แฉตายายขี้เมาทำหลานสาววัย 5 เดือนจนเลือดคั่งในสมองตาบอดทั้งสองข้าง
ส่งโรงพยาบาลพระพุทธบาท สระบุรี อ้างเม็ดองุ่นติดคอ แต่หมอตรวจแล้วเชื่อโดนทารุณ ส่งพยาบาลแจ้งตำรวจ เตรียมเรียกสองตายายให้ปากคำ ถ้าผิดจริงโดยดำเนินคดีแน่ ด้านมูลนิธิเด็กลงดูแลเตรียมถกผู้เกี่ยวข้อง งัด พ.รบ.คุ้มครองผู้กระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ.2550 เล่นงานด้วย เหตุทารกถูกทารุณจนตาบอดครั้งนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 11.20 น. วันที่ 3 มิถุนายน นายสรรพสิทธิ์ คุ้มพ์ประพันธ์ ผู้อำนวยการมูลนิธิพิทักษ์สิทธิเด็กกรุงเทพมหานคร ได้ส่งคณะทำงานของมูลนิธิพร้อมด้วยนิติกร เดินทางไปกับ นายสมศักดิ์ พรสัจจะ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสระบุรี เข้าพบ พญ.ระพีพรรณ ไชยมุสิกพงศ์ กุมารแพทย์ โรงพยาบาลพระพุทธบาท อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี เพื่อติดตามข้อมูลการทารุณกรรมเด็กหญิงวัย 5 เดือนเศษ
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
นางสมคิด แสนอภัย อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 112 หมู่ 7 ต.ขุนโขลน อ.พระพุทธบาท ยายของ ด.ญ.ขนิษฐา เอี่ยมสะอาด อายุ 5 เดือน ได้นำ ด.ญ.ขนิษฐาเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลพระพุทธบาท บอกว่าเม็ดองุ่นติดคอเด็ก แต่นายต้อย (ไม่ทราบนามสกุล) สามีของนางสมคิดและเป็นตาของ ด.ญ.ขนิษฐา ใช้นิ้วล้วงเอาเม็ดองุ่นออกจากคอแล้ว อย่างไรก็ตาม ผลการตรวจของแพทย์ไม่พบว่ามีเม็ดองุ่น รวมทั้งไม่พบบาดแผล หรือสิ่งติดค้างอยู่ในลำคอเด็กแต่อย่างใด ซึ่งแพทย์ให้ ด.ญ.ขนิษฐานอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเพื่อดูอาการ เนื่องจากเป็นไข้ ตัวร้อน แต่ทางผู้ปกครองกลับนำตัวเด็กกลับบ้านทันที
ต่อมาวันที่ 13 กุมภาพันธ์ นางมณฑกานต์ เอี่ยมสะอาด อายุ 17 ปี แม่ของ ด.ญ.ขนิษฐา
ซึ่งทำงานอยู่ที่บริษัท เวิลด์เอเชีย ซับคอนแทรก จำกัด จ.พระนครศรีอยุธยา นำ ด.ญ.ขนิษฐากลับเข้ามารักษาที่โรงพยาบาลอีกครั้ง บอกว่าลูกมีอาการซึม เกร็ง และกระตุก แพทย์จึงเอกซเรย์ พบว่ามีเลือดออกในสมองและเยื่อบุตาอักเสบ ศีรษะมีเลือดคั่งทั้งสองข้าง ไม่รู้สึกตัวต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ และให้นอนรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียูเด็ก ซึ่งลักษณะเหมือนถูกกระทำทารุณกรรม
จากนั้นวันที่ 15 กุมภาพันธ์ นางปุณยนุช สนามทอง พยาบาลวิชาชีพ 7 โรงพยาบาลพระพุทธบาท เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.อธิคม จันทร์อินทร์ พนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท ว่า
สภาพอาการของ ด.ญ.ขนิษฐามีเลือดคั่งในเยื่อหุ้มสมองและดวงตามีอาการเกร็งกระตุก ความเห็นของแพทย์สังเกตว่า อาการดังกล่าวน่าจะเกิดจากการถูกกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงจากการทารุณกรรม อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ นางสมคิดมารับตัวเด็กออกจากโรงพยาบาลพระพุทธบาท ต่อมาแพทย์ติดตามไปดูอาการที่บ้าน ปรากฏว่า ด.ญ.ขนิษฐาตาบอดทั้งสองข้าง ตรวจสอบพบว่าสาเหตุเกิดจากอาการเลือดคั่งในสมอง ทำให้รักษากลับคืนมาเหมือนเดิมไม่ได้ พ.ต.ท.อธิคมจึงเรียกนางมณฑกานต์มาสอบปากคำ ทราบว่าหลังคลอดลูกออกมาได้ 1 เดือน ก็นำไปฝากนางสมคิดและนายต้อยเลี้ยง มาทราบภายหลังว่า ทั้งตาและยายเมาเหล้าเป็นประจำ พอเมาได้ที่ก็จะจับหลานสาวยกขึ้นเขย่าอย่างแรงบ่อยครั้งจนหลานป่วย และนำตัวเข้ารักษาโดยอ้างว่าเม็ดองุ่นติดคอ
พ.ต.ท.อธิคมกล่าวว่า คดีแบบนี้ยังไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ถือเป็นคดีตัวอย่างที่ตำรวจจะต้องทำงานอย่างรอบครอบ
ในวันที่ 4 มิถุนายนนี้ จะเรียกสองตายายมาสอบปากคำ หากพบว่าทั้งคู่กระทำผิดจริงจะดำเนินคดีข้อหากระทำทารุณกรรมทารกด้วยความรุนแรงต่อไป ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 9 มิถุนายน เจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งมูลนิธิเด็กฯ นายกเทศมนตรีเมืองพระพุทธบาท นายอำเภอ ผกก.สภ.พระพุทธบาท และ ผอ.โรงพยาบาลพระพุทธบาท จะประชุมแนวทางดำเนินการในเรื่องนี้ตาม พ.รบ.คุ้มครองผู้กระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ.2550 ด้วย