เครียดฆ่าตัวตาย 3 รายซ้อน โดดตึก-สะพาน

เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 14 มิ.ย. ร.ต.ท.รุ่งอรุณ ยิ่งยืน ร้อยเวร สภ.สำโรงใต้ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ รับแจ้งมีชายกระโดดสะพานวงแหวนอุตสาหกรรมลงมาบนถนนกาญจนาภิเษก หมู่ 7 ซอยวัดบางหญ้าแพรก ต.บางหัวเสือ อ.พระประแดง เสียชีวิตคาที่ ไปสอบสวนพบศพนายเกรียงศักดิ์ จันโท หรือหล้า อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 108/53 หมู่ 1 ซอยบางกระดี่ 25 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม. นอนคว่ำหน้าจมเลือด สภาพร่างกายแหลกเหลว บนสะพานช่วงหลัก กม.ที่ 19+700 พบรถกระบะนิสสัน ฟรอนเทียร์ สีบรอนซ์ ทะเบียน ตห 897 กรุงเทพมหานคร ของผู้ตาย จอดชิดขอบสะพาน เปิดไฟฉุกเฉินทิ้งไว้ ภายในรถพบก้นบุหรี่จำนวนมากและโทรศัพท์ มือถือ 1 เครื่อง  สอบปากคำนายโกมล ศรีทองเจือ อายุ 39 ปี ญาติผู้ตายให้การว่า ผู้ตายทำธุรกิจรับเหมารับจ้างเดินสายไฟฟ้าตามอาคารและโรงงานอุตสาหกรรม มีคนงาน 12 คน ช่วงนี้รับเหมางานไว้ 4 แห่ง เมื่อวานนี้ผู้ตายขับรถไปส่งลูกน้องที่ไซต์งานย่านบางพลี และไม่อยู่คุมงานอ้างว่าจะไปทำธุระเรื่องเงินที่ธนาคาร จากนั้นก็ติดต่อไม่ได้ จนเมื่อ 6 โมงเช้า ตนโทร.ไปหาอีกครั้ง ผู้ตายรับสายและคุยว่า ตอนนี้จอดรถนั่งสูบบุหรี่อยู่บนสะพานดังกล่าว  เพราะรู้สึกเครียดมากเนื่องจากงานรับเหมาทั้ง 4 แห่งยังไม่เสร็จ ไม่มีเงิน และคิดถึงนางยุพา เด็ดดวง อายุ 32 ปี ภรรยาที่หายออกจากบ้านไปเมื่อ 3 วันก่อน ทิ้งลูกชายวัย 2 ขวบ ไว้ให้เลี้ยง  เนื่องจากมีปากเสียงกันเพราะผู้ตายเครียดเรื่องงาน ตนได้แต่ปลอบให้ใจเย็นๆ แต่โทรศัพท์ตนแบตเตอรี่หมด สายจึงตัดไป พอโทร.กลับไปอีกครั้งก็ไม่มีคนรับ กระทั่งได้รับแจ้งว่าผู้ตายกระโดดสะพานเสียชีวิตแล้ว  ร.ต.ท.รุ่งอรุณ  ยิ่งยืน ร้อยเวรเจ้าของคดี เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำพยานแวดล้อมและญาติแล้ว เชื่อว่าผู้ตายก่อเหตุฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดสะพานลงมาเอง โดยขับรถยนต์ขึ้นมาจากบริเวณแยกช้างสามเศียร เพื่อมุ่งหน้าจะกลับบ้านย่านบางขุนเทียน แต่ระหว่างทางเกิดความเครียดจัดจอดรถสูบบุหรี่ ก่อนตัดสินใจกระโดดสะพานที่มีความสูงราว 30 เมตร ลงมาฆ่าตัวตาย ส่วนสาเหตุคาดว่ามาจากปัญหาเรื่องส่วนตัว ทั้งจากเรื่องงาน และเรื่องภรรยาหนีออกจากบ้าน ทั้งนี้ จะเชิญคนใกล้ชิดมาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง รายต่อมา เมื่อเวลา 08.30 น. ร.ต.ต.ณัฐพงษ์ พินิจ ร้อยเวร สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี รับแจ้งมีคนกระโดดอาคาร พี 1 คอนโดเมืองทองธานี ถนนแจ้งวัฒนะ ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด ลงมาเสียชีวิต ไปตรวจสอบพบศพนางรัตนาภรณ์ เหมะจันทร อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 199/25 หมู่ 6 แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. นอนหงายจมเลือด แขนขาหัก กะโหลกศีรษะแตก ข้างศพมีลูกสาวและหลานสาวของผู้ตายนั่งกอดกันร้องไห้ด้วยความเสียใจ  สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายมาหาลูกสาวที่ห้อง 16/56 ชั้น 16 อาคาร พี 1 ที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งปรับทุกข์ เรื่องที่ผู้ตายไปเปิดโรงเรียนกวดวิชาใกล้บ้าน แต่ปรากฏว่าธุรกิจขาดทุนอย่างย่อยยับ เพราะพิษเศรษฐกิจซบเซา น้ำมันขึ้นราคา ข้าวของเครื่องใช้แพงหู่ฉี่ ผู้ปกครองไม่มีเงินส่งลูกหลานมาเรียนกวดวิชา จนต้องปิดกิจการในที่สุด โดยลูกสาวได้ปลอบโยนและมอบเงินให้ 5,000 บาท เพื่อไว้ใช้จ่ายส่วนตัว กระทั่งลูกสาวลงมาทำธุระด้านล่างของคอนโด ก็ได้รับแจ้งว่ามารดากระโดดตึกลงมาเสียชีวิตแล้ว ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจขึ้นไปตรวจสอบในห้องพัก พบว่าผู้ตายได้ลากเก้าอี้มาไว้ที่ริมหน้าต่าง จากนั้นปีนขึ้นไปแล้วพุ่งหลาวลงมาจากชั้น 16 ร่างกระแทกพื้นตายสยอง สันนิษฐานว่า ผู้ตายเกิดความเครียด เพราะทำธุรกิจแล้วไม่ประสบผลสำเร็จ ทำให้ต้องตกเป็นภาระของลูกสาว จึงคิดสั้นตัดสินใจฆ่าตัวตายเพื่อหนีพิษเศรษฐกิจในยุคข้าวยากหมากแพง ขณะที่ลูกหลาน ญาติพี่น้องไม่ติดใจสงสัยสาเหตุการตาย จึงมอบศพให้มูลนิธิร่วมกตัญญูนำส่งสถาบันนิติเวชฯ ก่อนให้ญาติรับไปดำเนินการตามประเพณี

รายสุดท้าย เกิดขึ้นเมื่อเวลา 10.00 น. ร.ต.ท. วีระศักดิ์ ศิริมงคล พงส. (สบ 1) สน.บางยี่ขัน รับแจ้งเหตุ ชายกระโดดตึกฆ่าตัวตาย บริเวณหน้าอาคารพาณิชย์เลขที่ 1070 ตลาดใหม่บางยี่ขัน ซอยจรัญสนิทวงศ์ 40 แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กทม. ที่เกิดเหตุเป็นตึกแถวสูง 3 ชั้น ชั้นล่างเป็นร้านเสริมสวย ชื่อ “ตุ๊กตาซาลอน” ส่วน ชั้นบนแบ่งเป็นห้องให้เช่า ด้านหน้าร้านเสริมสวยพบศพนายทฤษฎี ไชยสุกุมาร อายุ 32 ปี เจ้าหน้าที่กองพระราชพิธี สังกัดฝ่ายราชูปโภค สำนักพระราชวัง นอนหงายจมเลือด ไม่สวมเสื้อ นุ่งกางเกงขายาวสีกากี สวมเข็ดขัดตราครุฑ สภาพกะโหลกศีรษะแตก กระดูกต้นคอหัก  น.ส.สายใจ สุทธิวัฒน์ อายุ 28 ปี แฟนสาวของผู้ตายให้การว่า เช่าห้องเลขที่ 34 บนชั้น 3 อยู่เพียงลำพัง ส่วนผู้ตายจะมาหาบ้างเป็นครั้งคราว ก่อนหน้านี้ติดต่อผู้ตายไม่ได้ 3 วัน กระทั่งเมื่อเย็นวานนี้ แฟนหนุ่มโทรศัพท์ บอกจะเข้ามาหา แต่ก็ไม่มา ช่วงเช้าถึงโผล่มาพบ สังเกตเห็นผู้ตายมีสีหน้าเคร่งเครียดมาก สอบถามได้ความว่า ช่วงนี้ มีปัญหาในที่ทำงาน เพื่อนชอบจับผิด ไม่มีใครรักและเข้าใจก่อนหยิบโทรศัพท์โทร.ไปคุยกับแม่ พอวางสายกลับ มีอาการเครียดหนักกว่าเก่าคว้ามีดจะแทงตัวเอง ตนเข้า ไปแย่งมีดและปลอบให้ใจเย็นๆ แต่ผู้ตายไม่ฟัง ใช้มือผลักตนล้มลงแล้วกระโดดพุ่งหลาวลงมาจากหน้าต่างห้องต่อหน้าต่อตา วันเดียวกัน นางปริศนา จันทร์ตรี นักวิชาการสุขภาพจิต กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงปัญหาของคนไทยที่มีสถิติการฆ่าตัวตายรายวันว่า เป็นเรื่องน่าเศร้า ที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ในสังคมไทย ซึ่งเคยเป็นสังคมที่พึ่งพาและเอื้ออาทรต่อกัน ปัจจุบันคนคิดฆ่าตัวตายจากการหาทางออกกับวิกฤติที่เกิดขึ้นในชีวิตไม่ได้ มีความเครียด ขาดที่พึ่ง อย่างในประเทศญี่ปุ่นซึ่งเป็นสังคมที่มีการแข่งขันสูง แต่ละปีมีคนฆ่าตัวตายถึงปีละ 30,000 คน ซึ่งอันตรายมาก ปัญหาการฆ่าตัวตายเป็นสิ่งที่เราจะต้องหันกลับมาดูแลคนใกล้ตัว หมั่นสังเกตว่ามีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ ไม่ใช่ต่างคนต่างอยู่ คนที่มีความทุกข์และตัดสินใจฆ่าตัวตาย ส่วนใหญ่เป็นเพราะรู้สึกว่าตนเองโดดเดี่ยว ขาดที่พึ่ง เนื่องจากสังคมทุกวันนี้มีพื้นที่ทำกิจกรรมมากมาย แต่พื้นที่ทางใจในสังคมกลับลดลง  “ผู้ที่อาจประสบปัญหาความเครียด มีความทุกข์ และคิดฆ่าตัวตายต้องมองปัญหาอย่างมีเหตุผล เพราะเราห้ามไม่ให้เกิดปัญหาไม่ได้ แต่สามารถปรับเปลี่ยนวิธีคิดและมุมมองต่อปัญหาของตนเองได้ ต้องคิดเสมอว่า ทุกปัญหามีทางออกเสมอ” นางปริศนา กล่าวและว่า จากสถิติแล้ว เพศชายเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบพูดและตัดสินใจฆ่าตัวตายเลย ซึ่งพบว่าอัตราการฆ่าตัวตายสำเร็จจะมีสูงกว่าเพศหญิง เรื่องนี้กรมสุขภาพจิตคงต้องหาวิธีการป้องกันต่อไป  จากข้อมูลของกรมสุขภาพจิต รวบรวมสถิติคนฆ่าตัวตายสำเร็จปี 2550 จากใบมรณบัตรของกระทรวงมหาดไทย ในช่วงเดือน ม.ค.-ธ.ค. 2550 พบว่า คนไทย ฆ่า ตัวตายสำเร็จ 3,458 คน เป็นชาย 2,703 คน หญิง 755 คน จังหวัดที่มีคนฆ่าตัวตายสูงสุด คือ จ.เชียงใหม่ ฆ่าตัวตายสำเร็จถึง 227 คน กรมสุขภาพจิตได้ประมาณการจำนวนคนฆ่าตัวตายสำเร็จในปี 2551 โดยตั้งเป้าว่าจะต้องไม่สูงกว่าปี 2550 แม้ว่าจะมีปัจจัยลบในด้านต่างๆ เช่น สภาพเศรษฐกิจสังคมที่แย่ลง อาจจะส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของคนไทย ทำให้เกิดปัญหาสุขภาพจิตมากขึ้น รวมถึงสภาวะที่กระตุ้นให้เกิดการฆ่าตัวตายมากขึ้นด้วย ทั้งนี้ กรมสุขภาพจิตตั้งเป้าที่จะลดอัตราการฆ่าตัวตายของคนไทยปีนี้ไม่ให้เกิน 3,341 คน ลดลง 117 คน