เมื่อเวลา 06.30 น.วันที่ 1 ก.ค. พ.ต.ท.สมัย จะเรียมพันธุ์ สารวัตรเวร สภ.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา รับแจ้งมีเหตุคนถูกฆ่าชิงทรัพย์ในไร่หัวไช้เท้า หมู่ 8 บ้านผังหนึ่ง ต.หนองสาหร่าย
จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.วิวัฒน์ ลีลาเขตต์ ผกก.สภ.ปากช่อง พ.ต.ท.นิติพงศ์ ติวาชัยวิรัตน์ สวญ.สภ.หนองสาหร่าย พ.ต.ต.ณัฐวรรธน์ มาลีพันธุ์ สว.สส.พ.ต.ต.ศิณรุจ สืบสนิท สว.สป. แพทย์เวร รพ.ปากช่องนานา และหน่วยกู้ภัยปากช่อง พบศพนางวรรณี จงประเสริฐกุล อายุ 64 ปี บ้านเดิมอยู่เลขที่ 3/6 หมู่ 8 ต.คลองขวาง อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี เจ้าของไร่ นอนเสียชีวิตอยู่ใกล้เพิงมุงสังกะสีสำหรับเก็บปุ๋ยเคมี ลักษณะศพนอนหงายสวมเสื้อคอกระเช้า สวมทับด้วยเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีลายแดงขาว นุ่งกางเกงขาสามส่วนสีน้ำเงิน มีบาดแผลถูกตีด้วยของแข็งบริเวณใบหน้า ศีรษะด้านซ้ายและขวาจนกะโหลกยุบ
โดยมีรถจักรยานยนต์ ล้มทับขาซ้าย ตรวจค้นในตัวพบสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท ส่วนเงินสดในตัวกว่า 1 หมื่นบาทหายไป
ข้างศพพบชะแลงเปื้อนเลือดตกอยู่คาดว่าเป็นอาวุธที่คนร้ายใช้สังหารนางวรรณีจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน นอกจากนี้ยังพบร่องรอยของการต่อสู้ข้าวของกระจัดกระจาย สอบปากคำนายอมร จงประเสริฐกุล อายุ 67 ปี สามีของผู้ตายให้การว่าเมื่อ 2 ปีก่อนมาซื้อที่ดินแปลงดังกล่าวรวมเนื้อที่ 50 ไร่ ปลูกหัวไช้เท้าส่งขายตลาดไท โดยว่าจ้างชาวเขมรจำนวน 7 คนมาเป็นคนงานในไร่ ปลูกห้องแถวให้เป็นที่พักอาศัย ก่อนเกิดเหตุเมื่อประมาณตี 3 ของวันเดียวกัน ได้ออกไปคุมคนงานเก็บ หัวไช้เท้าตามปกติ เพื่อเตรียมส่งขายในช่วงเช้า ปรากฏว่าคนงานหายตัวไป 1 คน คือนายยอด อายุประมาณ 30 ปี สอบถามเพื่อนคนงานด้วยกันก็ไม่มีใครทราบ แต่ก็ไม่ได้เอะใจ หลังเก็บหัวไช้เท้าอยู่พักใหญ่รู้สึกปวดเข่าจึงกลับไปนอนที่ห้องพัก แต่ไม่พบนางวรรณี ตะโกนเรียกก็ไม่มีเสียงตอบ ด้วยความเป็นห่วงจึงออกไปตามหาที่เพิงเก็บปุ๋ยห่างจากห้องพักไปราว 20 เมตร เนื่องจากนางวรรณีมักจะลุกไปปิดสวิตช์ไฟ
กระทั่งพบร่างนางวรรณีนอนเสียชีวิตอยู่ใกล้เพิงเก็บปุ๋ยในสภาพถูกตีศีรษะกะโหลกยุบ
ด้วยความตกใจตะโกนเรียกขอความช่วยเหลือจากคนงานชาวเขมร แต่ปรากฏว่าเมื่อคนงานทั้งหมดมาเห็นสภาพศพต่างพากันเผ่นหนีไปคนละทิศละทาง ขณะเดียวกันได้ตรวจสอบเงินกว่า 200,000 บาท ที่ได้จากการขายหัวไช้เท้าในช่วงหลายวันที่ผ่านมาและเก็บไว้ในถังน้ำแข็งพลาสติกล็อกกุญแจอย่างดีในห้องพักพบว่าหายไป เชื่อว่าคนร้ายน่าจะเป็นนายยอดคนงานที่หายตัวไปแน่นอน
จากคำให้การรวมทั้งพยานแวดล้อมตำรวจสันนิษฐานว่านายยอดคงเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของนายจ้างมานานแล้ว
เมื่อทราบว่ามีเงินเก็บไว้ในห้องพักจำนวนมาก จึงฉวยโอกาสที่นางวรรณีเดินออกจากที่พักไปปิดสวิตช์ไฟที่เพิงเก็บปุ๋ย ใช้ชะแลงกระหน่ำตี ในขณะที่นางวรรณีพยายามต่อสู้ แต่พลาดท่าถูกนายยอดตีเสียชีวิต จากนั้นชิงเอาเงินสดในตัวกว่า 1 หมื่นบาท และบุกเข้าไปในห้องพักงัดกุญแจเปิดฝาถังน้ำแข็งฉวยเงินสดอีกกว่า 200,000 บาท หลบหนี
โดยหลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.สมัย จะเรียมพันธุ์ ผกก.สภ.ปากช่อง ประสานขอสนับสนุนสุนัขทหารจากศูนย์การสุนัขทหาร และเฮลิคอปเตอร์ออกติดตามไล่ล่าคนงานเขมรทั้งหมด
กระทั่งสามารถจับกุมเอาไว้ได้ 3 คน ขณะซ่อนตัวอยู่ในป่าสักใกล้ที่เกิดเหตุทราบชื่อนายเชน อายุ 28 ปี นายเตีย อายุ 23 ปี และนายมัด อายุ 15 ปี ในเบื้องต้นทั้งหมดยังให้การปฏิเสธ ส่วนคนงานที่เหลือรวมทั้งนายยอดที่คาดว่าจะเป็นฆาตกรโหด ตำรวจระดมกำลังออกไล่ล่า เร่งด่วนแล้ว คาดว่าจะยังคงหลบซ่อนอยู่ในป่าสักใกล้จุดเกิดเหตุเช่นกัน