ปดส.รวบขบวนการค้ากาม

วันนี้ (12 มิ.ย.) พล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบช.ก.และ พล.ต.ต.วิสุทธิ์ วานิชบุตร ผบก.ปดส.แถลงข่าวการจับกุมขบวนการล่อลวงหญิงสาวชาวลาวมาขายบริการทางเพศในเมืองไทย
 
ประกอบด้วย นายเศกสรรค์ สมพงศ์ อายุ 34 ปี น.ส.สถาพร แพวิเศษ อายุ 31 ปี ภรรยาหลวง นางบัววัน อายุ 24 ปี ชาวลาว ภรรยาน้อย และ น.ส.พวง ออนสะนะชัย อายุ 20 ปี ชาวลาว พร้อมของกลางหนังสือเดินทางประเทศลาวจำนวน 5 เล่ม และสมุดบัญชีการจ่ายเงินอีก 1 เล่ม โดยจับกุมตัวทั้งหมดได้ที่ร้านคาราโอเกะบ้านปากคลอง ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระนอง

การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา นางพวงเพ็ญ ใจกว้าง ผู้ดูแลบ้านพักเด็กและครอบครัว อ.เมือง จ.ชุมพร
 
ให้ความช่วยเหลือหญิงสาวชาวลาว 2 ราย ที่หนีออกจากร้านคาราโอเกะแบบหยอดเหรียญบ้านปากคลอง ต.ปากน้ำ หลังถูกบังคับให้ค้าประเวณี และทราบว่ายังมีเด็กอายุ 14 ปีถูกบังคับค้ากามอีก 1 ราย จึงแจ้งความให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปดส.เข้าช่วยเหลือ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ประสานไปยัง พ.ต.ท.ไมตรี นักธรรม สารวัตรสถานีตำรวจน้ำ กก.8 บก.รน.กระทั่งเข้าตรวจค้นและจับกุมดังกล่าว และให้การช่วยเหลือเหยื่ออายุ 14 ปี ออกมาได้อีก 1 ราย

จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดได้ความว่า

เมื่อต้นเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ผู้ต้องหาเดินทางเข้าไปในประเทศลาวเพื่อหาเหยื่อที่เป็นหญิงสาวหน้าตาดี ด้วยการชักชวนมาทำงานร้านอาหาร โดยบอกว่ารายได้ดี พร้อมทั้งออกค่าทำหนังสือเดินทางและค่าใช่จ่ายอื่นๆ ให้ก่อน เมื่อเหยื่อตกลงจึงพานั่งรถโดยสารจากกำแพงนครเวียงจันทน์ ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง จ.หนองคาย และอุดรธานี ก่อนต่อไปยัง จ.ระนอง เมื่อเหยื่อไปถึงร้านจึงยึดหนังสือเดินทางและบังคับให้ขายบริการทางเพศ เพื่อชดใช้หนี้ แต่เหยื่อไม่ยอมพร้อมทั้งออกอุบายว่ามีรอบเดือน จนสามารถหลบหนีมาได้ 2 ราย ก่อนเข้าขอความช่วยเหลือจากบ้านพักเด็กและครอบครัว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป

เพื่อกระการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณีโดยการเป็นธุระจัดหา พามาจากหรือจัดส่งไปยังที่ใด จัดให้อยู่อาศัยหรือรับไว้ซึ่งเด็กและรับบุคคลต่างด้าวซึ่งไม่มีใบอนุญาตทำงาน ซึ่งเป็นความผิดตามมาตรา 6, 7, 9, 11 และ 52 ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าอาวุธ มีโทษจำคุกตั้งแต่ 8 ปี ถึง 15 ปี และปรับตั้งแต่ 1.6 แสนถึง 3 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะทำการสืบสวนขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการที่เหลือมาดำเนินคดีต่อไป.