2 มือปืนบุกยิงโหดโจ๋วัย 17 ตายคาห้องนอน
ขี่จยย.มาหาถึงบ้านตอนเช้ามืด แม่เหยื่อลงมานึกว่าเพื่อนลูกชาย พาซื่อบอกว่านอนอยู่ 2 มือปืนบุกเข้าไปถึงห้องนอนกระหน่ำยิงไม่ยั้ง ขณะที่แม่เหยื่อพยายามช่วยลูกสุดชีวิตเข้าแย่งปืน แต่ก็สู้แรงคนร้ายไม่ได้ ตร.พบปืนไทยประดิษฐ์ของเหยื่อตกอยู่ในห้อง มุ่งปมชู้สาวและทะเลาะวิวาท โดยเหยื่อน่าจะรู้ว่าถูกตามล่าหัวอยู่จึงพกปืนติดตัวตลอดเวลา แม้ยามนอน แต่ก็ถูกบุกมาสังหารถึงห้องนอนจนได้
ฆ่าโหดโจ๋ตายคาห้องนอนต่อหน้าแม่ครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 05.30 น. วันที่ 1 มิ.ย.
พ.ต.ต.ณัฐพงศ์ วงศ์ศรีอ่อน สารวัตรเวร สน.ห้วยขวาง รับแจ้งเหตุยิงกันที่บ้านเช่าเลขที่ 16 ห้อง 3 ภายในซอย ส.ธรณินทร์ แขวงและเขตห้วยขวาง หลังรับแจ้งจึงไปสอบสวนพร้อมด้วย พ.ต.อ.ระยอง ยังอยู่ ผกก.สน.ห้วยขวาง เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ที่เกิดเหตุภายในห้องนอนพบกองเลือด อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ขนาด .25 และเครื่องกระสุนปืน 10 นัด หัวกระสุน 2 หัว ส่วนผู้บาดเจ็บญาตินำส่งร.พ.พระราม 9 และเสียชีวิตในระหว่างทาง ทราบชื่อคือนายอัครพล เสนาะพิน อายุ 17 ปี มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาด เข้าที่ศีรษะด้านซ้าย 1 นัด หน้าอกซ้ายกระสุนตัดขั้วหัวใจ 1 นัด หน้าอกขวาอีก 1 นัด
นางบังอร เสนาะพิน อายุ 45 ปี มารดาของผู้ตาย ให้การว่า
เมื่อเวลา 05.00 น. มีคนร้ายเป็นชายวัยรุ่นสองคนสวมหมวกนิรภัย เสื้อยืดสีดำ สวมเสื้อแจ๊กเกตคลุมทับ ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาจอดบริเวณหน้าบ้านเช่าเคาะประตูเรียก แล้วถามว่าอู๋อยู่หรือเปล่า ตนคิดว่าเป็นเพื่อนลูกชาย จึงบอกไปว่านอนหลับอยู่ด้านใน จากนั้นคนร้ายก็เดินปรี่เข้าไปเรียกชื่อ ก่อนจะชักอาวุธปืนกระหน่ำยิงหลายนัดต่อหน้าตน ตนได้ตะโกนร้องห้ามอย่ายิง และพยายามเข้าไปแย่งปืน แต่คนร้ายก็ยังลั่นกระสุนใส่ร่างลูกชาย รวม 5 นัดซ้อนแล้ววิ่งออกจากห้องหลบหนีไปทันที หลังจากหายตกใจได้เรียกเพื่อนบ้านมาช่วยนำส่งโรงพยาบาลและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ด้านพ.ต.อ.ระยองกล่าวว่า สำหรับอาวุธปืนที่พบในห้องเกิดเหตุทราบว่าเป็นของนายอัครพล
เบื้องต้นสอบปากคำมารดาผู้ตายเพิ่มเพื่อสเกตช์ภาพคนร้าย สันนิษฐานสาเหตุไว้สองประเด็นเรื่องชู้สาวและเรื่องทะเลาะวิวาทจึงถูกคู่อริตามยิงถึงที่นอนต่อหน้ามารดาอย่างโหดเหี้ยม โดยนายอัครพลน่าจะรู้ว่ามีศัตรูอยู่จึงพกปืนติดตัวไว้ตลอดเวลาแม้แต่ตอนนอน ก่อนหน้าถูกยิงทราบว่าผู้ตายพูดคุยโทรศัพท์ แต่ไม่ทราบว่าเป็นเรื่องอะไร ซึ่งจะได้ตรวจเช็กเบอร์โทร.ล่าสุดเพื่อหาสาเหตุต่อไป