เหิม!ระเบิดซุ้มเฉลิมพระเกียรติหน้ากระทรวงเกษตรฯ

เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 2 มิถุนายน เกิดเหตุระเบิดบริเวณฐานซุ้มเฉลิมพระเกียรติ ฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ซึ่งมีฐานเป็นไม้อัด และโครงเป็นเหล็กขนาดใหญ่สูงกว่า 3 เมตร ตั้งอยู่ถนนราชดำเนินนอก ที่ตั้งอยู่ด้านหน้าเยื้องกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ถนนราชดำเนินนอก แขวงบ้านพานถม เขตพระนคร กทม.นั้น จากแรงระเบิดส่งผลให้ฐานซุ้มที่เป็นไม้อัดแตกกระจาย และฐานดอกไม้ กระจัดกระจายเกลื่อนถนน นอกจากนี้ แรงระเบิดยังทำให้กระจกบานใหญ่สูงประมาณ 2 เมตร ของห้องประชุมไชยยงค์ ชูชาติ ภายในสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรแตก เศษกระจกหล่นกระจัดกระจาย

จากสอบถามเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย สังกัดองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ในพระบรมราชูปถัมภ์ ให้การว่า มาเข้าเวรปฏิบัติหน้าที่รักษาความเรียบร้อยด้านหน้าประตูทางเข้ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตั้งแต่เวลา 19.00 น. ของวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา จนถึงเวลา 07.00 น. ของวันที่ 2 มิถุนายน

ปรากฏว่าได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นเมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 2 มิถุนายน 1 ครั้ง แต่ยังไม่ได้สนใจ แต่หลังจากนั้นในเวลาไล่เลี่ยกัน ก็เกิดระเบิดขึ้นอีกจุดบริเวณฐานของเสาไฟส่องทางติดป้ายรถเมล์ด้านหน้าศูนย์สวัสดิภาพเด็กและสตรี (ศดส.) บช.น. ห่างจากจุดแรกประมาณ 100 เมตร ทำให้ฝาครอบเสาไฟมีรอยไหม้ และมีกลิ่นเหม็นไหม้

และอีกประมาณ 5 นาทีต่อมา ก็ได้ยินเสียงระเบิดอีกครั้ง จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจวิ่งมาขอยืมถังดับเพลิงไปดับไฟบริเวณเสาไฟฟ้าจุดที่เกิดระเบิดครั้งที่ 2 ซึ่งในช่วงเกิดเหตุไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น กระทั่งมาทราบข่าวอีกครั้งว่าเป็นเหตุระเบิด

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับระเบิดดังกล่าวไปยัง สน.นางเลิ้ง และศูนย์สวัสดิภาพเด็กและสตรี แต่ได้รับการปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลหรือรายละเอียดต่างๆ โดยอ้างว่านายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ เดินทางไปประชุมยัง บช.น. และเมื่อสอบถามไปยังนายตำรสวจระดับสูงของ บช.น.ก็ได้รับการปฏิเสธถึงเรื่องดังกล่าวอีกเช่นกัน

วันเดียวกัน ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลภาย ภายหลังเกิดเหตุระเบิดซุ้มดังกล่าว ล่าสุดเวลา 09.00 น.วันเดียวกัน พล.ต.ท.วิโรจน์ จันทรังษี ผบช.น.ได้หยิบยกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเข้าหารือในที่ประชุมซึ่งเกี่ยวข้องกับการอารักขารักษาความปลอดภัยพระราชอาคันตุกะอย่างเร่งด่วนท่ามกลางสถานการณ์ที่ตึงเครียดใช้เวลากว่า 4 ชั่วโมง

โดยที่ประชุมได้วิเคราะห์สถานการณ์ความเป็นไปได้ถึงประเด็นจุดมุ่งหมายของกลุ่มผู้กระทำการดังกล่าว น่าเชื่อว่าจะเป็นฝีมือของกลุ่มผู้ไม่หวังดีต่อประเทศชาติสร้างสถานการณ์ขึ้นมาก่อให้เกิดความแตกแยกขึ้นในบ้านเมืองทำให้ประเทศชาติได้รับความเสียหายลดความเชื่อมั่นจากต่างชาติลง โดย ผบช.น.กำชับในที่ประชุมให้ปรับแผนดูแลความปลอดภัยในช่วงงานสำคัญอย่างแน่นหนา

อย่างไรก็ตามหลัง เสร็จสิ้นการประชุมนายตำรวจระดับผู้บังคับบัญชาทั้งหมดต่างเดินหนีกองทัพสื่อมวลชนไม่ยอมปริปากพูดถึงเหตุการณืที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด โดยเฉพาะ ผบช.น. มีสีหน้าที่บึ้งตึงอย่างเห็นได้ชัดก่อนจะเปิดประตูเข้าห้องทำงาน

ขณะที่นายตำรวจระดับรอง ผบช.น. หนึ่งในผู้เข้าร่วมประชุมพูดเปรยๆต่อหน้าสื่อมวลชนว่า เป็นเรื่องที่พวกเราน่าจะรู้นะว่าสมควรจะเป็นข่าวหรือไม่อย่างไรเพราะเป็นเรื่องที่ไม่ควรพูดไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติมีแต่จะเสียหายเท่านั้น