สลดด.ช.3 ขวบซดน้ำมันเบนซินดิ้นทุรนก่อนเสียชีวิตอนาถ
เผยแม่ซื้อน้ำมันเบนซินไว้จุดเตาโดยนำใส่ขวดแฟนต้า ทำให้หนูน้อย ที่ผ่านไปเห็นคิดว่าเป็นน้ำแดงที่กินประจำ จึงยกขึ้น ซดพรวดกว่าแม่จะมาเห็นและพาส่งร.พ.ก็สายเกินการณ์ ด้านพ่อ-แม่ร่ำไห้ยันไม่โทษใครแต่ขอให้เป็นอุทาหรณ์สำหรับครอบครัวอื่นๆ โดยจะฝังศพลูกไว้อีก 7 ปีให้อายุครบ 10 ขวบ ถึงจะนำมาทำพิธีอีกครั้ง แพทย์เผยหนูน้อยมีอาการหัวใจรั่วจึงอ่อนแอกว่าเด็กทั่วไป พอดื่มน้ำมันจึงมีอาการรุนแรงกว่าปกติ เตือนหากเด็กกินน้ำมันห้ามทำให้อาเจียนเพราะอาการจะยิ่งรุนแรง ต้องรีบพาส่งร.พ.โดยเร็วที่สุด
เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 19 มิ.ย. ร.ต.อ.พนม บุญช้าง ร้อยเวร สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งจาก ร.พ.มหาราช ว่า
มีเด็กดื่มน้ำมันเบนซินมาเข้ารับการรักษาและเสียชีวิต จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบ พบศพ ด.ช.อนุวิน เกิดขำ หรือน้องบอร์ด อายุ 3 ขวบ เป็นลูกชายของนายสุนทร เกิดขำ อายุ 35 ปี และนางสมนึก เกิดขำ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 95 หมู่ 13 ต.ท่าเรือ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช สภาพศพเนื้อตัวขาวซีด
เห็นเบนซินนึกว่าน้ำแดง สลด3ขวบซด-ตายทุรน
สอบสวนทราบก่อนเกิดเหตุว่า
ด.ช.อนุวิน ซึ่งอยู่บ้านกับแม่ โดยนางสมนึกกำลังยุ่งอยู่กับการทำงานบ้าน ปล่อยให้ด.ช.อนุวินวิ่งเล่นตามประสาเด็กอยู่ตามลำพัง ต่อมาได้ยินเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด นางสมนึกรีบเข้ามาพบลูกชายนอนดิ้นทุรนทุราย และมีอาการสำลักอย่างรุนแรง พร้อมกลิ่นน้ำมันเบนซินโชยออกมาจากปาก ใกล้ๆ กันเป็นขวดน้ำอัดลมยี่ห้อแฟนต้าที่ใส่น้ำมันเบนซินสีแดงล้มอยู่ จึงรีบพาลูกส่งร.พ.ให้แพทย์ช่วยเหลือ แต่ก็ไม่ทันท่วงที
ร.ต.อ.พนมกล่าวว่า
สำหรับน้ำมันเบนซินที่ด.ช. อนุวินดื่มเข้าไปนั้น นางสมนึกซื้อมาเก็บไว้เพื่อใช้จุดเตาในครัว โดยจะวางไว้ในซอกหลังบ้าน คาดว่าด.ช. อนุวินผ่านไปเห็นเข้าและเข้าใจว่าเป็นน้ำแดง ที่เคยกินเป็นประจำ จึงยกขึ้นดื่มกระทั่งเกิดเหตุสลดขึ้นดังกล่าว
ต่อมานายสุนทร และนางสมนึก พ่อแม่ของน้องบอร์ด มีอาชีพขายไก่สดอยู่ในตลาดหัวถนนศาลามีชัย อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พร้อมด้วยญาติพี่น้องนำศพน้องบอร์ดมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดท่าสะท้อน โดยนิมนต์พระภิกษุมาประกอบพิธีทางศาสนา ก่อนจะฝั่งศพไว้ก่อน โดยนายสุนทรและนางสมนึกระบุว่าจะฝังศพน้องบอร์ดเอาไว้จนอายุครบ 10 ปี แล้วจะขุดศพขึ้นมาบำเพ็ญกุศลอีกครั้ง การเสียชีวิตของน้องบอร์ดในครั้งนี้ไม่ขอโทษใคร ถือว่าน้องบอร์ดทำบุญมาแค่นี้ ขอให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์เตือนใจพ่อแม่ ผู้ปกครองคนอื่นๆ เพราะเหตุการณ์ในลักษณะนี้อาจจะเกิดขึ้นกับเด็กๆ คนอื่นอีกก็ได้
สองสามีภรรยากล่าวด้วยความเศร้าโศกเสียใจว่า
มีลูก 2 คน ด.ช.อนุวิน หรือน้องบอร์ด เป็นลูกคนเล็ก ตัวจะเล็กกว่าเด็กทั่วๆ ไป เพราะป่วยเป็นโรคหัวใจรั่ว วันเกิดเหตุน้องบอร์ดเข้าใจว่าน้ำมันเบนซินเป็นน้ำอัดลมน้ำแดง ที่มักจะซื้อให้กินเป็นประจำเพราะลูกชอบ เมื่อดื่มเข้าไปก็มีอาการสำลัก และอาเจียนอย่างหนัก หลังจากถึงร.พ.มหาราช แพทย์ช่วยล้างท้องแต่ยื้อชีวิตเอาไว้ไม่ได้
ด้านพ.ญ.สุภิญา โออุไร กุมารแพทย์ ร.พ.มหาราช แพทย์เจ้าของไข้กล่าวว่า
หลังจากรับเด็กมาอยู่ในความดูแล พบว่าเด็กอยู่ในกลุ่มพัฒนาการช้าอยู่แล้ว ถือเป็นกลุ่มที่มีภูมิคุ้มกันน้อยกว่าเด็กปกติ การดื่มน้ำมันเข้าไป โดยเฉพาะน้ำมันระเหย เช่น เบนซิน จะมีคุณลักษณะทำลายปอดอย่างรุนแรง สิ่งที่ตามคืออาการอักเสบ แพทย์สอดท่อเครื่องช่วยหายใจ แต่พบอาการแทรกซ้อนและติดเชื้อ เนื่องจากเด็กกลุ่มนี้จะมีภูมิคุ้มกันน้อยอยู่แล้ว จึงเป็นสาเหตุเสียชีวิต ที่พบบ่อยเด็กจะกินสาร 2 ประเภท คือสารประเภทกรดและด่าง ที่มีฤทธิ์กัดกร่อน อีกประเภทคือสารระเหย เช่น น้ำมันเชื้อเพลิงชนิดต่างๆ พ่อแม่ผู้ปกครองต้องระวัง หากพบเด็กดื่มกินเข้าไปห้ามทำให้อาเจียน ต้องรีบเคลื่อนย้ายนำมาพบแพทย์โดยเร็วที่สุด หากทำให้อาเจียนจะทำให้อาการรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากสารจะเพิ่มการทำลายทางเดินอาหารและทางเดินหายใจ