แทงโหดเกย์รุ่นใหญ่ทะลุหัว ใจ ดับสยองคาบ้านสภาพเปลือยล่อนจ้อน เผยเป็นพนักงานขายอาหารเสริมสุขภาพ ชอบเด็กหนุ่มหน้าตาดีพามาหลับนอนที่บ้านเป็นประจำ เพื่อนบ้านเผยช่วงกลางดึกขี่จยย.พาหนุ่มคู่ขามาบ้าน ก่อนมีปากเสียงกันลั่น ได้ยินเสียงผู้ตายร้องขอชีวิตก่อนจะเงียบไป รุ่งเช้ากลายเป็นศพไปแล้ว
เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 6 มิ.ย. ร.ต.ท.ชัยรัตน์ น่านกาศ ร้อยเวรสภ.แม่สอด จ.ตาก
รับแจ้งเหตุว่ามีคนถูกฆ่าเสียชีวิต เหตุเกิดในบ้านพักเลขที่ 625 หมู่ 10 ต.แม่ปะ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วรีบรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยพ.ต.อ. พศวัต แตงจุ้ย ผกก.สภ.แม่สอด พ.ต.ท.แมน รัตนประทีป รองผกก. พ.ต.ท.ไชยา ขาวแม้นจันทร์ รองผกก.สส. พ.ต.ต.สมบูรณ์ เทียนขาว สวส.สส.และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน
ที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตเป็นชายนอนคว่ำหน้า ไม่สวมเสื้อผ้า
จมกองเลือดอยู่บริเวณหน้าระเบียงบ้านพัก ทราบชื่อต่อมา คือ นายแก้ว ปวงบุตร อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 46/62 ถนนอินทรคีรี ต.แม่สอด อ.แม่สอด มีอาชีพเป็นพนักงานขายอาหารเสริมสุขภาพ บริษัทแห่งหนึ่งในอ.แม่สอด ชันสูตรพลิกศพพบว่าถูกแทงด้วยอาวุธมีดเข้าบริเวณหน้าอกด้านซ้ายทะลุหัวใจ 1 แห่ง ในที่เกิดเหตุพบอาวุธมีดปลายแหลมยาวประมาณ 10 นิ้ว 1 เล่ม และหนังสือโป๊อีกหลายเล่มวางอยู่ในห้องนอน จึงบันทึกรายละเอียดไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวนนายอนุพงษ์ วงศ์คีรี อายุ 19 ปี เพื่อนผู้ตาย ให้การเบื้องต้นว่า
ก่อนเกิดเหตุผู้ตายมาหาตนที่ทำงานและขอยืมรถจักรยานยนต์ไปซื้อข้าวกล่องในตลาดสดแม่สอด ก่อนจะหายตัวไปทั้งคนทั้งรถ รุ่งเช้าตนโทรศัพท์ติดต่อไปหาหลายครั้งแต่ผู้ตายปิดโทรศัพท์มือถือ จึงเดินไปหาผู้ตายที่บ้านพักพบผู้ตายนอนเสียชีวิตจึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบดังกล่าว นายอนุพงษ์ ให้การอีกว่า ผู้ตายมีพฤติกรรมชอบหนุ่มวัยรุ่นหน้าตาดี มักจะพามาหลับนอนในบ้านพักเป็นประจำ เคยตักเตือนผู้ตายหลายครั้งแต่ผู้ตายไม่ยอมเชื่อ อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ถูกฆ่าในครั้งนี้
ด้านนายพงษ์เทพ ชัยยาคำ อายุ 55 ปี เพื่อนบ้านอยู่ติดที่เกิดเหตุ กล่าวว่า
ช่วงกลางดึก เห็นผู้ตายขับรถจักรยานยนต์มาจอดหน้าบ้านพักแล้วเดินลงจากรถพาเด็กวัยรุ่นรายหนึ่งเข้าไปในบ้าน สักพักใหญ่ได้ยินเสียงทะเลาะกันอย่างรุนแรงและได้ยินเสียงผู้ตายร้องขอชีวิต หลังจากนั้นเสียงผู้ตายได้เงียบหายไป มารู้ในตอนเช้าว่าเสียชีวิตแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังติดตามหาตัววัยรุ่นที่เป็นคู่ขาของผู้ตายมาสอบปากคำเพื่อขยายผลนำสู่การจับกุมตัวคนร้ายต่อไป เบื้องต้นเชื่อว่าสาเหตุมาจากความหึงหวง