุลครั้งนี้ว่ามาจากเรื่องอะไร ทั้งนี้ ในช่วงเช้าวันเดียวกัน ตำรวจได้ตั้งข้อกล่าวหานายอานนท์ และนายวิญญู เพิ่มเติมในข้อหาฆ่า ร่วมกันฆ่า และพยายามฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนด้วย ส่วนนายวันชนะ และนายกรวิทย์ นั้น ตำรวจได้กันตัวไว้เป็นพยาน ขณะที่นายอนันตศักดิ์ ยังให้การปฏิเสธ บอกเพียงแต่ว่า จะให้การในชั้นศาลเท่านั้น ตำรวจจึงแยกตัวไปควบคุมไว้แล้วประมวลเหตุการณ์มัดทีมสังหาร การทำแผนครั้งนี้


เป็นผลจากการทำงานของทีมสืบสวนสอบสวนของตำรวจภูธรภาค 7 และตำรวจกองปราบปราม ซึ่งได้สืบสวนประมวลเหตุการณ์จนได้บทสรุปที่ชัดเจนว่า ทีมสังหารนางกอบกุลครั้งนี้มีด้วยกัน 6 คน คือ 1.นายอนันตศักดิ์ คนยิง 2.นายอานนท์ คนยิง 3.นายวิญญู คนขับรถคันแรก 4.นายสงัด คนชี้เป้า 5.นายกรวิทย์ คนขับรถมาส่ง ส.ท.ต่ายที่บ้านนายเอ็ม และ 6.นายวันชนะ ศุภชัยศิริเรือง หรือวัน เป็นคนขับรถคันที่สอง ซึ่งนำปืนไปทิ้งที่แม่น้ำ การสอบสวนเริ่มจากนายอานนท์ ให้การรับสารภาพพร้อมทั้งซัดทอดว่า


นายอนันตศักดิ์ให้นายกรวิทย์ขับรถมาส่งที่หน้าบ้านตน ที่ ต.หลุมดิน และตนเป็นผู้ที่ลงมือใช้ปืนเอ็ม 16 ยิงนางกอบกุล ร่วมกับนายอนันตศักดิ์ โดยนั่งอยู่บนกระบะหลังรถกระบะโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีบรอนซ์เงิน เลขทะเบียน บม 6149 นครศรีธรรมราช ซึ่งใช้ทะเบียนปลอม จ.ราชบุรี ปิดทับไว้ ขณะที่มีนายวิญญูเป็นคนขับรถพาทีมสังหารมาลงมือยิงที่บริเวณสี่แยกนิสสัน หลังนายสงัดโทรศัพท์มาบอกว่า เป้าหมายออกจากงานเลี้ยงที่ ต.เกาะพลับพลาแล้ว หลังลงมือยิงแล้ว นายวิญญูขับรถกระบะนำทีมสังหารซิ่งหนี


โดยนำมือยิงไปเปลี่ยนขึ้นรถนายวันชนะที่จอดรออยู่ที่บริเวณ ต.หนองกลางนา อ.เมือง จ.ราชบุรี เพื่อหลบหนี และนายวันชนะนำทีมสังหารไปทิ้งปืนเอ็ม 16 ที่แม่น้ำแม่กลอง ที่หน้าวัดใหม่ชำนาญ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ก่อนแยกย้ายกันไปหลบซ่อนตัว เผยรายละเอียดเส้นทางสังหาร รายละเอียดเส้นทางสังหารซึ่งใช้ในการทำแผนครั้งนี้ เริ่มจากเวลา 15.00 น.วันที่ 27 พฤษภาคม เมื่อนายอนันตศักดิ์โทรศัพท์แจ้งให้นายวิญญู ขับรถกระบะโตโยต้า วีโก้ ไปเอาปืนเอ็ม 16 ซึ่งจัดเตรียมไว้โดยเก็บซ่อนไว้ในรถบีเอ็มดับเบิลยูของนายอนันตศักดิ์ที่จอดอยู่ในตลาดศรีเมือง


นายวิญญูขับรถไปเอาปืนดังกล่าวมาพร้อมกับนายอานนท์ หลังจากได้ปืนแล้ว ทั้งคู่นำปืนไปเก็บไว้ที่บ้านนายอานนท์ และรอเวลาทำงานอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว จนกระทั่งเวลา 19.00 น.นายอนันตศักดิ์ ได้เรียกนายกรวิทย์ให้มารับที่ตลาดศรีเมืองไปส่งที่บ้านนายอานนท์ จากนั้นนายอานนท์จึงได้นำเอาปืนที่ซ่อนไว้ในบ้านมาเก็บไว้หลังกระบะรถนายวิญญู ก่อนจะออกมารอนางกอบกุลที่หน้าวัดอรัญญิก ต่อมาเวลา 20.20 น.นายสงัดโทรศัพท์ไปบอกนายอนันตศักดิ์ว่า นางกอบกุลออกจากงานเลี้ยงที่ ต.เกาะพลับพลาแล้ว



ตามสังหาร จอดเทียบข้างสาดกระสุน 2 ชุด ฝ่าไฟแดงหนี



ทีมสังหารจึงเตรียมตัวออกเดินทางติดตามรถนางกอบกุลไป โดยนายอนันตศักดิ์กับนายอานนท์เปลี่ยนจากที่นั่งหน้ารถไปนั่งบนกระบะท้ายรถ พร้อมนำปืนเอ็ม 16 ออกมาเตรียมพร้อม มีนายวิญญูเป็นคนขับ ในช่วงเวลาที่รถของนางกอบกุลขับผ่านและรถทีมสังหารขับตามประกบไปนั้น มีรถวิ่งสวนผ่านไปมาด้วยทำให้ทีมสังหารไม่สามารถลงมือได้จึงติดตามรถนางกอบกุลไปห่างๆ จนรถนางกอบกุลมาติดไฟแดงที่สี่แยกนิสสัน นายวิญญูจึงได้ชะลอรถเข้าไปจอดเทียบด้านข้างให้นายอนันตศักดิ์กับนายอานนท์สาดกระสุนเข้าใส่ 2 ชุด แล้วขับรถฝ่าไฟแดงมุ่งหน้าไปยังตลาดศรีเมือง บริเวณบ่อขยะด้านหลัง


เพื่อส่งนายอนันตศักดิ์กับนายอานนท์ลง แล้วปล่อยให้นายวิญญูขับรถหลบหนีไปคนเดียว จากนั้นนายอนันตศักดิ์โทรศัพท์ไปหานายวันชนะให้นำรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นไทเกอร์ สีบรอนซ์ทอง เลขทะเบียน บน 2524 ราชบุรี ซึ่งเป็นของนายวันชนะมารับที่หลังตลาดศรีเมืองเพื่อจะนำอาวุธปืนไปทิ้ง โดยนายวันชนะขับรถพาไปทิ้งปืนที่บริเวณแม่น้ำแม่กลอง หน้าวัดใหม่ชำนาญ หมู่ 1 ต.เจ็ดเสมียน อ.โพธาราม จากนั้นก็ขับกลับเข้าไปตลาดศรีเมือง ก่อนปล่อยให้ทุกคนแยกย้ายกัน จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้ในเวลาต่อมา และจนถึงขณะนี้นายอนันตศักดิ์ยังไม่ยอมรับสารภาพแม้ว่าผู้ร่วมทีมสังหารทั้งหมดจะยอมรับสารภาพแล้ว งมพบแม็กกาซีนปืนเอ็ม 16 เพิ่มอีก 1


ส่วนการค้นหาของกลางในคดีนี้ ซึ่งสามารถค้นหาได้จนเกือบครบทั้งหมด ขาดแต่เพียงปืนเอ็ม 16 ที่ใช้ลงมือสังหารอีก 1 กระบอกเท่านั้น ล่าสุดทีมสืบสวนได้ประสานงานให้กองทัพเรือนำเครื่องค้นหาด้วยคลื่นเสียงสะท้อน หรือโซนาร์มาเครื่องตรวจหาวัตถุใต้ผิวน้ำที่ก้นแม่น้ำแม่กลองนั้น เมื่อช่วงเช้าวันที่ 4 มิถุนายน เจ้าหน้าที่ทหารเรือนำเครื่องโซนาร์มาสแกนดูพื้นที่ใต้น้ำแล้ว ล่าสุดน้าที่สามารถงมพบแม็กกาซีนปืนเอ็ม 16 ซึ่งไม่มีกระสุนบรรจุอยู่ได้เพิ่มอีก 1 อัน แต่ยังไม่พบปืนเอ็ม 16 กระบอกที่เหลือ ซึ่งการค้นหายังคงดำเนินต่อไปตลอดทั้งวัน7 พยานมัดผู้บงการจ่อจับใน 48 ชม. รายงานข่าวจากชุดสืบสวนสอบสวน กล่าวว่า หลังตำรวจจับกุมนายกรวิทย์ หนึ่งในทีมสังหารได้


และนายกรวิทย์ได้ให้การที่เป็นประโยชน์ในประเด็นที่ว่า ผู้บงการฆ่านางกอบกุลนั้นได้มานั่งสั่งการทีมสังหารอยู่ภายในร้านอาหารแห่งหนึ่งใน จ.ราชบุรี และต่อมาชุดสืบสวนเดินทางไปสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมนั้น ล่าสุดมีข้อมูลเบื้องต้นจากชุดสืบสวนว่า ขณะนี้มีพยาน 7-8 ปากที่ให้การสอดคล้องตรงกันถึงตัวผู้บงการ โดยพยานสามารถบอกรูปร่าง ลักษณะได้ใกล้เคียงกับตัวผู้บงการมาก และเมื่อชุดสืบสวนให้ดูรูปถ่ายหลายใบพร้อมกัน ก็ปรากฏว่าพยานสามารถชี้รูปผู้บงการได้อย่างถูกต้อง อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวจากชุดสืบสวน ระบุเพิ่มเติมว่า


จากพยานหลักฐานที่ได้มาก่อนหน้ารวมกับพยานหลักฐานอีกบางส่วนซึ่งยังอยู่ระหว่างการประมวลเสนอผู้บังคับบัญชาให้พิจารณาเห็นชอบนั้น คาดว่าน่าจะสามารถออกหมายจับผู้ต้องหาอีก 1 คน ซึ่งเป็นผู้บงการคดีฆ่านางกอบกุลได้ภายใน 48 ชั่วโมงนี้ รายงานข่าว กล่าวว่า ขณะนี้ชุดทำงานสืบสวนในคดีนี้ซึ่งมีอยู่หลายหน่วยงาน กำลังอยู่ระหว่างรอคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาระดับสูงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และฝ่ายบริหารซึ่งกำกับดูแล สตช.ว่าจะให้หน่วยงานใดในชุดสืบสวนเป็นผู้จับกุมผู้บงการในคดีสังหารนี้




แหล่งข่าว : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์