ไฟไหม้สถานทูตพม่า ย่านถนนสาทร เช้านี้ เพลิงโหมลุกบนหลังคาอาคารที่ทำการเอกอัครราชทูตพม่า ระดมฉีดน้ำดับนาน 1 ชม.ก่อนสงบลง คาดเหตุไฟลัดวงจรต้นเพลิงจากชั้น 2 วอดกว่า 70% โชคดีเป็นเวลาเช้าตรู่ไร้ผู้ได้รับอันตราย
วันนี้ (26 พ.ค.) เมื่อเวลา 07.00 น. ร.ต.ท.ธนพัฒน์ สีหะวงศ์ พนักงานสอบสวน (สบ1) สน.ยานนาวา
รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้ที่สถานทูตพม่า ตั้งอยู่เลขที่ 132 ถนนสาทรเหนือ แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วรุดไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต.อภิชาติ เชื้อเทศ ผบก.น.6 พ.ต.อ.วัลลภ ปทุมเมือง พ.ต.อ.ปวิตร เลขะวณิช รอง ผบก.น.6 พ.ต.อ.เสถียร ตัณฑะกูล ผกก.สน.ยานนาวา พ.ต.ท.ชาญวิทย์ พุ่มโพธิ์ รองผกก.สส. พ.ต.ท.สมเกียรติ นนทแก้ว ผอ.กองปฏิบัติการดับเพลิง 1 กองพิสูจน์หลักฐาน รถบรรเทาสาธารณภัยและรถการไฟฟ้าสำนักงานเขตคลองเตยกว่า 10 คัน
ที่เกิดเหตุบริเวณอาคารคอนกรีตสูง 3 ชั้น ด้านหลังอาคารเป็นแฟลตที่พักอาศัยของเจ้าหน้าที่สถานทูตฯ ห่างจากตัวอาคารสถานทูตประมาณ 20 เมตร
ส่วนด้านหน้าติดถนนสาทร เป็นอาคารสำหรับประชาชนผู้มาติดต่อขอวีซ่าทั่วไป มีเนื้อที่ประมาณ 3 ไร่ และเป็นที่กำการของนายเน วิน เอกอัครราชทูตพม่า ประจำประเทศไทย โดยต้นเพลิงเกิดขึ้นบริเวณชั้น 2 ของอาคารคอนกรีตสูง 3 ชั้น ก่อนลุกลามไปติดตัวอย่างรวดเร็ว เนื่องจากบริเวณจุดเกิดเหตุเป็นอาคารหลังคาสร้างโครงไม้ มุงด้วยสังกะสี และภายในห้องเป็นที่เก็บเอกสาร จึงเป็นเชื้อเพลงอย่างดี เจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลรักษาการอยู่จำนวน 7 นายพร้อมกับชุดสกัดเพลิง จึงเร่งช่วยระดมฉีดเพื่อสกัดเพลิง ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.จึงสงบ
ด้าน พ.ต.ท.ชาญวิทย์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า
จุดเกิดเหตุเป็นอาคารสำนักงานของเจ้าหน้าที่สถานทูตพม่า ประจำประเทศไทย โดยต้นเพลิงเกิดขึ้นที่บริเวณห้องทำงานชั้น 2 ก่อนลุกลามไปยังห้องทำงานของนายเน วิน เอกอัครราชทูตพม่า ประจำประเทศไทย ส่วนความเสียหายนั้น บริเวณอาคารชั้น 2 ของอาคารคอนกรีตสูง 3 ชั้น ถูกเพลิงไหม้ได้รับความเสียหายไปประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ แต่ขณะเกิดเหตุไม่มีผู้ใดอยู่ในอาคาร จึงไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด
ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า สาเหตุอาจจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร
แต่ความเสียหายในเบื้องต้นยังไม่สามารถตรวจสอบได้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่สถานทูต ยังไม่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่ของไทยเข้าไปตรวจสอบ โดยแจ้งว่า จะต้องขออนุญาตกับผู้รับผิดชอบระดับสูงของประเทศพม่าก่อนและหากได้รับอนุญาตแล้ว จึงจะได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานและพนักงานสอบสวนสน.ยานนาวา เข้าไปตรวจสอบหาสาเหตุและความเสียหายที่แน่ชัดอีกครั้งหนึ่ง.