ฆ่าโหดผัวแล้วเผาอำพรางคดี ตร.อุตรดิตถ์จับเมียอายุ 49 คว้ามีดฟันผัวตกระเบียงคอหัก ก่อนจะนำน้ำมันราดเผาฝังดินในป่าละเมาะสารภาพทะเลาะกันเรื่องเงินขายข้าว ก่อนลงไม้ลงมือกันอย่างรุนแรง อ้างทำคนเดียว แต่ตร.ไม่เชื่อ สงสัยมีไม่ต่ำกว่า 2 ทั้งตอนฆ่าและทำลายศพ เตรียมหาหลักฐานมัดตัวคนที่ร่วมสังหารโหด
เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 12 มิ.ย. พ.ต.ต.พรวน คร้ามสมอ พงส.สบ.2 สภ.เมืองอุตรดิตถ์
รับแจ้งเหตุจากนายฟุ้ง นาคสุข อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53 หมู่ 9 ต.บ้านด่าน อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ ว่า พบโครงกระดูกมนุษย์อยู่ในกองเพลิงป่าละเมาะห่างจากถนนลูกรังหมู่ที่ 4 และ หมู่ 9 ต.บ้านด่าน หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชารับทราบ และรุดไปยังที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พล.ต.ต.ทรงวุฒิ ถวัลย์กิจดำรงค์ ผบก.ภ.จว.อุตรดิตถ์ พ.ต.อ.สมพงษ์ เรืองประไพ ผกก.สภ.เมืองอุตรดิตถ์ พ.ต.ท.อดุล เจริญคุณวิวัฏ รองผกก.สส. พ.ต.ต.สมเกียรติ เสวกมหารี นวท. (สบ.2) รรท.หน.วทจว.อุตรดิตถ์ นายวีระวุฒิ จรุงรุ่งเรือง แพทย์เวรโรงพยาบาลอุตรดิตถ์ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.จว.อุตรดิตถ์ และ สภ.เมืองอุตรดิตถ์ กว่า 10 นาย
ที่เกิดเหตุเป็นป่าละเมาะหมู่ที่ 9 บริเวณใต้ต้น มะขามใหญ่พบกองขี้เถ้ามีวงกว้างประมาณ 2 เมตร
ภายในกองขี้เถ้าพบร่องรอยเศษกระดูกมนุษย์ ขนาดชิ้นเล็กชิ้นน้อยและเป็นเศษเล็กๆ ปะปนอยู่กับเศษไม้ที่ถูกเผาแล้วเป็นจำนวนมาก และยังพบซี่ฟันมนุษย์จำนวนหนึ่งปนกับเศษไม้ที่ถูกเผาแล้ว บริเวณใกล้กันยังพบเศษเหรียญ 5 บาท จำนวน 1 เหรียญ และพบท่อนไม้ฟืนมีขนาดความยาว 70 เซนติเมตร กว้าง 50 เซนติเมตร จำนวน 2 ท่อน ตกอยู่ใกล้กองขี้เถ้า ห่างกันประมาณ 30 เมตรไปทางทิศเหนือของเศษขี้เถ้าพบหลุมขนาดความกว้างประมาณ 30 เซนติเมตร ลึกประมาณ 1 เมตร ถูกปิดด้วยเศษหญ้าและผงถ่าน จากการเผาของไม้จากจุดแรกนำมาปิดเอาไว้ เจ้าหน้าที่จึงขุดเอาขี้เถ้าบนผิวหน้าดินออก พบชิ้นส่วนของหัวกะโหลกขนาดเล็กและชิ้นส่วนของร่างกายจำนวนมาก เช่น กระดูกข้อต่อ กระดูกซี่โครง กระดูกสันหลัง กระดูกขา กระดูกแขน กระดูกสะโพก ชิ้นส่วนซี่ฟัน จึงเก็บเอาไว้เป็นหลักฐาน และนำไปตรวจหาดีเอ็นเอ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า น่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 วัน
ตร.จับเมียฆ่าโหดผัว! น้ำมันราดเผาอำพราง
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนนี้นางคำมูล บุญใหญ่ อายุ 63 ปี
อยู่บ้านเลขที่ 88 หมู่ 9 ต.บ้านด่าน อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ ซึ่งเป็นมารดาของนายบุญมี บุญใหญ่ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8 หมู่ 9 ต.บ้านด่าน รุดแจ้งความว่าลูกหายออกไปจากบ้านตั้งแต่คืนวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมาและไม่พบหน้าอีกเลย มีเงินติดตัวจำนวน 13,000 บาท หลังขายข้าวนาปรังได้ และช่วงก่อนหายตัวทะเลาะวิวาทกับนางเสนาะ ปัญญาทรง 49 ปี ภรรยา อย่างรุนแรง
พล.ต.ต.ทรงวุฒิให้พนักงานสอบสวนเรียกตัวนางเสนาะมาสอบปากคำ ที่ สภ.เมืองอุตรดิตถ์ นานกว่า 2 ชั่วโมง
ผู้ต้องหาจึงให้การรับสารภาพว่า อยู่กินกับสามีมานานกว่า 5 ปี วันเกิดเหตุทะเลาะกับสามีอย่างรุนแรง ถึงกับลงไม้ลงมือตบตีกัน ที่บริเวณระเบียงบ้านไม้ยกพื้น 2 ชั้น และด้วยความโมโหจึงคว้ามีดพร้า ใช้สันมีดฟาดเข้าไปที่ศีรษะสามีอย่างรุนแรง จนตกลงไปกองที่พื้นข้างล่าง ซึ่งมีความสูงประมาณ 2 เมตร ถึงกับคอหัก จากนั้นจึงลงไปพยุงสามีขึ้นมา
เมื่อรู้ว่าสิ้นลมหายใจด้วยความกลัวจึงนำศพขึ้นรถมอเตอร์ไซค์เอาไปทิ้งไว้ในป่าละเมาะซึ่งเป็นที่ดินของนายมานิตย์ ปัญญาทรง บิดาของตนเอง
จากนั้นก็เอาฟืนพร้อมเศษไม้และเศษถ่านวางทับร่างและเอาน้ำมันเบนซินราดพร้อมจุดไฟเผา เหตุเกิดประมาณ 5 ทุ่มของคืนวันที่ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา เมื่อเผาเสร็จแล้ววันรุ่งขึ้นจึงไปที่ไร่อีกครั้ง และนำเศษกระดูกยัดใส่ในรูที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติพร้อมทั้งเอาเศษขี้เถ้าถ่านปิดอัดทับและเอาเศษหญ้ากลบทับอีกครั้ง สารภาพว่าทุกขั้นตอนกระทำเพียงคนเดียว
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหาฆ่าสามีตายโดยเจตนา
พร้อมนำของกลางส่งมอบให้กับร้อยเวรเพื่อดำเนินคดีต่อไป ส่วนที่นางเสนาะรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือเพียงคนเดียวนั้น ทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้ปักใจเชื่อ และได้สอบปากคำพยานเพิ่มอีกจำนวน 5 ปาก ทราบว่าวันเกิดเหตุผู้ตายและนางเสนาะไม่ได้อยู่ด้วยกันตามลำพัง เจ้าหน้าที่กำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเอาผิดกับผู้ที่ก่อเหตุ คาดว่ามีไม่ต่ำกว่า 2 คน วันเกิดเหตุตั้งวงดื่มเหล้า มีกำนันคนหนึ่งอยู่ในบ้านของคนตายด้วย