ปปง.เพิ่งตื่น! ส่งอัยการยึดทรัพย์ กำนันเป๊าะ 30 ล้าน

โดย ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์ 1 มีนาคม 2549 14:20 น.

ปปง.หอบสำนวนกว่า 3 พันหน้า ส่งอัยการยึดทรัพย์ กำนันเป๊าะ กว่า 30 ล้าน คดีทุจริตจัดซื้อที่ดินเขาไม้แก้ว อธิบดีอัยการดีเอสแอล ระบุพร้อมตั้งคณะทำงานพิจารณา มีมติก่อนยื่นศาลแพ่งชี้ขาด 21 มี.ค.นี้

วันนี้ (1 มี.ค.) ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้นำเอกสารจำนวน 7 แฟ้ม รวม 3,188 แผ่น มาเสนอให้กับนายเสกสรรค์ บางสมบุญ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ เพื่อพิจารณายึดและอายัดเงินฝากธนาคารของนายสมชาย คุณปลื้ม หรือกำนันเป๊าะ อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาล ต.แสนสุข จ.ชลบุรี กับนางสติล คุณปลื้ม และน.ส.จิราภรณ์ คุณปลื้ม บุตรสาว รวม 30 บัญชี เป็นเงิน 30.1 ล้านบาทเศษ ที่ ปปง.ได้ตรวจสอบทรัพย์สินของบุคคลทั้งสาม โดยนายเสกสรรค์จะตั้งกรรมการจำนวน 35 คน ขึ้นพิจารณาโดยมีนายสุรศักดิ์ ศรีรัตน์ตระกูล รองอธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษเป็นหัวหน้าคณะทำงาน

ขณะที่ นายสุรศักดิ์ ในฐานะคณะกรรมการธุรกรรม ปปง. กล่าวว่า ปปง.ได้เริ่มเข้าไปตรวจสอบทรัพย์สินของนายสมชายกับพวก ตั้งแต่เดือน พ.ค.47 เกี่ยวกับการทุจริตจัดซื้อที่ดินทำบ่อขยะบริเวณ ต.เขาไม้แก้ว อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จำนวน 93 ล้านบาทเศษ พบว่าเบื้องต้นเมื่อปี 2535 ระหว่างที่มีการจัดซื้อที่ดิน ต.เขาไม้แก้ว ผู้ขายได้มีการโอนเงินเข้าบัญชีของกำนันเป๊าะ ประมาณ 53 บัญชี

อย่างไรก็ตาม เมื่อตรวจสอบโดยละเอียดแล้วพบว่ามีเงินในบัญชี 30 บัญชี จำนวน 30 ล้านบาทเศษ ของกำนันเป๊าะกับพวก ที่ปรากฏหลักฐานเป็นที่เชื่อได้ว่าเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำผิดจากการทุจริตจัดซื้อที่ดิน ต.เขาไม้แก้ว ซึ่งทางอัยการจะต้องเร่งพิจารณาเพื่อยื่นคำร้องต่อศาลแพ่งเพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งยึดเงินในบัญชีดังกล่าวของนายสมชายกับพวกให้ตกเป็นของแผ่นดินก่อนวันที่ 21 มี.ค.นี้ ซึ่งจะครบกำหนด 90 วันตามกฎหมาย

นอกจากนี้ทาง ปปง.ก็กำลังติดตามตรวจสอบทรัพย์สินอื่น เช่น อสังหาริมทรัพย์ หรือทรัพย์สินอื่นที่ถูกโอนย้ายไปที่ต่างประเทศว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ฝ่ายนายสมชายกับพวกก็สามารถใช้สิทธิยื่นคัดค้านการยึดทรัพย์สินต่อศาลได้

ต่อข้อถามที่ว่า หากศาลฎีกาพิพากษากลับให้ยกฟ้องนายสมชายกับพวกในคดีทุจริตจัดซื้อที่ดิน ต.เขาไม้แก้วแล้ว จะต้องคืนเงินให้นายสมชายหรือไม่นั้น นายสุรศักดิ์ กล่าวว่า การยึดทรัพย์เป็นคดีทางแพ่งศาลจะต้องชั่งน้ำหนัก พยานหลักฐานต่างๆ เป็นคนละเรื่องต่างจากคดีอาญา เพระนายสมชายต้องชี้แจงที่มาที่ไปของทรัพย์ให้ได้ว่าได้มาโดยสุจริต ดังนั้น การยึดทรัพย์ของนายสมชายต้องดำเนินต่อไป