สั่งนร.อนุบาลตากแดดลมจับหามส่งรพ.25คน

หาม 25 เด็กนักเรียน ร.ร.อนุบาลลำปาง ส่ง รพ. อ้าง รอง ผอ.สั่งลงโทษยืนกลางแดดนานเกือบชั่วโมง เหตุคุยและแตกแถว จนหน้ามืดเป็นลมล้มพับกลางสนาม สพท.ลำปาง เขต 1 สั่งสอบข้อเท็จจริง ด้าน ผอ.ได้รับรายงาน ชี้มีครูฝรั่งมาดูงาน ทำกิจกรรมหน้าเสาธงนานกว่าปกติ เด็กเลยเป็นลม


เด็กนักเรียน ร.ร.อนุบาลลำปาง (เขลางค์รัตน์อนุสรณ์) อ.เมือง จ.ลำปาง 25 คน

ถูกนำส่ง รพ.ศูนย์ลำปาง เมื่อเวลา 10.45 น. วันที่ 11 มิถุนายน ที่ผ่านมา หลังจากเป็นลมหมดสติ ร่างกายอ่อนเพลียและมีอาการเวียนศีรษะ โดยแพทย์และพยาบาลให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน มีการตรวจร่างกายก่อนปฐมพยาบาลตามอาการ และให้ดมแอมโมเนียและนอนพักอยู่บนรถเข็น ในจำนวนนี้ 10 คน อาการไม่น่าเป็นห่วง เพียงแต่นอนพักฟื้นรอดูอาการ สำหรับรายที่อาการหนักก็นำตัวเข้าห้องฉุกเฉิน และให้น้ำเกลือในรายที่ร่างกายอ่อนเพลียมาก
 

เด็กนักเรียนทั้ง 25 ราย กำลังศึกษาอยู่ชั้น ป.4-ป.6 เป็นนักเรียนชาย 10 คน นักเรียนหญิง 15 คน

จากการสอบถามเด็กนักเรียนที่รู้สึกตัวดีเล่าว่า ถูกรองผู้อำนวยการ ร.ร.อนุบาลลำปาง (เขลางค์รัตนอนุสรณ์) และครูสั่งทำโทษด้วยการให้ยืนกลางแดดหน้าเสาธงเป็นเวลานานกว่า 1 ชั่วโมง เนื่องจากทั้งหมดพูดคุยกันในแถวและตั้งแถวไม่เป็นระเบียบขณะเคารพธงชาติเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ทำให้รองผู้อำนวยการและครูส่วนหนึ่งไม่พอใจจึงสั่งทำโทษ เด็กบางคนถึงกับร้องไห้ เนื่องจากทนร้อนไม่ไหว ถึงขั้นเป็นลมหมดสติ เพราะขณะเกิดเหตุแดดจ้ามาก


เด็กนักเรียนชายชั้น ป.4 วัย 9 ขวบคนหนึ่ง เล่าขณะนอนพักอยู่บนรถเข็นว่า

ตอนแรกถูกสั่งทำโทษให้ยืนอยู่กลางแดดหน้าเสาธงนานประมาณ 20 นาที ครูประจำชั้นบอกให้เข้าไปพักเหนื่อยใต้ต้นไม้ เนื่องจากแดดแรงมาก ปรากฏว่ารองผู้อำนวยการเดินออกมาพูดจาเสียงดัง ทำนองว่า ยืนแค่นี้ทำไมถึงร้อนและยืนไม่ไหวหรือ พร้อมกับสั่งให้เด็กนักเรียนทั้งหมดออกมายืนกลางสนามหญ้าหน้าโรงเรียน กระทั่งมีเด็กนักเรียนทยอยเป็นลม เพราะทนร้อนไม่ไหว



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดเหตุมีพ่อแม่ผู้ปกครองต่างทยอยมาดูอาการบุตรหลานด้วยความเป็นห่วง

บริเวณหน้าห้องฉุกเฉินจึงเต็มไปด้วยเด็กนักเรียนที่บ้างนั่งบ้างนอนอยู่บนรถเข็นรอดูอาการ โดยมีพ่อแม่ผู้ปกครองคอยดูแลไม่ยอมห่าง หลายคนแสดงอาการไม่พอใจการกระทำของครู โดยมองว่าเป็นการกระทำที่เกิดกว่าเหตุ อาจจะมีการรวมตัวกันเรียกร้องให้โรงเรียนสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย อย่างไรก็ตาม ภายหลังรับการรักษาพยาบาลแล้ว แพทย์อนุญาตให้เด็กนักเรียน 22 คน กลับบ้านได้ โดยมีผู้ปกครองมารอรับที่หน้าห้องฉุกเฉินด้วยความเป็นห่วงกังวล ส่วนเด็กอีก 3 คน แพทย์ให้นอนพักรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาล เนื่องจากมีอาการอ่อนเพลีย โดย 2 ใน 3 มีอาการปวดท้องแทรกซ้อน ส่วนอีกคนมีโรคประจำตัวคือโรคเลือดจาง


นายมานพ ดีมี ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาลำปาง เขต 1 (สพท.) ซึ่งติดราชการนอกพื้นที่ จ.ลำปาง

ได้สั่งการให้นายสุรพล สมภักดี รองผู้อำนวยการ สพท.ลำปาง เขต 1 ปฏิบัติราชการแทนผู้อำนวยการ รุดไปตรวจสอบที่ รพ.ศูนย์ลำปาง และ ร.ร.อนุบาลลำปาง (เขลางค์รัตน์อนุสรณ์) เพื่อเยี่ยมอาการเด็กนักเรียนและตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว นายมานพกล่าวว่า ขณะนี้ สพท.ลำปาง เขต 1 ได้รับรายงานเบื้องต้นจากโรงเรียนว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นขณะเด็กนักเรียนยืนเข้าแถวเคารพธงชาติตามปกติแล้วเป็นลม แต่ข้อมูลที่ทราบจากเด็กหลายคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ถูกรองผู้อำนวยการโรงเรียนทำโทษให้ยืนกลางแดดเป็นเวลานาน จึงให้โรงเรียนทำหนังสือชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด ตลอดจน สพท.ลำปาง เขต 1 จะรวบรวมข้อมูลอีกด้าน เพื่อให้ทราบข้อเท็จจริง เพราะถือว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องใหญ่และสำคัญมาก


ด้าน นายประยูร เรือนปิงวัง ผอ.ร.ร.อนุบาลลำปาง (เขลางค์รัตน์อนุสรณ์)

ซึ่งติดราชการต่างอำเภอ กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ได้รับรายงานเบื้องต้นแล้ว ก่อนเกิดเหตุ เด็กนักเรียนทุกชั้นต้องมายืนเข้าแถวเคารพธงชาติ ร่วมกันทำกิจกรรม และออกกำลังกาย ก่อนเข้าห้องเรียนเป็นปกติทุกวัน แต่วันนี้มีครูสอนพิเศษชาวต่างประเทศมาร่วมกิจกรรมกับเด็กๆ จึงใช้เวลาทำกิจกรรมนานกว่าทุกครั้ง ทำให้เด็กนักเรียนเป็นลมหมดสติ เนื่องจากอากาศร้อนจัด


"จะกลับไปสอบสวนข้อเท็จจริงด้วยตัวเองอีกครั้งว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นตามที่ได้รับรายงานหรือไม่ หากเป็นไปตามที่เด็กนักเรียนพูด ก็จะดำเนินการตามขั้นตอน และสอบสวนทางวินัยกับรองผู้อำนวยการทันที ไม่มีข้อยกเว้น ผิดว่าไปตามผิด" นายประยูรกล่าว 


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้พยายามโทรศัพท์ติดต่อไปยังรองผู้อำนวยการโรงเรียนที่ถูกพาดพิงว่าเป็นผู้สั่งลงโทษเด็กนักเรียน

โดยติดต่อไปยัง ร.ร.อนุบาลลำปาง (เขลางค์รัตน์อนุสรณ์) พบเพียงเจ้าหน้าที่ผู้หญิงบอกให้ทิ้งเบอร์โทรศัพท์ติดต่อไว้ แล้วจะให้รองผู้อำนวยการติดต่อกลับ แต่ก็ไม่มีการติดต่อกลับมาแต่อย่างใด ขณะที่เจ้าหน้าที่คนเดิมชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในทำนองเดียวกับที่นายประยูรได้รับรายงานก่อนหน้านี้


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์