โผล่เข้ามอบตัวแล้ว โจ๋โหดอ่าง ทองสาดน้ำมันจุดไฟเผาย่างสดกิ๊กสาวปวส.
คุมตัวทำแผน สารภาพสิ้นแค้นตีจาก ไม่ยอมพบ ไม่รับสาย ก่อนลงมือไปหาถึงบ้าน ขี่จยย.ไล่ตามแล้วถีบให้รถล้ม ตรงเข้าไปสาดน้ำมันจุดไฟแช็กเผากลางถนน เปิดปากคิดวางแผนทำให้เสียโฉมมาแล้วถึง 2 ครั้ง ตร.สอบประวัติพบวิปริต เคยใช้มีดกรีดหน้าแฟนเก่าที่ขอเลิกมาแล้ว ขณะที่เหยื่อสาวยังโคม่า นอนไอซียู หายใจเองไม่ได้ หวั่นติดเชื้อแทรกซ้อน
จากกรณีคนร้ายหนุ่มอ่างทองหึงโหด ราดน้ำมันจุดไฟเผา น.ส.นันทวัน แพร่หลาย อายุ 21 ปี
อยู่บ้านเลขที่ 57 หมู่ 6 ต.บ้านไร่ อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี เป็นนักศึกษาปวส.ชั้นปีที่ 1 โรงเรียนวิสัยทัศน์เทคโนโลยี จ.อ่างทอง ดิ้นทุรนทุราย ชาวบ้านพบเห็นรีบนำส่งร.พ. แพทย์ช่วยชีวิตจนอาการพ้นขีดอันตราย สอบสวนทราบคนร้ายที่ก่อเหตุคือ นายเอ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี อยู่เขตเทศบาลเมืองอ่างทอง โดยก่อนก่อเหตุขับขี่รถจักรยานยนต์ไปหากิ๊กสาว คุยตกลงปัญหา เนื่องจากฝ่ายหญิงพยายามตีตัวออกห่าง แต่ฝ่ายชายไม่ยอม นำน้ำมันที่เตรียมมาราดแล้วจุดไฟเผา ก่อนหลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 11 มิ.ย. นายเอ เดินทางเข้ามอบตัวต่อ พ.ต.อ.รวีโรจน์ กอง กันภัย ผกก.สภ.เมือง จ.อ่างทอง
พร้อมทั้งให้การรับสารภาพว่า คบหากับ น.ส.นันทวัน ได้ประมาณ 6 เดือน ต่อมาฝ่ายหญิงไปคบหากับเพื่อนผู้หญิงกลุ่มหนึ่งที่มีพฤติกรรมไม่ดี จึงให้เลิกคบ แต่ฝ่ายหญิงยืนยันจะคบเพื่อนกลุ่มนี้ต่อไป ทำให้มีปากเสียงทะเลาะกัน ฝ่ายหญิงเริ่มตีตัวออกห่าง หลบหน้าไม่ยอมให้พบทั้งที่บ้านและโรงเรียน ไม่รับโทรศัพท์ พยายามตามง้อขอคืนดีแต่ไม่เป็นผล รู้สึกโกรธแค้นจึงวางแผนทำให้เสียโฉมถึง 2 ครั้ง เพียงเพื่อต้องการให้อยู่ด้วยกัน แต่ไม่สำเร็จ
เผากิ๊กสาวมอบตัว แค้นตีจาก-ย่างสด
นายเอให้การต่อว่า วันเกิดเหตุตอนเช้าไปพบฝ่ายหญิงที่บ้าน พูดคุยปรับความเข้าใจกันได้ดีระดับหนึ่ง
ครั้นตอนบ่ายขับขี่รถจักรยานยนต์ไปหาอีก แต่ฝ่ายหญิงกลับไม่ไยดี ก่อนจะขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี ขับติดตามเพื่อสอบถามสาเหตุ เมื่อฝ่ายหญิงไม่ยอมพูดจา ด้วยความโมโหจึงใช้เท้าถีบรถจักรยานยนต์ฝ่ายหญิงจนเสียหลักพลิกคว่ำ ก่อนจอดรถ และนำน้ำมันเบนซินบรรจุในขวดพลาสติกที่เตรียมมาสาดใส่ จุดไปแช็กเผา ต้องกราบขอโทษ น.ส.นันทวัน และญาติๆ ที่ทำลงไปเป็นเพราะอารมณ์ชั่ววูบ รู้สึกโกรธและโมโห ส่วนเหตุผลอื่นส่วนตัวไม่ขอพูดถึง ขอชดใช้กรรมที่ได้กระทำลงไป
ต่อมา พ.ต.ต.มงคล จิตร์พรหม สว.สส.สภ.เมืองอ่างทอง ควบคุมตัวนายเอไปทำแผนฯ ประกอบคำรับสารภาพ
ตั้งแต่ขับขี่รถจักรยานยนต์ตามง้อคืนดีกับฝ่ายหญิงจากบ้านพัก ต.คลองวัว อ.เมือง จ.อ่างทอง ไปตามถนนสายวัดจันทร์นิรมิต เป็นเส้นทางไปโรงเรียนวิสัยทัศน์เทคโนโลยี เมื่อถึงจุดเกิดเหตุบริเวณหมู่ 4 ต.ศาลาแดง อ.เมืองอ่างทอง ก่อนถึงโรงเรียน 200 เมตร ใช้เท้าถีบรถจักรยานยนต์จนเสียหลักพลิกคว่ำ ถือขวดบรรจุน้ำมันเบนซินสาดใส่ และจุดไฟแช็กเผาซ้ำ
ด้าน นายสำรวย มีสิริ อายุ 40 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์และเข้าช่วยเหลือ น.ส.นันทวัน ให้การว่า
เห็นทั้ง 2 คนขับขี่รถจักรยานยนต์ตามกันมา และเห็นว่าฝ่ายหญิงรถพลิกคว่ำนั่งอยู่กลางถนน ฝ่ายชายจอดรถเดินเข้าไปหาถือขวดน้ำสาดใส่ นึกว่าคงช่วยเหลือกัน แต่กลับได้ยินเสียงกรีดร้อง จากนั้นมีเปลวไฟลุกไหม้ที่ร่างผู้หญิง เห็นฝ่ายหญิงกลิ้งลงไปในท้องนาข้างทางที่มีน้ำขัง จึงวิ่งเข้าไปช่วยเหลือ
ส่วน พ.ต.อ.รวีโรจน์ เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาคิดแต่เพียงว่าแฟนสาวหน้าตาดีจะตีตัวออกห่าง วันๆ คิดหมกมุ่นแต่เรื่องนี้
คิดหาทางออกว่า จะทำวิธีใดให้ฝ่ายหญิงเสียโฉม และอยู่กับตนเองต่อไป จนมีสภาพจิตบกพร่อง เพราะจากการตรวจสอบประวัติทราบว่า เคยทำร้ายอดีตแฟนสาว เป็นนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคที่ตีตัวออกห่าง โดยพยายามใช้ของมีคมกรีดหน้าผาก ถือว่าเป็นบุคคลอันตราย หากมีแฟนใหม่ก็ต้องก่อเหตุอีก ยังไม่ทราบว่าสิ่งใดเป็นเหตุจูงใจให้ใช้ความรุนแรง อาจจะป่วยด้วยโรคจิต คงไม่ใช่ลัทธินิยม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ น.ส.นันทวัน นั้นขณะนี้ยังอยู่ที่ห้องไอซียู ร.พ.อ่างทอง
แพทย์เฝ้าดูแลอาการอย่างใกล้ชิดและรักษาตามอาการ โดยแพทย์ระบุว่ามีบาดแผลไฟไหม้ผิวหนังค่อนข้างลึกที่บริเวณศีรษะ ใบหน้า หน้าอก และแขนทั้ง 2 ข้าง มีน้ำเหลืองซึมจากบาดแผล จึงพันผ้าปิดแผลไว้ ที่น่าเป็นห่วงคือหลอดลมบวมจากพิษบาดแผล หายใจเองไม่ได้ ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ นอกจากนี้ต้องดูอาการแทรกซ้อน เพราะบาดแผลติดเชื้อได้ง่าย ต้องใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ ดูอาการและผลข้างเคียง
ด้านนางประจวบ ศภูริ อายุ 45 ปี อาของ น.ส. นันทวัน เป็นผู้เลี้ยงดูเป็นลูกบุญธรรมมาตั้งแต่เล็ก กล่าวว่า
สะเทือนใจมาก โหดร้ายเกินกว่าที่จะทำใจได้ ไม่น่าให้อภัย หลานสาวยังมีอนาคตอีกยาวไกล ความใฝ่ฝันอยากทำงานบริหารธุรกิจ คงล่มสลาย การที่เขาจะคบกันเป็นเพื่อนเราไม่ห้าม ไม่เคยกีดกั้น แต่เมื่อคบกันได้สักระยะ ฝ่ายชายมีนิสัยไม่ดี แสดงความก้าวร้าว ชอบใช้ความรุนแรง หึงหวง เมื่อทราบเกรงว่าหลานจะได้รับอันตราย จึงไม่ให้คบหากัน กระทั่งเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น