เมื่อเวลา 15.15 น. วันที่ 26 พ.ค. ร.ต.ท.อำนาจ นาควิจิตร ร้อยเวร สภ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี
รับแจ้งมีเหตุ คนถูกยิงเสียชีวิต ริมถนนเลียบคลองเจ็ดฝั่งตะวันออก หมู่ 2 ต.ลำผักกูด จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รอง ผบช.ภ.1 พ.ต.อ.นันทชาติ ศุภมงคล รอง ผบก.ภ.จ. ปทุมธานี พ.ต.อ.ธรรมนูญ เชาวะนิชย์ ผกก. พ.ต.ท.นิรุจ ประสิทธิเมตต์ รอง ผกก. (ป.) พ.ต.ท.ไกรศรี บุตรวงศ์ รองผกก. (สส.) พ.ต.ต.วนา ปกสุข สว.สป. พ.ต.ท.จีรวัฒน์ แนวจำปา รอง ผกก.กลุ่มงานสืบสวน ภ.จ.ปทุมธานี แพทย์ เวร รพ.ธัญบุรี ชุดสายสืบ ภ.จ.ปทุมธานี และหน่วยกู้ภัย มูลนิธิร่วมกตัญญู พบร่างผู้เสียชีวิตทราบชื่อนายสุชาติ โฉมปราชญ์ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 44/1 หมู่ 6 ต.บึงบอน อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี ลักษณะศพนอนหงายท่อนล่างจมอยู่ในน้ำ สวมเสื้อยืดสีขาว สวมทับด้วยเสื้อแจ็กเกตสีเขียว นุ่งกางเกงยีนส์ สวมรองเท้าผ้าใบ มีบาดแผลถูกยิงบริเวณเบ้าตาขวา 1 นัด อก สีข้าง และหน้าท้อง 6 นัด กลางหลัง 11 นัด รวม 18 นัด โดยมีปลอกกระสุนปืน 9 มม. ตกอยู่ข้างศพ 3 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ใกล้กันยังพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีดำแดง ทะเบียน ปนฉ 13 กทม. ทราบว่าเป็นของผู้ตายล้มอยู่ริมถนน
ต่อมาได้มีนายวีระ โฉมปราชญ์ อายุ 48 ปี กับ นางสำราญ โฉมปราชญ์ อายุ 42 ปี พี่ชายและภรรยาของนายสุชาติ เดินทางไปที่เกิดเหตุ
โดยทันทีที่เห็นศพนางสำราญถึงกับร่ำไห้โฮออกมาด้วยความเสียใจ ก่อนจะให้การกับตำรวจทั้งน้ำตาว่า นายสุชาติมีอาชีพรับเหมา ก่อสร้างทุกชนิด และยังได้รับสัมปทานรับส่งพนักงานให้ กับโรงงานไก่แปรรูปแห่งหนึ่งใน จ.ปทุมธานี นอกจากนี้ ยังมีตำแหน่งเป็นรองประธานสหกรณ์เช่าซื้อที่ดิน (ลำลูกกา) ก่อนเกิดเหตุ ช่วงสายวันเดียวกัน นายสุชาติได้ขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวออกจากบ้านไปประชุมที่สหกรณ์ฯ ซึ่งตั้งอยู่ที่สำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 1 เลขที่ 60/56 หมู่ 2 ต.ลำผักกูด กระทั่งมาทราบอีกทีถูกยิงเสียชีวิต
ปกตินายสุชาติเป็นคนระวังตัว เนื่องจากเมื่อ 4 ปี ก่อนเคยถูกคนร้ายยิงบาดเจ็บสาหัสมาครั้งหนึ่งแล้ว
สาเหตุ มาจากแย่งสัมปทานรับส่งพนักงานโรงงานไก่แปรรูป ทุกครั้งที่นายสุชาติออกจากบ้านจะพกปืนติดตัวเป็นประจำ แต่หลังเกิดเหตุปืนหายไป ส่วนสาเหตุของการถูกยิงไม่ ทราบว่ามาจากปัญหาเดิมหรือขัดแย้งผลประโยชน์รับเหมาก่อสร้าง ในขณะที่นายวีระ พี่ชาย ให้การว่า ก่อนที่นายสุชาติจะถูกยิงโทรศัพท์ไปบอกว่ากำลังเดินทางไปประชุม เนื่องจากมีปัญหาที่สหกรณ์ฯ แต่ไม่ได้บอกว่าเรื่องอะไร กระทั่งมาทราบว่าน้องชายถูกยิงเสียชีวิต
พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รอง ผบช.ภ.1 เปิดเผยว่า
จากการสอบปากคำพยาน ทราบว่าขณะที่นายสุชาติขี่รถจักรยานยนต์กลับจากประชุมสหกรณ์ฯ ถึงที่เกิดเหตุได้มีรถเก๋ง สีดำ ทะเบียน วม 6368 กรุงเทพมหานคร ไล่ตามประกบ จากนั้นคนร้ายที่นั่งเบาะหน้าคู่คนขับได้เลื่อนกระจกลง พร้อมทั้งใช้ปืนพกกระหน่ำยิงนายสุชาติหลายนัดจนรถจักรยานยนต์เสียหลัก นายสุชาติยังไม่เสียชีวิตในทันที พยายามวิ่งกระเสือกกระสนหนีลงคลองเพื่อจะข้ามไปอีกฝั่ง คนร้ายจอดรถไล่ตามลงไปกระหน่ำยิงซ้ำอีกหลายนัดเสียชีวิต ก่อนที่คนร้ายจะ เก็บปลอกกระสุนส่วนหนึ่งแล้ววิ่งไปขึ้นรถขับหลบหนี โดยหลังเกิดเหตุได้ตรวจสอบทะเบียนรถ พบว่าเป็นรถยี่ห้อเชฟโรเลต ผู้ครอบครองคือนายคนาทิพย์ จงธัญญากร อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 613 ซอยเกษมสุข แขวงห้วยขวางเขตห้วยขวาง กทม. ตำรวจเชิญตัวไปสอบปากคำ อ้างว่าป้ายทะเบียนดังกล่าวสูญหายไปนานแล้ว และได้แจ้ง ความเป็นหลักฐานไว้กับตำรวจก่อนหน้านี้แล้ว
รอง ผบช.ภ.1 เปิดเผยอีกว่า สำหรับรถเก๋งพาหนะที่คนร้ายใช้ก่อเหตุมีพยานพบเห็นจอดซุ่มอยู่ใกล้สนามเปตองแห่งหนึ่งใน อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี
เมื่อ 2 วันก่อน ขณะที่นายสุชาติไปเล่นเปตอง คาดว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนกลุ่มเดียวกันจอดซุ่มดูลาดเลา ในชั้นต้นเชื่อว่าคนร้ายมีไม่ต่ำกว่า 2 คน ติดตามความเคลื่อนไหวนายสุชาติมาโดยตลอด เมื่อทราบว่านายสุชาติเดินทางไปประชุมสหกรณ์ฯจึงเฝ้าติดตามกระทั่งสบโอกาสลงมือสังหาร ส่วน ปมสังหารได้ตั้งไว้หลายประเด็น คือประเด็นแรกขัดผลประโยชน์ในสัมปทานรับส่งพนักงานโรงงานไก่แปรรูป อาจเป็นไปได้ว่าคู่กรณีเก่ายังผูกใจเจ็บพาพวกตามยิง ประเด็นที่ 2 ขัดแย้งผลประโยชน์รับเหมาก่อสร้าง โดยทราบว่าเมื่อเร็วๆนี้นายสุชาติชนะประมูลงานก่อสร้างแห่งหนึ่งใน อ.หนองเสือ อาจทำให้คู่แข่งไม่พอใจพาพวกตามยิงส่วนประเด็นชู้สาวและการพนันตำรวจไม่ได้ตัดทิ้งไป อยู่ระหว่างการสอบสวนหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีแล้ว