เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 25 พ.ค. พ.ต.ท.ศรัทธาวิทย์ เรืองสะอาด รอง ผกก.สส.สภ.เมืองฉะเชิงเทรา
นำกำลังฝ่ายสืบสวน 10 นาย เข้าปิดล้อมจับกุมแก๊งอุ้มรีดค่าไถ่ ภายในหมู่บ้านเรสซิเด้นท์วิลล์ ถนนสุวินทวงศ์ หมู่ 7 ต.คลองหลวงแพ่ง อ.เมืองฉะเชิงเทรา แต่กลุ่มคนร้ายฮึดสู้จนเกิดการยิงปะทะกันขึ้น สิ้นเสียงปืนปรากฏว่าคนร้ายถูกวิสามัญฯเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 ศพ และสามารถจับกุมเพื่อนร่วมแก๊งไว้ได้ 2 คน จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ
ต่อมา พล.ต.ต.ปราโมช ปทุมวงศ์ ผบก.ภ.จ.ฉะเชิงเทรา พ.ต.อ.นภดล ศรสำราญ ผกก.สภ.เมืองฉะเชิงเทรา พ.ต.ท.ไพฑูรย์ พันตานุสนธิ์ สารวัตรเวรสอบสวน
นำกำลังตำรวจ พร้อมเจ้าหน้าที่วิทยาการ อัยการจังหวัด แพทย์เวร รพ.เมืองฉะเชิงเทรา และหน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา ไปร่วมตรวจที่เกิดเหตุ ภายในป่าหญ้าหลังทาวน์เฮาส์ชั้นเดียวเลขที่ 19/165 พบศพนายเฉลา พูลประเสริฐ อายุ 35 ปี นอนคว่ำหน้าจมกองเลือด มือขวากำปืน 9 มม. ไว้แน่น ถูกยิงด้วยปืนลูกซองเข้ากลางหลังเป็นรูพรุน ข้างศพพบปลอกกระสุนปืน 9 มม. 2 ปลอก และปลอกกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 อีก 3 ปลอกตกอยู่ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ขณะที่กำลังตำรวจอีกส่วนหนึ่งจับกุมตัวเพื่อนร่วมแก๊งผู้ตายได้ 2 คน คือ
ส.ต.อ.สมศักดิ์ ผ่านสำแดง อายุ 42 ปี หัวหน้าแก๊ง เป็นตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.มะขาม จ.จันทบุรี ปัจจุบันช่วยราชการ สน.บางโพงพาง ค้นในตัวพบปืนลูกโม่ .38 จำนวน 1 กระบอก และนายสมภพ ศิริศักดิ์สิทธิ์ อายุ 33 ปี ส่วนที่หลบหนีไปได้ 1 คน ชื่อนายตี๋ใหญ่ ไม่ทราบนามสกุล อายุ 53 ปี บริเวณหน้าทาวน์เฮาส์หลังดังกล่าวพบรถเก๋งมาสด้า แลนติส สีเทา ทะเบียน ภด 4714 กรุงเทพมหานคร รถ จยย.ฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน และรถ จยย.ฮอนด้า เวฟ สีเทา ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนทั้ง 2 คัน จอดอยู่หน้าบ้าน ส่วนภายในบ้านพบปืนปลอม 2 กระบอก โดยมีเหยื่อที่ถูกอุ้มรีดค่าไถ่ 2 คน ถูกขังอยู่ในบ้าน คือนายเอกลักษณ์ เพชรสะอาด อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 70 หมู่ 2 ต.บางกรูด อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา และนายมานพ พ่วงพูล อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35 หมู่ 2 ต.เปร็ง อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ทั้งคู่อยู่ในสภาพอิดโรยและมีบาดแผลฟกช้ำตามใบหน้าและร่างกาย จึงควบคุมตัวทั้งหมดไปสอบสวนที่ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา
พ.ต.อ.นภดล ศรสำราญ ผกก.สภ.เมืองฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา ญาติผู้เสียหายทั้ง 2 คน
เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ว่า ได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์ 3 คน อ้างตัวเป็นตำรวจ มีอาวุธปืนครบมือ บุกเข้าจับกุมนายเอกลักษณ์ และนายมานพ ขณะนั่งอยู่กับเพื่อนในห้องเช่าไม่มีเลขที่ ถนนศรีโสธรตัดใหม่ อ.เมืองฉะเชิงเทรา พาขึ้นรถเก๋งไป จากนั้นกลุ่มชายที่อ้างเป็นตำรวจโทรศัพท์ติดต่อกลับมาบอกว่า ทั้ง 2 คนถูกจับข้อหาค้ายาบ้า หากต้องการเคลียร์คดีให้นำเงินมาไถ่ตัวคนละ 50,000 บาท โดยให้นำเงินมาส่งมอบที่ตลาดสุวินทวงศ์ในเช้าวันที่ 25 พ.ค. ชุดสืบสวนจึงซ้อนแผนดักซุ่มจับกุมตัวนายสมภพได้เป็นคนแรกขณะมารับเงินค่าไถ่ รับสารภาพว่ายังมีเพื่อนร่วมแก๊งที่เหลืออีก 3 คน กักขังผู้เสียหายไว้ที่ทาวน์เฮาส์หลังดังกล่าว จึงนำกำลังเข้าปิดล้อมตรวจค้น แต่คนร้ายไหวตัวทัน ปีนข้ามกำแพงหลังบ้านพร้อมชักปืนยิงใส่ตำรวจเพื่อเปิดทางหนีจนเกิดการยิงปะทะกันขึ้น ทำให้นายเฉลาถูกตำรวจใช้ปืนลูกซองยิงตายคาที่ ส.ต.อ.สมศักดิ์ยอมมอบตัว ส่วนนายตี๋ใหญ่เพื่อนร่วมแก๊งอีกคนหลบหนีไปได้
จากการสอบสวนผู้เสียหายทั้ง 2 คน ให้การตรงกันว่า ระหว่างกลุ่มคนร้ายควบคุมตัวขึ้นรถถูกรุมซ้อมมาตลอดทาง และพามาขังไว้ในบ้านหลังดังกล่าว
จากนั้นให้โทรศัพท์บอกญาติว่าให้นำเงินมาไถ่ตัว ไม่เช่นนั้นจะถูกอุ้มไปฆ่าทิ้ง อย่างไรก็ตาม ส.ต.อ.สมศักดิ์ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ ส่วนนายสมภพผู้ต้องหาอีกคนซัดทอดว่า ได้รับว่าจ้างจาก ส.ต.อ.สมศักดิ์ให้เป็นคนขับรถและไปรับเงินค่าไถ่ หากงานนี้สำเร็จจะมีส่วนแบ่งให้ นอกจากนี้ยังทราบว่านายเฉลาที่ถูกตำรวจวิสามัญฯเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดฉะเชิงเทราในคดีปล้นทรัพย์ อยู่ ระหว่างหลบหนีการจับกุม เบื้องต้นทราบว่ากลุ่มผู้ต้องหารายนี้เคยก่อเหตุลักษณะเดียวกันมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 ครั้ง ตำรวจจะได้สืบสวนขยายผลต่อไปว่ามีใครอยู่เบื้องหลังอีกหรือไม่