จากเหตุการณ์อื้อฉาววงการศึกษา กรณี น.ส.เฟิร์น (นามสมมติ) อายุ 21 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะบริหารศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี เข้าแจ้งความตำรวจ สภ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี
พร้อมนำหลักฐานเป็นคลิปวีดิโอที่ถูก ผศ.จักรฤทธิ์ อุทโธ อาจารย์ประจำคณะศิลปศาสตร์ ลวนลามอนาจารและชักชวนหลับนอนเพื่อแลกเกรด ต่อมา ผศ.จักรฤทธิ์ถูกตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงและให้ออกจากราชการไว้ก่อน ล่าสุดได้เข้ามอบตัวแล้วแต่ยังปฏิเสธข้อกล่าวหา ขอไปให้การในชั้นศาลนั้น
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 2 มิ.ย. นางพริ้งพิศ วังทอง นายกสมาคมสตรีนักธุรกิจและวิชาชีพแห่งประเทศไทย จ.อุบลราชธานี พร้อมคณะ
ได้ติดต่อ น.ส.เฟิร์น เหยื่อ ผศ.หื่นกาม ไปพบที่ตึกศูนย์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี เพื่อมอบดอกไม้ให้ กำลังใจ พร้อมแสดงความห่วงใยและยินดีให้ความช่วยเหลือทุกเรื่อง หลังทราบข่าวว่าขณะนี้ น.ส.เฟิร์นได้รับความกดดันหลายๆด้านจนเกิดความเครียด ขณะเดียวกันมีนักศึกษาของมหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานีกลุ่มหนึ่งพากันมามอบดอกไม้ให้กำลังใจ เชื่อว่ายังมีบรรดานักศึกษาทั่วประเทศที่เอาใจช่วยและชื่นชมความกล้าหาญ ที่ออกมาต่อสู้กับอาจารย์ที่ไร้คุณธรรม ทำเอา น.ส.เฟิร์นถึงกับน้ำตาคลอเบ้าที่มีนักศึกษาต่างสถาบันให้ความเห็นใจ พร้อมกล่าวขอบคุณทุกคนและฝากบอกว่า หากใครเจอประสบการณ์เหมือนตน ขอให้ตั้งสติและกระชากหน้ากากคนไม่ดีให้พ้นไปจากวงการศึกษา ไม่เช่นนั้นก็ไม่รู้ว่าจะมีนักศึกษาอีกกี่รุ่นกี่คนที่ต้องตกเป็นเหยื่อของคนแบบนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดผู้บริหารมหาวิทยาลัยอุบลราชธานีได้สั่งให้มีการทบทวนเกรดวิชาต่างๆที่ น.ส. เฟิร์นเรียนมาทั้งหมด เพื่อตรวจสอบดูว่ามีการให้เกรดหรือดึงเกรดบ้างหรือไม่
ด้านนายศรัณย์ วีสเพ็ญ อาจารย์ประจำคณะบริหารศาสตร์ ม.อุบลฯ ที่ น.ส.เฟิร์นให้ความไว้วางใจ กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้น น.ส.เฟิร์นมาปรึกษาตนตั้งแต่เดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ก็ได้แต่ปลอบใจให้อดทน หลีกเลี่ยงการที่จะอยู่กับอาจารย์ตามลำพัง ขณะนั้นเหตุการณ์ยังไม่สุกงอม ได้บอกไปว่าหากไม่มีหลักฐานคงไม่สามารถดำเนินการอะไรกับอาจารย์คนนี้ได้ เพราะเคยมีนักศึกษาหลายรุ่น หลายคน ทำหนังสือร้องเรียนฝ่ายผู้บริหารของมหาวิทยาลัย แต่ทุกเรื่องก็เงียบหายไม่มีความคืบหน้า จึงขอชื่นชมนักศึกษาคนนี้ที่ใจกล้าใจเด็ด ถือว่าการกระทำครั้งนี้ สามารถช่วยนักศึกษาได้ทั่วประเทศ ไม่ว่าจะเป็นสถาบันไหน เมื่อมีตัวอย่างเกิดขึ้นก็จะทำให้คนที่มีพฤติกรรมเช่นนี้หยุดหรือเลิกเสียที เรื่องที่เกิดขึ้นมีหลักฐานขนาดนี้ถือเป็นความผิดมหันต์สำหรับคนที่ให้การศึกษา ไม่ สมควรที่จะมีอาชีพนี้อีกต่อไป