กู้ซาก |
เมื่อจู่ๆ เรือขุดลอกคลองระบายน้ำของสำนักงานเขตบึงกุ่ม ซึ่งกำลังปฏิบัติหน้าที่ขุดลอกคูคลองอยู่ที่บริเวณคลองขี้เสือ ถนนประเสริฐมนูกิจ แขวงและเขตลาดพร้าว ขุดไปเจออะไรบางอย่างใต้น้ำเข้า
เมื่อคนขับเรือพยายามยกเอาวัตถุนั้นขึ้นมาพ้นผิวน้ำ ก็เล่นเอาทุกคนต้องอึ้งไปตามๆ กัน เมื่อพบว่าสิ่งๆ นั้นคือรถเบนซ์คันงามที่พลัดตกลงไปจมอยู่ในก้นบึ้ง และที่สำคัญ ตรงที่นั่งคนขับยังพบซากศพคนตายอยู่ที่เบาะ ในสภาพเนื้อเยื่อเปื่อยจนเหลือแต่โครงกระดูก ต้องรีบนำขึ้นมาพิสูจน์กันอย่างทุลักทุเล
ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้
ย้อนไปดูเรื่องราวครั้งนี้ เกิดขึ้นตอนเย็นวันที่ 26 มิ.ย. ร.ต.ท.วิวัฒน์ เพชรี ร้อยเวร สน.โคกคราม รับแจ้งเหตุพบรถยนต์ตกคลอง มีผู้เสียชีวิตจมอยู่ใต้คลองขี้เสือ ถนนประเสริฐมนูกิจ แขวงและเขตลาดพร้าว จึงพร้อมด้วยพ.ต.อ.มาโนช รัตนโชติ ผกก.สน.โคกคราม เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นคลองระบายน้ำเน่า อยู่ริมถนนประเสริฐมนูกิจ ตัดเกษตร-นวมินทร์ พบรถเบนซ์ รุ่น 300 อี สีดำ-เทา ทะเบียน 8ว 0915 กทม. จมอยู่ก้นคลองมิดคัน เจ้าหน้าที่จึงนำเครนมายกรถคันดังกล่าวขึ้นจากคลองระบายน้ำ พบว่าด้านหน้ารถเบนซ์มีร่องรอยถูกชนพังยับเยิน กระจกด้านหลังแตก และที่สำคัญ ตรงเบาะคนนั่งพบศพ น.ส.กรชนก อภิรักษ์สันติ อายุ 36 ปี มีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 13/15 การเคหะคลองจั่น แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ ตายในสภาพเน่าเฟะ เนื้อเยื่อเปื่อยจนเหลือแต่โครงกระดูกอยู่ในรถ
แม่รุดดูศพลูกสาว |
เกิดเหตุสยองขึ้นแล้วในคลองแห่งนี้!!
ตำรวจตรวจสอบในรถพบเอกสารจำนวนมาก ทั้งบัตรเครดิตและแผ่นป้ายทะเบียน หมายเลข 4ว 1177 กทม. ซึ่งเป็นป้ายทะเบียนที่ทำขึ้นเองตามแบบฉบับที่รถซิ่งนิยมทำกัน จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ก่อนมอบศพให้เจ้าหน้าที่มูลนิธินำส่งสถาบันนิติเวชเพื่อผ่าพิสูจน์
สอบสวนนายณรงค์ เหนือถนอม อายุ 28 ปี พนักงานขับเรือขุดลอกคลอง เล่าด้วยความระทึกว่า ก่อนหน้านี้ได้รับคำสั่งให้นำเรือขุดมาขุดลอกคลองระบายน้ำ จึงมาปฏิบัติการ แต่เมื่อตักลงไปตรงเลนก็เกิดสะดุดและกระแทกกับวัตถุที่มีลักษณะแข็งบางอย่างจึงใช้เรือยกวัตถุดังกล่าวขึ้นมา จึงพบว่าเป็นรถเบนซ์จมอยู่ก้นคลองเลยรีบแจ้งเจ้าหน้าที่
ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังปฏิบัติงานอยู่นั้น ได้มีนางสุดใจ ลาชอาสา อายุ 67 ปี ซึ่งลูกสาวได้หายตัวไปเมื่อ 5 เดือนก่อน พอทราบข่าวจึงรีบเดินทางมาดูเหตุการณ์ทันที เมื่อมาถึงนางสุดใจถึงกับเข่าอ่อนทรุดลงกับที่ เมื่อเห็นว่ารถเบนซ์คันดังกล่าวเป็นรถของลูกสาว แถมยังพบซากศพลูกสาวที่เหลือแต่กระดูกกองอยู่ในรถอย่างน่าสลดใจ
จมก้นคลอง |
คนเป็นแม่หัวใจแทบสลาย
นางสุดใจ เล่าว่า ลูกสาวมีอาชีพขายเสื้อผ้าแฟชั่นอยู่ที่ตวันนา พลาซ่า ตนกับลูกสาวไม่ได้พักอยู่ด้วยกัน ลูกสาวพักย่านแฟลตการเคหะคลองจั่น ที่ผ่านมา มีเพื่อนลูกสาวมาหาเมื่อช่วงต้นเดือนก.พ. ถามว่าลูกสาวมาพักอยู่ด้วยหรือเปล่า ตนบอกว่าไม่ได้มา และไม่ได้พบหน้ากันเลย จึงเข้าแจ้งความที่ สน.ลาดพร้าว ไว้เป็นหลักฐาน เพราะเกรงว่าจะได้รับอันตรายและขอความช่วยเหลือจากสถานีวิทยุต่างๆ ประกาศตามหา แต่ก็ไร้วี่แวว จนกระทั่งมาพบศพ ซึ่งนับเวลารวมได้ 5 เดือนพอดี
ไม่คิดเลยว่าลูกจะมาจบชีวิตแบบนี้
ส่วนน.ส.ระพีพรรณ มงคล อายุ 41 ปี เพื่อนผู้ตาย เล่าว่า
เมื่อวันที่ 30 ม.ค.ที่ผ่านมา ตนพร้อมผู้ตายและเพื่อนในกลุ่ม 4-5 คน นัดหมายไปดื่มฉลองที่ร้านสภาดิน ย่านเกษตร-นวมินทร์ ตั้งแต่ตอน 3 ทุ่ม จนถึงเที่ยงคืน ผู้ตายจึงขอตัวกลับก่อนเนื่องจากเมามาก โดยขับรถเบนซ์ออกไปจากร้านและหายเงียบไปไม่สามารถติดต่อได้
จนกระทั่งมาพบอีกทีก็กลายเป็นศพ!!
คดีนี้ตำรวจมองว่าไม่น่าใช่การฆาตกรรม น่าจะเป็นเรื่องของการประสบอุบัติเหตุ "เมาแล้วขับ" มากกว่า เพราะจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุเชื่อว่าผู้ตายมีอาการเมาสุราและขับรถมาถึงบริเวณใต้สะพานข้ามแยกและเลี้ยวกลับรถด้วยความเร็ว ก่อนเสียหลักพุ่งชนขอบทางจนรถตกไปในคลองระบายน้ำ แต่ช่วงนั้นไม่มีผู้ใดเห็นเหตุการณ์ จึงทำให้รถจมลงก้นคลองและคนขับเสียชีวิตทันที
ส่วนเรื่องของทะเบียนปลอมเจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้ว
ไม่พบว่ามีการนำรถไปทำเรื่องผิดกฎหมายแต่อย่างใด จากการตรวจสอบตัวรถเบนซ์ก็ไม่พบร่องรอยอะไร ไม่ได้ถูกยิงหรือถูกทำร้าย มีแต่รอยเฉี่ยวชนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทั้งนี้ ตำรวจจะได้เร่งตามหาพยานมาสอบปากคำ ว่าในวันเกิดเหตุมีคนเห็นรถคันนี้ประสบอุบัติเหตุด้วยตนเองหรือเฉี่ยวชนกับรถคู่กรณีคันใด
ใครมีเบาะแสโปรดแจ้งเจ้าหน้าที่
สำหรับมุมมองของญาติผู้ตาย ก็ยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่ได้ติดใจเอาความอะไรในการตายของ "กรชนก" ในครั้งนี้ เนื่องจากทุกคนรู้นิสัยใจคอของ "กรชนก" ดี ว่าเธอผู้นี้มีลักษณะนิสัยคล้ายผู้ชาย เวลาดื่มเหล้าก็จะดื่มเยอะมาก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเชื่อว่าสาเหตุมาจากเมาแล้วขับมากกว่าสาเหตุอื่น ญาติจึงไม่ติดใจว่าเป็นเหตุฆาตกรรม ส่วนแผ่นป้ายทะเบียน 4ว 1177 กทม. จำนวน 2 แผ่น ที่ทำขึ้นเองโดยไม่ได้เป็นแผ่นป้ายที่ออกมาจากขนส่งนั้น ในชั้นนี้ตรวจสอบพบว่าผู้ตายได้ไปจ้างร้านทำป้ายทั่วไปทำขึ้นมาติดรถตามแฟชั่น ญาติจึงติดต่อขอรับศพผู้ตายไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี
ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ได้