ฆาตกรรมโหดฝังดินหนุ่มนิรนามตะลึง+คนร้ายทำพิธีสะกดวิญญาณไม่ให้ตามรังควาญ
จับศพพนมมือมัดตราสัง-ปักธูปรอบหลุม ตร.ชี้ถูกฆ่ามาจากที่อื่น วายร้ายไม่ต่ำกว่า 3 คนลงมือโหด ทุบกะโหลกแบะใช้กระสอบป่านครอบหัวแล้วนำมาฝังดินอำพรางคดี กว่าจะมีคนพบศพก็เน่าเฟะ คาดตายมาแล้วไม่ต่ำกว่า 7 วัน เชื่อปมหักหลัง ขบวนการค้าธุรกิจมืดตามแนวชายแดน โดยเฉพาะยาบ้า-โจรกรรมรถข้ามชาติ
เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 25 มิ.ย. ร.ต.ท.อนุศร อุดร ร้อยเวร สภ.โคกสูง จ.สระ แก้ว ได้รับแจ้งจากชาวบ้านที่กำลังเลี้ยงวัวอยู่ในป่าสงวนติดริมถนนศรีเพ็ญ เลียบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา
ห่างจากท้ายหมู่บ้านหนองมั่ง หมู่ 5 ต.หนองแวง อ.โคกสูง ประมาณ 3 กม. ว่าพบศพคนถูกฆ่าฝังดินอยู่กลางป่าละเมาะ ริมถนนสายดังกล่าว จึงพร้อมด้วย พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว นายยุทธนา นุชนารถ นายอำเภอโคกสูง และ นพ.ณัฐวุฒิ ตันฑเทอดธรรม แพทย์เวร รพ.อรัญประเทศ รุดไปตรวจสอบเกิดเหตุ พบหลุมขนาดใหญ่ลึกกว่า 1 เมตร โดยรอบมีธูปที่มอดแล้วปักอยู่ และมีร่องรอยการขุดจนเห็นศพนอนคว่ำหน้าอยู่ โดยมีกระสอบป่านสวมศีรษะ และมีผ้าร่มปิดทับร่างไว้
เจ้าหน้าที่จึงนำศพขึ้นมาตรวจสอบ พบว่าเป็นศพชายไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 30 ปี สูงประมาณ 170 ซม. สวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นลายดอกสีเหลือง กางเกงยีนส์ขายาว
ศพอยู่ในสภาพมือสองข้างถูกมัดตราสังด้วยเชือกในลักษณะพนมมือ ในมือมีเงินฉบับละ 100 บาท 1 ใบ และมีเงินใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้ออีก 150 บาท ส่วนที่ขาทั้งสองข้างก็ถูกมัดด้วยเชือกอย่างแน่นหนา มีบาดแผลถูกตีด้วยของแข็งบริเวณกกหูซ้ายอย่างแรงจนกะโหลกแตก ทั้งนี้ ศพอยู่ในสภาพเน่าเฟะ คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 7 วัน นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังพบถุงพลาสติกสีดำถูกใส่ไว้ในหลุมข้างศพ เปิดดูภายในมีบุหรี่ 4 ซอง กาแฟกระป๋อง 2 กระป๋อง ยาสระผม 2 ซอง และมีดพกสั้นชนิดพับ 1 เล่ม เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ ผบก.ภ. จว.สระแก้ว เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าผู้ตายเป็นใครมาจากไหน รวมทั้งยังไม่ทราบว่าเป็นสัญชาติคนไทยหรือต่างด้าว
เนื่องจากไม่พบเอกสารใด ๆ ในตัวผู้ตาย อย่างไรก็ตามในเบื้องต้นสันนิษฐานว่า ผู้ตายน่าจะถูกคนร้ายไม่ต่ำกว่า 3 คนฆ่ามาจากท้องที่อื่น จากนั้นจึงนำศพมาขุดหลุมฝังเพื่ออำพรางคดี และที่น่าแปลกใจก็คือสภาพศพที่ถูกมัดตราสัง และโดยรอบหลุมศพมีธูปปักอยู่ พร้อมกับมีสิ่งของต่าง ๆ ดังกล่าวอยู่ ในหลุมศพ คล้ายกับมีการทำพิธีกรรมบางอย่าง ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นการสะกดวิญญาณผู้ตายไม่ให้ตามรังควาน
ส่วนสาเหตุการฆาตกรรมอำพรางครั้งนี้ เบื้องต้นสันนิษฐานว่าน่าจะมาจากการหักหลังในขบวนการค้าธุรกิจเถื่อนตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในเรื่องยาเสพติดหรือโจรกรรมข้ามชาติ ซึ่งได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งสืบสวนติดตามว่าผู้ตายเป็นใครมาจากไหนเพื่อคลี่คลายคดีต่อไป.