แม่โหดฆ่าปาดคอลูกเลี้ยงวัย13 โยนศพทิ้งในสระน้ำอำพรางคดี

แม่เลี้ยงโหดฆ่าโหดปาดคอนร.หญิง วัย 13 ปี ทิ้งสระน้ำอำพรางคดี พ่อเหยื่อรุดดูศพ เผย ลูกสาวหายไปวันศุกร์หลังเลิกเรียน รุ่งเช้ามีคนโทรแจ้งพบศพในสระน้ำ ตำรวจแกะรอยจากเบอร์โทรศัพท์ที่โทรแจ้งพ่อเหยื่อและรถที่เพื่อนเหยื่อเห็นมารับจากโรงเรียน พบคราบเลือดในรถและซอกเล็บแม่เลี้ยง

(7มิ.ย.) เวลา 11.00 น. พ.ต.ท.รังสรรค์ พูลนุช สารวัตรเวร สภ.บางระกำ จ.พิษณุโลก รับแจ้งพบศพลอยน้ำอยู่ในสระน้ำขนาดใหญ่ ที่บ้านโปร่งหม้อข้าว หมู่ที่ 4 ต.ท่านางงาม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมพ.ต.อ.มนตรี ชุติพงษ์วิเวท ผกก.สภ.บางระกำ และตำรวจวิทยาการเขต 33 พิษณุโลก ที่เกิดเหตุพบสระน้ำดังกล่าวเป็นสระน้ำขนาดใหญ่เนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ อยู่ห่างจากถนนสายพิษณุโลก-บางระกำประมาณ 1 กิโลเมตร ในสะพบศพด.ญ.หัทญา คัมพีระพงษ์ อายุ 13 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10/30 ม.9 ต.วังทอง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก นักเรียนชั้น ม.1/9 โรงเรียนจ่านกร้อง อ.เมือง จ.พิษณุโลก สภาพศพนอนหงายลอยอยู่ริมสระน้ำ สวมกระโปรงนักเรียนสีน้ำเงิน สวมกางเกงในและสวมเสื้อในสีครีม มีร่องรอยบาดแผลถูกของมีคมที่บริเวณลำคอด้านซ้ายเป็นแผลกว้างและบริเวณคางอีก 1 แผล และพบเสื้อนักเรียนของผู้เสียชีวิต ลอยอยู่ในน้ำ

เมื่อนำขึ้นมาตรวจสอบพบว่ามีคราบเลือดติดอยู่กับเสื้อนักเรียนจำนวนมาก ในกระเป๋าเสื้อพบตารางเรียน นักเรียนชั้น ม.1/9 และพบว่ามีร่องรอยการตัดบริเวณป้ายชื่อนักเรียนออก โดยพบเศษป้ายชื่อลอยน้ำอยู่ใกล้ๆกัน อยู่ชิ้นหนึ่ง ขณะที่ริมฝั่งนั้น พบหมวกแก็ปสีดำอยู่ข้างสระ ห่างจากจุดพบศพประมาณ 5 เมตรพบลอยคราบเลือดบริเวณพื้นดิน 2 จุด

นอกจากนี้ ที่เกิดเหตพบนายธนาดร คัมพีระพงษ์ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10/30 ม.9 ต.วังทอง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก บิดาผู้ตาย และนางศรีไพร สงวนสิน แม่เลี้ยงของผู้ตาย มาตรวจสอบที่เกิดเหตุและยืนยันว่าผู้ตายคือบุตรสาวของนายธนาดร

นายธนาดร ให้การตำรวจว่า ทำงานอยู่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 9 อ.วังทอง จ.พิษณุโลก และมีบ้านพักอยู่ในศูนย์ บุตรสาวเรียนอยู่ที่โรงเรียนจ่านกร้องและพักอยู่ในบ้านพักดังกล่าว โดยทุกวันบุตรสาวจะเดินทางมาโรงเรียนด้วยรถตู้รับส่งนักเรียน วันที่หายไปคือวันศุกร์ที่ 6 มิถุนายน บุตรสาวขึ้นรถตู้ไปโรงเรียนปกติ แต่ขากลับไม่ได้กลับรถตู้ ตนพยายามตามหาที่บ้านเพื่อนของบุตรสาวแต่ก็ไม่พบตัว กระทั่งเช้าวันที่ 7 มิถุนายน มีคนโทรศัพท์เข้ามาหาตนแจ้งว่าบุตรสาวตนกลายเป็นศพลอยอยู่ในสระน้ำที่ อ.บางระกำ

ขณะที่การสอบสวนของตำรวจพบว่า คนที่โทรศัพท์มาแจ้งนายธนาดรว่าพบศพด.ญ.หัทญาในสระน้ำเขต อ.บางระกำ น่าจะเป็นคนที่รู้จักกันดี จึงแกะรอจากเบอร์โทรศัพท์ว่าเป็นใคร เพื่อนำมาสอบสวน นอกจากนี้ยังพบว่ามีเพื่อนผู้เสียชีวิต ชื่อนายปิง นักเรียนห้องเดียวกัน ที่เห็นด.ญ.หัทญา เป็นคนสุดท้าย ให้การว่า ทางโรงเรียนปล่อยนักเรียนเลิกเร็วกว่ากำหนด เวลาประมาณ 15.00 น. เห็นรถฮอนด้าแจ๊ส สีดำ จำหมายเลขทะเบียนได้ตัวเดียวคือเลข 7 มีผู้หญิงเป็นคนขับ มารับด.ญ.หัทญา ที่โรงเรียน แล้วก็หายตัวไปเลยกระทั่งกลายเป็นศพ

ต่อมาตำรวจวิทยาการเขต 33 พิษณุโลกได้ตรวจสอบรถยนต์ฮอนด้าแจ๊สสีดำ เลขทะเบียน กจ 3207 พิษณุโลก เป็นรถของนายธนาดร แต่ให้นางอริษา สร้อยสน อายุ 28 ปี แฟนของนายธนาดร แม่เลี้ยงผู้เสียชีวิตใช้งาน พบว่ามีคราบเลือดตกอยู่บนเบาะที่นั่งด้านหน้าซ้าย คู่คนขับ และพบคราบเลือดไหลลงไปบนเบาะรองพื้นที่นั่งคนขับด้านหลัง ขณะที่ตรวจสอบตัวนางอริษาพบว่ามีคราบเลือดในซอกเล็บ ตำรวจได้ทำการสอบสวนจนยอมสารพภาพว่าลงมือฆ่าด.ญ.หัทยา โดยไปรับมาจากโรงเรียน แล้วขับวนไปดูหนัง จากนั้นขับตระเวนไปเรื่อยและบอกกับเด็กไปว่าจะพามาฆ่า เด็กเลยท้าทายว่า ถ้าฆ่าไม่ตายจะไปฟ้องพ่อ

กระทั่ง นางอริษา ได้ลงมือฆ่าปาดคอทันที บริเวณถนนเลี่ยงเมืองและนำศพมาทิ้งไว้ในสระ ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนของตำรวจอย่างเคร่งเครียด และพยายามหาหลักฐานอาวุธที่ใช้สังหาร ส่วนจะมีบุคคลอื่นร่วมการฆาตรกรรมครั้งนี้หรือไม่นั้น ตำรวจกำลังตรวจสอบจากพยานหลักฐานเสื้อของผู้ตายและผู้ต้องสงสัย

นางศรีไพร สงวนสิน อายุ 47 ปี แม่ด.ญ.หัทยา ได้เดินทางมาที่สภ.บางระกำ เปิดเผยว่า ตนแต่งงานกับนายธนาดรและอยู่กินกันมานาน กระทั่งมีบุตรด้วยกันหนึ่งคน ตนมีอาชีพทำงานเป็นแม่บ้านในศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 9 ขณะที่นายธนาดรเป็นครูฝึกอยู่ที่เดียวกัน มีปัญหากับสามีเพราะสามีไปมีหญิงอื่น คือนางอริษา และตนหย่ากันได้ปีกว่าแล้ว นายธนาดร ได้ไปพักที่บ้านนางอริษา ที่อ.วัดโบสถ์ ส่วนตนอยู่กับบุตรสาวเพียงลำพังในบ้านพักในศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 9

นางศรีไพร กล่าวว่า หลังจากเลิกกับสามีก็ไม่มีปัญหาอะไร กระทั่งช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานายธนาดรหอบเสื้อผ้ามาอยู่กับลูกสาวที่บ้านพัก ตนจึงไปอยู่บ้านเพื่อน ทราบว่าคงทะเลาะกับนางอริษา ระหว่างนี้ นางอริษา พยายามมาตีสนิทบุตรสาวตน รับไปดูหนังหลายครั้ง บางครั้งตนเห็นว่ามีอาการผิดปกติ บุตรสาวตนง่วงนอนง่าย และรู้สึกเอะใจว่าไปกับนางอริษาน่าจะเกิดอันตราย

เพราะเห็นทะเลาะกับนายธนาดรบ่อยครั้งในระยะหลัง สุดท้ายในวันศุกร์นางอริษาก็มารับลูกสาวตนที่โรงเรียน มีเพื่อนเห็นรถฮอนด้าแจ๊สมารับ นายธนาดรออกตามหาทั้งคืนก็ไม่พบ ไปหาที่บ้านนางอริษาที่วัดโบสถ์ก็เจอตัวนางอริษา ตอนเที่ยงคืน สอบถามก็ไม่ยอมรับว่าพาบุตรสาวตนไปด้วย กระทั่งมาเกิดเหตุร้ายในที่สุด ซึ่งที่มาของการก่อเหตุอาจจะเกิดขึ้นจากความโกรธแค้นที่นางอริษา ไม่พอใจที่นายธราดร กลับมาอยู่กับครอบครัวจึงก่อเหตุดังกล่าวขึ้น


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์