นฟาดหัว นอภ.เลือดอาบกระชากสร้อยหนี

ตามล่าโจรวัยรุ่นเหิม หลังก่อเหตุอุกอาจบุกจี้ชิงทรัพย์นายอำเภอคาร้านขายยากลางเมืองชลฯ

บังคับให้ปลดสร้อยทองหนัก 3 บาท พร้อมพระเลี่ยมทองหลวงปู่ทวด เหยื่อทำยึกยักชักช้าไม่พอใจ ด้ามปืนฟาดศีรษะแตกเลือดอาบ แล้วกระชากสร้อยไป แค่นั้นไม่พอยังใช้ปืนจ่อลูกสาวซึ่งเป็นเภสัชกรของร้าน ฉกสร้อยทอง 2 สลึงและพระเลี่ยมทองไปด้วย ก่อนซิ่งจยย.หนีลอยนวล คาดฝีมือโจรในพื้นที่ เพราะรู้เส้นทางหลบหลีกเป็นอย่างดี ล่าสุด ตร.ได้สเก็ตซ์ภาพคนร้ายไว้แล้ว

เหตุคนร้ายจี้ชิงทรัพย์นายอำเภอรายนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.15 น. วันที่ 12 มิ.ย.

ร.ต.ท.ณัฐกมล อาทรกิจวัตร ร้อยเวร สภ.ย่อย เสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งว่ามีเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนจี้ชิงทรัพย์และทำร้ายร่างกายเจ้าทรัพย์จนได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดที่ร้านขายยา “จุริยะ   ฟาร์มาซี” ตั้งอยู่ที่ 59/60 หมู่ 3 ต.เสม็ด อ.เมืองชลบุรี จึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.ธนนท์ ชื่นใจชนก สว.หน.สภ.ย่อยเสม็ด และ พ.ต.ท.นันทวุฒิ สุวรรณละออง รอง ผกก.(ปป.) สภ.เมืองชลบุรี รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่าภายในร้านขายยาดังกล่าวมีข้าวของตกเกลื่อนกระจาย และพบกองเลือดจำนวนหนึ่ง ส่วนผู้บาดเจ็บได้ถูกนำส่ง รพ.ศูนย์ชลบุรีแล้ว ทราบชื่อต่อมาคือ นายสุนทร ชมแสง มีตำแหน่งเป็นนายอำเภอแคนดง จ.บุรีรัมย์ ถูกคนร้ายตีด้วยด้ามปืนที่ศีรษะเป็นแผลแตกเลือดอาบร่าง
  
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายสุนทรซึ่งลาหยุดพักร้อนได้เดินทางมาเยี่ยมบ้านลูกสาวที่ จ.ชลบุรี

ซึ่งเปิดเป็นร้านขายยาดังกล่าว โดยขณะกำลังยืนคุยอยู่กับลูกสาวคือ น.ส.สุชาดา ชมแสง อายุ 27 ปี ซึ่งเป็นเภสัชกรของร้าน ได้มีคนร้ายเป็นชายวัยรุ่นอายุประมาณ 20 ปี ไว้ผมยาวประบ่า สวมเสื้อยืดสีดำทับด้วยเสื้อคลุมสีดำ ใส่หมวกแก๊ป ขี่รถจักรยานยนต์ ยามาฮ่ามีโอ สีขาว-ดำ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน มาจอดที่หน้าร้านขายยา
  
จากนั้นคนร้ายเดินเข้าไปในร้านทำทีขอซื้อยาแก้ปวด เมื่อเห็นนายสุนทรไม่ทันระวังตัว จึงชักปืนพกสั้นแบบแมกกาซีนไม่ทราบขนาดออกมาจี้นายสุนทร

พร้อมกับบังคับให้ถอดสร้อย คอทองคำหนัก 3 บาท พร้อมพระเลี่ยมทองหลวงปู่ทวดและเหรียญรัชกาลที่ 5 แต่นายสุนทรทำยึกยักชักช้าจึงถูกคนร้ายใช้ด้ามปืนทุบไปที่ศีรษะอย่างแรง 1 ครั้ง จนแตกเลือดไหลอาบ หลังจากได้สร้อยคอทองคำจากนายสุนทรแล้วคนร้ายยังใช้ปืนจี้ น.ส.สุชาดา ไม่ให้ขัดขืน และกระชากเอาสร้อยคอทองคำหนัก 2 สลึงพร้อมพระเลี่ยมทองไปด้วยก่อนจะวิ่งไปขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
  
ภายหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้วิทยุสกัดจับคนร้ายตามเส้นทางต่าง ๆ แต่ไร้วี่แวว คาดว่าน่าจะเป็นคนร้ายในพื้นที่ เพราะรู้เส้นทางหลบหนีเป็นอย่างดี ล่าสุดตำรวจได้ สเกตช์ภาพคนร้ายแล้ว ซึ่งจะได้สืบสวนติดตามจับกุมต่อไป.