หนุ่มโรงงานเมืองกรุงเก่าเดินกลับบ้านกลางดึก เจองูเห่ายาว 1.50 ม.ฉกขา แค้นคว้างูตัวเขื่องกัดแผลเหวอะทั้งตัว ก่อนถูกฉกซ้ำที่ใบหน้าอีกแผล สุดท้ายตายคาที่ทั้งคนทั้งงู พบเหยื่อยังกำซากงูคามือ ตร.งงหนุ่มใหญ่ยังสวมถุงยางคาอวัยวะเพศ สงสัยนัดสาวมาร่วมรักแล้วถูกงูกัด
เรื่องราวที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นให้เห็นนักเมื่อหนุ่มใหญ่ใจเด็ดสู้กับงูเห่าจนถูกกัดตายทั้งคู่ เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 8 มิถุนายน พ.ต.ต.สนั่น คงสิทธิ์ สารวัตรเวร สภ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งมีเหตุคนถูกงูกัดเสียชีวิตริมถนนพหลโยธินขาขึ้นสระบุรี กม.51-52 หมู่ 2 ต.ลำไทร อ.วังน้อย จึงประสานอาสาสมัครป่อเต็กตึ๊งเดินทางไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบเป็นถนนลูกรัง แยกจากถนนพหลโยธินเข้าไปประมาณ 50 เมตร มีต้นหญ้าขึ้นรกสองข้างทาง ริมถนนพบศพนายวิโรจน์ บ้านเลน อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34 หมู่ 6 ต.คลองจิก อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา สภาพศพไม่สวมเสื้อ นุ่งกางเกงยีนขายาว รองเท้าแตะตกอยู่ในที่เกิดเหตุ ที่หน้าแข้งขวามีเสื้อเชิ้ตลายสีขาวพันรอบขา มีบาดแผลถูกงูกัดเหวอะหวะหลายแห่ง แผลคล้ายรอยข่วนยาว 8 ซม. ใบหน้ามีรอยเขี้ยวงูและแก้มบวมเป่ง
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องตกใจเมื่อพบว่ามือทั้งสองข้างของนายวิโรจน์กำซากงูเห่าขนาดความยาว 1.50 เมตรไว้แน่น ที่ลำตัวงูมีรอยถูกกัดหลายแห่ง โดยเฉพาะที่ท้องมีรอยกัดเป็นแผลลึก ส่วนที่ปากของนายวิโรจน์มีเลือดไหล ในปากและฟันมีเกร็ดงูติดอยู่จำนวนมาก นอกจากนี้ยังพบถุงยางอนามัยสวมที่อวัยวะเพศของผู้ตาย แต่ไม่มีน้ำอสุจิ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนของตำรวจทราบว่า นายวิโรจน์เป็นพนักงานขนย้ายของโกดังเก็บบรรจุภัณท์เบียร์สิงห์ ซึ่งอยู่ใกล้จุดที่เกิดเหตุ หลังจากออกกะเวลาประมาณ 22.00 น. วันที่ 7 มิถุนายน ก็เดินกลับบ้านซึ่งอยู่ห่างจากที่ทำงานประมาณ 1 กม.ใช้เส้นทางดังกล่าวเป็นประจำ เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าระหว่างเดินถึงที่เกิดเหตุผู้ตายคงถูกงูเห่าที่เลื้อยผ่านมากัดที่หน้าแข้ง จึงใช้เสื้อผูกห้ามเลือดแล้วพยายามจับงูเพื่อเอาไปให้แพทย์ดู
ตำรวจสันนิษฐานอีกว่า ช่วงที่นายวิโรจน์ถูกงูฉกซ้ำที่ขา เกิดความแค้นจึงคว้าลำตัวงูขึ้นมากัด จนเกิดการต่อสู้กันอยู่เป็นเวลานาน นายวิโรจน์ถูกงูฉกซ้ำเข้าที่แก้มอีก ส่วนนายวิโรจน์ก็กัดงูจนตายแล้วทนพิษบาดแผลไม่ไหวตายคาที่
ส่วนถุงยางอนามัยปริศนาที่นายวิโรจน์สวมใส่อยู่ทั้งที่ยังสวมกางเกงยีนนั้น ตำรวจยังไม่มีข้อมูลชัดเจน เพียงแต่สันนิษฐานว่านายวิโรจน์อาจเตรียมไปร่วมรักกับผู้หญิงที่ใดที่หนึ่ง หรืออาจจะนัดพบเพื่อร่วมรักกันข้างทางแล้วถูกงูกัด ส่วนผู้หญิงหลบหนีไปก่อน อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุส่งศพของนายวิโรจน์และซากงูไปชันสูตรที่ รพ.ศูนย์ธรรมศาสตร์
นพ.รุ่งกิจ ไทยธีระกิจ แพทย์เวร รพ.วังน้อย ซึ่งชันสูตรพนายวิโรจน์ในเบื้องต้น ระบุว่าผู้ตายมีบาดแผลที่ข้อเท้าขวา คล้ายสัตว์หรืองูกัด สภาพศพแข็งแล้ว คาดว่าเสียชีวิตมาไม่เกิน 10 ชม. ในกรณีนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่าถูกงูกัดตั้งแต่เมื่อใด แต่หากงูกัดจะเสียชีวิตเร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับความรุนแรงของพิษงูชนิดนั้นๆ และงูชนิดนั้นไปกัดกินสัตว์อะไรมาหรือไม่
นพ.รุ่งกิจ กล่าวว่า กรณีที่ถูกงูกัดแล้วต้องพยายามรีดเลือด หรือพิษที่บริเวณแผลออก จากนั้นจึงใช้เชือกผูกเพื่อห้ามเลือด แต่ต้องคอยแก้ออกทุก 10 นาที คงต้องดูว่างูที่กัดนั้นพิษมีผลต่อระบบประสาท กล้ามเนื้อ หรือระบบเลือดมากน้อยแค่ไหนเพราะงูแต่ละชนิดแตกต่างกัน
สอบถามไปยัง น.สพ.อลงกรณ์ มหรรณพ นายสัตวแพทย์ช่วยราชการสำนักพระราชวัง กล่าวว่า ความเชื่อที่ว่าเวลาคนกัดงูแล้วน้ำลายจะไปทำปฏิกิริยาให้งูตายนั้น เป็นความเชื่อที่ผิด ถึงแม้ว่าน้ำลายของคนจะมีแบคทีเรียหรือสิ่งสกปรก ก็จะไม่ก่อให้เป็นพิษพอที่จะทำให้งูตายได้ เนื่องจากสัตว์เลื้อยคลานจะมีความทนทานต่อสิ่งสกปรกหรือแบคทีเรียได้มากอยู่แล้ว ดังนั้น กรณีที่เกิดขึ้นอาจเป็นไปได้ว่า งูตายเพราะบาดแผลเปิด เสียเลือดมาก และทนพิษบาดแผลไม่ไหวนั่นเอง จึงไม่เกี่ยวกับน้ำลายของคน
น.สพ.อลงกรณ์กล่าวต่อว่า งูเห่าเป็นงูที่มีพิษแรงที่สุด มากกว่างูจงอางด้วยซ้ำ งูจงอางนั้นมีปริมาณพิษเยอะ แต่หากเทียบกันชนิดหยดต่อหยดแล้วงูเห่าจะมีพิษรุนแรงกว่า หากกัดจมเขี้ยวแม้แต่ช้างก็ตายได้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผู้ตายน่าจะขันชะเนาะแล้วเรียกให้คนมาช่วยนำส่งโรงพยาบาลมากกว่าที่จะตามหางู เพราะอย่างที่บอกแล้วว่าพิษงูเห่านั้นรุนแรงมาก
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
