จับ2สวะสังคมใช้มีดไล่ฟันถีบรถจยย.สุจริตชนล้มชิงทรัพย์

โดย ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์ 1 มีนาคม 2549 15:28 น.
สองสวะสังคมก่อเหตุ ขี่รถจยย.ตามประกบใช้มีดไล่ฟันสุจริตชน และถีบจนรถล้ม ก่อนจะเข้าไปทำร้ายและชิงทรัพย์ชายหญิง หลบหนีไป ทว่าขณะกำลังหลบหนี แท็กซี่พลเมืองดีเห็นเหตุการณ์ขับรถติดตามไปจนกระทั่งถึงด่านตรวจ แจ้งตำรวจตามไปจับกุมได้ โดยรถ 2 คนร้ายล้มลุกคลุกคลาน และหนึ่งในคนร้ายได้รับบาดเจ็บจนลิ้นเกือบขาด
วันนี้ (1 มี.ค.) เวลา 13.00 น. ที่สน.ประชาชื่น พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผบก.น.2 พ.ต.อ.วิชัย สังประไพ รองผบก.น.2 แถลงการจับกุมนายทนงศักดิ์ ปอน สุขสนิท อายุ 20 ปี และนายประมาณ หรือป๊อบ แย้มเวช อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17 หมู่ 3 แขวงบางพรม เขตตลิ่งชัน กทม. พร้อมของกลาง มีดดาบหัวตัดยางวประมาณ 1 เมตร ท่อนเหล็กยาวประมาณ 1 เมตร เงินสด 500 บาท กระเป๋าสะพายผู้หญิง 1 ใบ รถจยย.ยามาฮ่า นูโว สีดำ ทะเบียน มบพ-840 กทม.
พล.ต.ต.อำนวยกล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเวลาตีสองที่ผ่านมา ผู้ต้องหาทั้งสองคนร่วมกันชิงทรัพย์น.ส.ชญาวิช วิฑูรรัตน์ และนายเอกรินทร์ สฤษฎ์สุนทร โดยผู้เสียหายทั้งสองคนกำลังขับขี่รถจยย. อยู่ที่บริเวณเชิงสะพานใกล้สี่แยกประชานุกูล ถนนรัชดาภิเษก แขวงและเขตบางซื่อ และผู้ต้องหาขี่รถจยย.ตามมาประกบ ก่อนใช้เท้าถีบ จนรถผู้เสียหายล้ม จากนั้น ผู้ต้องหาใช้มีดและท่อนเหล็กเข้าทำร้ายผู้เสียหายจนได้รับบาดเจ็บ และชิงเอาทรัพย์สินเป็นสร้อยคอทองคำหนัก 2 สลึง 1 เส้น เงินสด 500 บาท โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง กระเป๋าสะพาย 1 ใบ หลบหนีไปตามถนนเลียบคลองประปา มุ่งหน้าสี่แยกงามวงศ์วาน
พล.ต.ต.อำนวยกล่าวต่อว่า หลังเกิดเหตุ ผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับตำรวจสน.ประชาชื่น ในขณะเดียวกัน มีพลเมืองดี ชื่อนายเกรียงศักดิ์ ศรีสวัสดิ์ อายุ 40 ปี คนขับรถแท็กซี่สีเขียงเหลืองทะเบียน มง-9289 กทม. ขับผ่านไปประสบเหตุขณะคนร้ายกำลังหลบหนี จึงขับรถติดตามรถจยย.ของคนร้ายไป โดยรถของคนร้ายขับผ่านสี่แยกพงษ์เพชร เลียบคลองประปา มุ่งหน้าไปยังถนนแจ้งวัฒนะ ซึ่งขณะนั้น ตำรวจท้องที่สภ.อ.ปากเกร็ด กำลังอยู่ระหว่างการเก็บของเลิกจากการตั้งด่านตรวจ นายเกรียงศักดิ์ โชเฟอร์รถแท็กซี่ จึงเข้าไปแจ้งตำรวจให้ทราบ ในขณะที่คนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ผ่านด่านไปแล้ว ซึ่งหลังทราบเรื่อง ตำรวจได้ขับรถติดตามรถคนร้ายไป โดยรถของคนร้ายลื่นล้มครั้งแรก แต่คนร้ายทั้ง 2 คน ยังลุกขึ้นมาขี่รถจยย.หลบหนีต่อไป ทว่า เมือ่ไปถึงทางลงทางด่วนแจ้งวัฒนะ ต.คลองเกลือ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี รถของคนร้ายล้มอีกครั้ง ตำรวจจึงเข้าจับกุมตัวไว้ได้ทั้ง 2 คน และพบว่า คนร้ายได้รับบาดเจ็บเนื้อตัวถลอกปลอกเปิด โดยนายทนงศักดิ์ คนขี่รถจยย.ได้รับบาดเจ็บถึงกับลิ้นเกือบขาด จากเหตุรถจยย.ล้มดังกล่าว จากนั้นตำรวจจึสงคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนสน.ประชาชื่น และให้ผู้เสียหายมายืนยันชี้ตัวเป็นหลักฐานดำเนินคดี
จากการสอบสวนนายเอกรินทร์ ผู้เสียหายให้การว่า ก่อนเกิดเหตุขี่รถจยย.พาแฟนสาวกลับจากการซื้อของย่านสะพานพุทธ โดยใช้เส้นทางตามถนนจรัลสนิทวงศ์เพื่อกลับบ้านย่านดอนเมือง ขณะมาถึงบริเวณอุโมงค์แยกบางพลัด พบรถผู้ต้องหา ขับอยู่ใกล้ๆ แต่ไม่ได้เอะใจ หรือสนใจอะไร จากนั้นได้ขี่ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งจะขึ้นสะพานพระราม 7 รถของคนร้ายเร่งเครื่องตามมาประกบ และคนร้ายที่นั่งซ้อนท้าย คว้ามีดดาบขึ้นมาฟันจนถูกหมวกกันน็อค จากนั้นคนร้ายเร่งเครื่องแซงขึ้นไปบนสะพานพระราม 7 และกลับรถขี่ย้อนศรมา พร้อมกับง้างมีดจะฟันอีกรอบ ตนจึงได้เบี่ยงรถหลบและเร่งเครื่องหนี จนกระทั่งถึงที่เกิดเหตุ ใกล้สะพานข้ามแยกประชานุกูล คนร้ายบิดรถตามมาทัน และเข้าประกบ ถีบจนรถล้ม ทำให้ได้รับบาดเจ็บ จากนั้นคนร้ายที่นั่งซ้อนท้ายมา พยายามใช้มีดเข้ามาฟันตน จึงได้พยายามยื้อยึดฉุดกระชากและต่อสู้กันขึ้น กระทั่งคนร้ายล่าถอยไป
ด้านน.ส.ชญาวิช แฟนสาวนายเอกรินทร์กล่าวว่า ขณะที่นายเอกรินทร์กำลังต่อสู้กับนายประมาณ คนร้ายที่นั่งซ้อนท้ายรถจยย.มานั้น นายทนงศักดิ์ คนร้ายที่เป็นคนขับ เดินถือท่อนเหล็กตรงมาที่ตน ทำท่าจะฟาดด้วยท่อนเหล็ก แต่ด้วยความกลัว ตนจึงได้ถอดสร้อยคอทองคำหนัก 2 สลึง ยื่นให้คนร้ายไป แต่คนร้ายกลับใช้ท่อนเหล็กฟาดเข้าที่ศีรษะ 1 ครั้งจนแตกเลือดอาบ พร้อมกับกระชากกระเป๋าสะพาย ภายในมีเงินสด 500 บาท โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ก่อนที่จะตะโกนบอกเพื่อนล่าถอย ซึ่งเป็นจังหวะที่คนขับรถแท็กซี่ผ่านมาประสบเหตุ และขับรถไล่ตามไป จนพบด้านตรวจและแจ้งให้ตำรวจติดตามไปจนจับกุมคนร้ายได้ดังกล่าว
พล.ต.ต.อำนวยกล่าวต่อว่า จากการสอบาสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุ ขี่รถจยย.ออกมา เพื่อตามล่าตัวโจทก์เก่า จนกระทั่งขับมาถึงบริเวณอุโมงค์บางพลัด เหลือบไปเห็นผู้เสียหายขี่รถจยย.ผ่านมา โดยคนขับสวมหมวกกันน๊อคครึ่งใบสีฟ้า ซึ่งมองเห็นหน้าคล้ายโจทก์เก่า จึงขี่รถตามไปเพื่อเอาคืน และเมื่อก่อนถึงสะพานพระราม 7 สังเกตเห็น ผู้เสียหายเร่งเครื่องรถหนี ทำให้ยิ่งแน่ใจว่า เป็นโจทก์เก่า จึงเร่งเครื่องตามไปก่อเหตุดังกล่าว แต่เมื่อถีบรถผู้เสียหายล้มแล้ว ได้พยายามเข้าทำร้ายผู้ชาย และเมื่อเห็นหน้าก็ จำได้ว่าไม่ใช่โจทก์ แต่กลายเป็นคนไม่รู้จัก จึงรีบหลบหนีไป ส่วนสร้อยคอที่ผู้เสียหายอ้าง จำได้ว่า ได้กระชากจนขาดในที่เกิดเหตุ และไม่ได้หยิบมาด้วย
เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหา ชิงทรัพย์ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยมีอาวุธและยานพาหนะเพื่อสะดวกในการหลบหนี ก่อนจะคุมตัวไปดำเนินคดีต่อไป
Love illusion ความรักลวงตา เพลงที่เข้ากับสังคมonline
Love illusion Version 2คนฟังเยอะ จนต้องมี Version2กันทีเดียว
Smiling to your birthday เพลงเพราะๆ ไว้ส่งอวยพรวันเกิด หรือร้องแทน happybirthday