นร.หญิงตะลุมบอน ตบกันนัว แย่งม.5 ลูกชายเสี่ย

เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 18 ก.พ. พ.ต.ต.ประเสริฐ นาคคง สวป.สภ.อ.เมืองนครศรีธรรมราช รับแจ้งมีนักเรียนหญิง ยกพวกตบตีกัน ภายในตลาดนัดเสาร์-อาทิตย์ ริมถนนสายพัฒนาการคูขวาง ต.คลัง จึงพร้อมด้วยนายสมพงศ์ อยู่เถาว์ หัวหน้าหน่วย สารวัตรนักเรียน พื้นที่การศึกษานครศรีธรรมราช เขต 1 นำกำลังไประงับเหตุ พบนักเรียนหญิงกว่า 30 คน ในชุดนักเรียน ชุดพลศึกษา และชุดลำลอง ยกพวกตบตีกันอุตลุด จิกผมฟัดกันนัวเนีย บางคนใบหน้ามีรอยเล็บข่วนเลือดซิบๆ ท่ามกลางสายตาของชาวบ้านที่ยืนมุงดูจำนวนมาก

เมื่อเห็นตำรวจทั้ง 2 ฝ่ายได้แยกย้ายกันหลบหนีไปคนละทิศละทาง ตำรวจสกัดจับเอาไว้ได้ 11 คน โดยระหว่างควบคุมตัวไปสอบสวนที่สำนักงานสารวัตรนักเรียน พื้นที่การศึกษานครศรีธรรมราช เขต 1 ปรากฏว่าทั้ง 2 ฝ่ายยังเปิดฉากด่าทอกันไปมาชนิดต่างฝ่ายต่างไม่ยอมอ่อนข้อให้กัน โดยฝ่ายแรกจำนวน 6 คน เป็นนักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนเอกชนมีชื่อแห่งหนึ่งในตัวเมืองนครศรีธรรมราช อายุระหว่าง 16-17 ปี ส่วนคู่กรณีอีก 5 คน เป็นนักเรียนชั้น ปวช.2 โรงเรียนอาชีวะแห่งหนึ่งในตัวเมืองนครศรีธรรมราช เช่นกัน อายุระหว่าง 16-17 ปี ทั้งหมดมีบาดแผลรอยเล็บข่วนบริเวณใบหน้าและแขน

จากการสอบสวน น.ส.ริน (นามสมมติ) อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ปวช.2 โรงเรียนอาชีวะ หัวโจกให้การว่า ได้คบหาเป็นแฟนกับนายเอก (นามสมมติ) อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.5 โรงเรียนมีชื่อแห่งหนึ่ง เป็นลูกชายเสี่ยใหญ่เจ้าของร้านจำหน่ายวัสดุก่อสร้างรายใหญ่ของนครศรีธรรมราช โดยนายเอกนอกจากรูปหล่อพ่อรวยแล้วยังมีรถเก๋งขับไปเรียนหนังสือ และพาเที่ยวสถานบันเทิงเป็นประจำ ก่อนหน้าทราบว่า น.ส.เก๋ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.5 คู่กรณี ได้มาชอบพอนายเอก โดยทั้งคู่นัดพากันไป เที่ยวตามสถานบันเทิงหลายครั้ง ด้วยความหึงหวงได้บุกไปต่อว่า น.ส.เก๋ถึงหน้าโรงเรียน แต่ น.ส.เก๋ไม่ยอมเลิก ยังคงคบหากับนายเอกเรื่อยมา

ก่อนเกิดเหตุได้ท้า น.ส.เก๋ให้ไปพบกันที่ตลาดดังกล่าว เพื่อสะสางความแค้นระหว่างกัน โดยตนพาพวกนักเรียนสถาบันเดียวกันไปกว่า 15 คน ในขณะที่ น.ส.เก๋ ได้พาพวกมาด้วยเช่นกันประมาณ 15 คน พร้อมยกพวกเข้าตบตีกันอุตลุดเพื่อให้รู้แพ้ชนะ แต่ระหว่างลงมือมีตำรวจนำกำลังเข้าไประงับเหตุจับกุมเอาไว้ได้ เบื้องต้นทางสารวัตรนักเรียนได้ทำบันทึกประวัติของนักเรียนทั้งหมด พร้อมประสานกับทางโรงเรียนและผู้ปกครองไปรับตัว เพื่อดำเนินการพิจารณาโทษทัณฑ์ตามระเบียบ ของแต่ละโรงเรียนต่อไป