นศ.แพ้ยารักษาสิวตายแล้ว

น.ศ.สาวตับวายตายแล้วกลางดึกที่ผ่านมา หลังแม่เพิ่งร้อง "ข่าวสด" ขอบริจาคเปลี่ยนตับจนป่วยหนัก

เพราะกินยาแก้สิว แม่เผยร.พ.ศิริราชระบุชัดตับวายเพราะยา แต่ตัดชิ้นเนื้อไปพิสูจน์ซ้ำ โฆษกสธ.ชี้ตับวายมีหลายสาเหตุ ทั้งตับอักเสบ ตับแข็ง มะเร็งตับ สารเคมี ยา ก็มีส่วน ส่วนกรณีน้องหนึ่ง ต้องสอบประวัติอย่างละเอียดว่าป่วยได้อย่างไร เตือนคนแพ้ยาต้องรีบบอกหมอเพื่อจัดยาที่เหมาะสม หลีกเลี่ยงกินยาที่แพ้

จากกรณีน.ส.วิรัตนสรา หรือน้องหนึ่ง ใหญ่น้ำ อายุ 21 ปี นักศึกษาคณะโลจิสติกส์ มหาวิทยาลัยบูรพา

ป่วยด้วยอาการตับอักเสบรุนแรงนอนสลบไม่รู้สึกตัวอยู่ที่ร.พ.ศิริราช ต้องได้รับผ่าตัดเปลี่ยน ถ่ายตับอย่างเร่งด่วนภายใน 2 เดือน สันนิษฐานสาเหตุการป่วยมาจากการรับประทานยาแก้อักเสบลดสิว จากคลินิกเสริมความงามชื่อดัง กระทั่งนางจรัส ใหญ่น้ำ มารดาพร้อมเพื่อนๆ บุกร้องหนังสือ พิมพ์ "ข่าวสด" เพื่อขอบริจาคตับจากผู้ใจบุญเพื่อนำมาเปลี่ยน ซึ่งอาจจะสามารถยืดอายุของลูกได้ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 8 มิ.ย. น.พ.สุพรรณ ศรีธรรมมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า

ตับมีหน้าที่ทำลายพิษที่อยู่ในร่างกายและขับสารพิษที่ถูกทำงานแล้วและของเสียออกมาจากร่างกาย มีหน้าที่คล้ายกับไต หากตับเสียหายทำงานไม่ได้ตามปกติจะทำให้ป่วยเป็นโรคตับอักเสบ ตับวายได้ โดยในรายที่มีอาการรุนแรงคือตับเสียหายทั้งหมดไม่สามารถทำงานจะต้องได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนตับ มิเช่นนั้นผู้ป่วยจะเสียชีวิตได้

น.พ.สุพรรณกล่าวต่อว่า สาเหตุของการตับวายมีหลายปัจจัย

โดยเฉพาะผู้ที่ป่วยเป็นโรคตับอักเสบเรื้อรังซึ่งเกิดจากการติดเชื้อไวรัส ตับแข็ง ซึ่งเกิดจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หนัก ผู้ที่ป่วยเป็นมะเร็งตับ นอกจากนี้ยาบางชนิด สารเคมี ก็สามารถทำลายเซลล์ตับได้ แต่สำหรับกรณีของน.ส.วิรัตนสราไม่สามารถวินิจฉัยสาเหตุของอาการป่วยได้อย่างชัดเจน เพราะจะต้องมีการตรวจสอบประวัติโดยละเอียดว่ามีปัจจัยเสี่ยงอื่นด้วยหรือไม่ หรือป่วยเป็นโรคตับอักเสบอยู่แล้ว ทั้งนี้ผู้ที่ป่วยเป็นโรคตับอักเสบสามารถสังเกตได้จากอาการตัวเหลือง ตาเหลือง

"ขอเตือนผู้ที่มีอาการแพ้ยาเวลาไปหาแพทย์เมื่อมีอาการป่วย ให้รีบแจ้งแพทย์ทันทีว่าเคยแพ้ยาอะไรบ้าง เพื่อให้แพทย์พิจารณาสั่งจ่ายยาได้เหมาะสม และหลีกเลี่ยงการรับประทานยาที่แพ้ หรือแพทย์จะปรับขนาดยาลดลง เพื่อให้ร่างกายรับได้และไม่เกิดการแพ้อย่างรุนแรง หากผู้ป่วยปกปิดข้อมูลเหล่านี้กับแพทย์จะทำให้เกิดภาวะเสี่ยงได้" โฆษก สธ.ระบุ

วันเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานว่าน.ส.วิรัตนสรา หรือน้องหนึ่ง ใหญ่น้ำ เสียชีวิตลงแล้วเมื่อเวลา 19.37 น. คืนวันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา ที่โรงพยาบาลศิริราช ด้วยอาการตับอักเสบจากพิษยา

เวลา 15.00 น. วันที่ 8 มิ.ย. ที่วัดคลองภูมิ ถนนพระราม 3 ซึ่งเป็นที่ตั้งศพของน.ส.วิรัตนสรา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่ศาลา 1 วัดคลอง ภูมิ ซึ่งเป็นที่รดนํ้าศพเต็มไปด้วยความโศกเศร้า โดยมีพ่อแม่ ญาติและเพื่อนๆ ของน้องหนึ่งที่มหาวิทยาลัยบูรพาจำนวนมากเข้าร่วมพิธีรดนํ้าศพ นางจรัส ใหญ่นํ้า มารดา เปิดเผยว่า น้องหนึ่งเสียชีวิตเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยแพทย์ลงความเห็นว่าเกิดจากอาการตับอักเสบจากยา ต้องตัดตับไปตรวจพิสูจน์โดยจะแจ้งผลให้ญาติทราบอีกครั้ง ตอนแรกจะนำศพน้องหนึ่งไปไว้ที่บ้านเกิดที่ ต.กระเบื้องใหญ่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา แต่คิดว่าพวกเพื่อนๆ ของลูกไม่สะดวกในการเดินทางมาร่วมงาน น้องหนึ่งเป็นคนที่มีเพื่อนเยอะจึงต้องนำศพมาไว้ที่วัดดังกล่าว โดยจะมีการสวดพระอภิธรรมศพในเวลา 19.00 น. ตั้งแต่วันที่ 8-10 มิ.ย. และจะทำการฌาปนกิจศพในวันที่ 11 มิ.ย. ส่วนเวลานั้นตนต้องขอปรึกษากับญาติก่อน ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณ "ข่าวสด" มากเพราะหลังจากที่ตนและเพื่อนๆ ของน้องหนึ่งเข้าร้องเรียนขอความช่วยเหลือ ก็มีผู้มีจิตศรัทธาติดต่อเข้ามาหลายราย

นางจรัสกล่าวต่อไปว่า ตนเพิ่งจะมาทราบภายหลังว่าการที่จะบริจาคตับไม่ใช่เรื่องที่จะทำกันได้ง่ายๆ

เพราะแพทย์บอกว่าผู้ที่บริจาคตับได้นั้นจะต้องเป็นคนที่กำลังจะเสียชีวิต ซึ่งหลังจากนั้นจะต้องตรวจดูว่าร่างกายของผู้รับนั้นสามารถเข้ากับตับที่บริจาคได้หรือไม่ ซึ่งคนปกติไม่สามารถทำได้เพราะผิดกฎหมายและเทคโนโลยีของเราก็ไม่สามารถทำได้ ต้องขอขอบคุณผู้ที่ให้กำลังใจครอบครัวตนตลอดมา

ด้านน.ส.เกษมณี เป็นศิริ เพื่อนสนิทของน้องหนึ่ง กล่าวว่า

หนึ่งเป็นเพื่อนรักของตน ก่อนหน้านี้หนึ่งเป็นคนแข็งแรงมาก ก่อนเกิดเหตุยังไปเที่ยวปีนเขาด้วยกัน ต่อมาหนึ่งเป็นสิว เพื่อนชื่อนกจึงแนะนำให้ไปหาหมอที่คลินิกแห่งหนึ่ง ซึ่งก่อนหน้านี้นกไปหามาแล้วเป็นเวลา 6 เดือน โดยหมอให้กินยารักษาสิวจนอาการดีขึ้น จึงแนะนำให้หนึ่งไปหาจนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ขึ้น ทั้งนี้ตนขอฝากเตือนผู้ที่จะไปหาหมอผิวหนังรักษาสิว ถ้ามียาที่ต้องรับประทานควรตรวจสอบให้ดีก่อนเพราะอาจเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ได้