เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 8 มิ.ย. พ.ต.ท.สนั่น กงสิทธิ์ สารวัตรเวร สภ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งพบศพคนถูกงูเห่ากัดเสียชีวิตที่บริเวณหลังปั๊มน้ำมันเจท หมู่ 2 ต.ลำไทร จึงนำกำลังพร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งรุดไปตรวจสอบ ที่
เกิดเหตุเป็นทางเดินถนนลูกรังกว้างประมาณ 1 เมตรสองข้างทางมีหญ้าขึ้นรกห่างจากถนนพหลโยธินประมาณ 500 เมตร
พบศพผู้ตายในสภาพนอนคว่ำหน้าสวมกางเกงยีนส์ ส่วนเสื้อเชิ้ตแขนยาวถูกถอดออกมาผูกมัดไว้แน่นบริเวณเหนือข้อเท้าขวา ส่วนมือซ้ายกำซากงูเห่าตัวยาวเกือบ 2 เมตรที่ตายแล้วไว้แน่น โดยสภาพของงูมีร่องรอยถูกตีลำตัวแหลกเละกระดูกหัก ส่วนผู้ตายทราบชื่อนายวิโรจน์ บ้านเลน อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34 หมู่ 6 ต.บ้านเลน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ตรวจสอบพบบาดแผลรอยเขี้ยวงูกัดบริเวณหลังเท้าขวากับที่แก้มขวารวม 2 แห่งเลือดไหลซึม ศพเริ่มแข็งตัวคาด ว่าเสียชีวิตมาประมาณ 6-10 ชั่วโมง ห่างจากศพประมาณ 30 เมตรพบรองเท้าแตะของผู้ตายตกอยู่ 1 คู่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบถามนายจำนงค์ บ้านเลน อายุ 43 ปีพี่ชายของผู้ตายอยู่บ้านเดียวกันเปิดเผยว่า
นายวิโรจน์น้องชายมีอาชีพเป็นคนงานยกลังโซดาของบริษัทบุญรอดฯ โรงงานผลิตโซดาตราสิงห์ เขต อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ตามปกตินายวิโรจน์จะออกไปทำงานทุกเช้าและช่วงเย็นจะนั่งรถประจำทางมาลงที่ริมถนนพหลโยธินข้างปั๊มเจท แล้วเดินเข้าบ้านระยะทางประมาณ 2 กม. ก่อนเกิดเหตุตอนเช้าวันที่ 7 มิ.ย. นายวิโรจน์ได้ออกไปทำงานและไม่ได้กลับมาบ้าน โดยหายตัวไปทั้งคืนอย่างผิดสังเกต จนกระทั่งรุ่งเช้าได้มีเพื่อนบ้านมาบอกว่าพบศพน้องชายนอนตายอยู่ข้างทางจึงรีบออกมาดูศพ
พ.ต.ท.สนั่น กงสิทธิ์ สารวัตรเวร เปิดเผยว่า จากการตรวจสภาพศพและหลักฐานต่างๆในที่เกิดเหตุ สันนิษฐานว่า ผู้ตายคงจะเดินกลับเข้าบ้านช่วงกลางคืน
มาถึงที่เกิดเหตุได้ถูกงูเห่าตัวดังกล่าวที่เลื้อยออกมาล่าเหยื่อหากินฉกกัดที่หลังเท้าขวา เมื่อรู้ว่าถูกงูกัดผู้ตายพยายามรวบรวมสติใช้ความกล้าต่อสู้จับงูด้วยมือเปล่าจนถูกงูแว้งฉกกัดซ้ำเข้าบริเวณแก้ม ก่อนที่จะจับงูฟาดกับพื้นถนนอย่างไม่ยั้งหลายทีจนแหลกเละตายคามือ จากนั้นจึงถอดเสื้อผูกรัดเหนือข้อเท้าเพื่อชะลอพิษงูแผ่ซ่านเข้ากระแสเลือด แล้วรีบคว้าซากงูวิ่งกลับไปบ้านเพื่อขอความช่วยเหลือจากญาตินำส่งโรงพยาบาล แต่พิษงูได้ กระจายแล่นเข้าสู่หัวใจจนช็อกล้มลงขาดใจตายเสียก่อน อย่างไรก็ตาม ได้นำศพส่ง รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ จ.ปทุมธานี เพื่อให้แพทย์ตรวจพิสูจน์หาสาเหตุการตายที่แน่ชัดอีกครั้ง
ทางด้านนายสัตวแพทย์อลงกรณ์ มหรรณพ นายสัตวแพทย์ช่วยราชการสำนักพระราชวัง กล่าวถึงเหตุหนุ่มชะตาขาดสู้กับงูเห่าจนตายว่า
งูเห่ามีพิษร้ายแรงกว่างูจงอาง หากถูกกัดจะเสียชีวิตในเวลา 3-5 นาทีเท่านั้น ซึ่งการที่งูเห่ากัดคนมีอยู่ 2 ลักษณะ คือฉกกัด กรณีนี้งูจะไม่งับคาคนเจ็บ แต่จะรีบเลื้อยหนีอย่างรวดเร็ว อีกลักษณะคือการกัดแล้วฝังเขี้ยว ซึ่งปริมาณพิษที่เข้าสู่ ร่างกายจะมากกว่า กรณีนี้งูจะไม่เลื้อยหนี นอกจากคนที่ถูกงูกัดจะสะบัดจนหลุดหรือดึงงูออกมา ซึ่งจากสภาพศพเป็นไปได้ว่างูเห่ากัดและฝังเขี้ยวลงที่หลังเท้าผู้ตาย ผู้ตายอาจโมโหหรือต้องการจับงู จึงดึงงูออกมาแล้วฟาดกับพื้น แต่พลาดท่าถูกงูฉกกัดเข้าแก้มอีกแผล หลังงูตายจึงใช้ เสื้อมัดเหนือปากแผลแล้วหิ้วซากงูไปขอความช่วยเหลือ แต่อาจไม่ทันกาลเพราะพิษงูเห่าออกฤทธิ์เร็วมาก จึงอยากขอเตือนคนที่ถูกงูกัด ให้รีบใช้เชือกหรือเสื้อผ้ารัดเหนือปากแผล แล้วรีบไปโรงพยาบาลทันที
คนงานใจเด็ด มือเปล่าสู้งูเห่า
เครดิต : ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!