จากเหตุการณ์นางพิจิตรา พิณมณี อายุ 43 ปี ครูโรงเรียนสอนดี ต.พระยาบันลือ อ.ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา
ขี่รถ จยย.ไปตามถนนสายพระยาบันลือ-ลาดบัวหลวง เมื่อตอนบ่ายวันที่ 20 พ.ค. ถูกคนร้ายเป็นชายอายุราว 30 ปี ไว้ผมยาว ขับรถปิกอัพนิสสัน สีเขียว ทะเบียน บจ 4819 นนทบุรี พุ่งชนจนรถกระเด็นตกข้างทาง จากนั้น คนร้ายจอดรถลงมาชกต่อยชิงเอากระเป๋าสะพายมีเงินสด 4,000 บาท และเอกสารสำคัญ แล้วขับรถหลบหนีไป ต่อมาตำรวจพบรถปิกอัพคันดังกล่าวจอดทิ้งไว้ที่สะพานพระราม 4 อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ตรวจสอบพบว่าเป็นรถของนางวิรัตน์ รอดทองคำ อายุ 40 ปี ที่ให้นายศักดิ์สิทธิ์ ลามอ อายุ 30 ปี ลูกเขย ขับไปส่งน้ำดื่มในเขต อ.ปากเกร็ด แล้วถูกคนร้ายชิงไปก่อเหตุนั้น
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 22 พ.ค. พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รอง ผบช.ภ.1
เดินทางไปที่ บภ.ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา โดยมี พล.ต.ต.นเรศ นันทโชติ ผบก.ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.ธนปพน เคยนิยม ผกก.สภ.ลาดบัวหลวง ท้องที่เกิดเหตุเข้าให้ข้อมูลบรรยายสรุป มีรายงานว่า ตามแนวทางสืบสวนเชื่อว่ามีหลายคดีที่คนร้ายรายนี้เข้าไปเกี่ยวข้อง เริ่มตั้งแต่โจรกรรมรถปิกอัพจากท้องที่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ไปพุ่งชนและชิงทรัพย์ นางพิจิตรา ครูหญิง ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา จากนั้นยังก่อเหตุลักษณะเดียวกันอีกครั้งที่ อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี ก่อนที่จะขับรถย้อนกลับมาในเขต จ.นนทบุรี กระทั่งน้ำมันหมดจึงจอดรถทิ้งไว้เชิงสะพานพระราม 4 อ.ปากเกร็ด แล้วหลบหนีไป โดยเส้นทางและระยะเวลาของแต่ละคดีมีความสอดคล้องกัน นอกจากนี้ ตำรวจตรวจสอบคดีชิงทรัพย์ช่วงก่อนหน้านี้ที่คนร้ายรูปพรรณสัณฐานและมีพฤติกรรมคล้ายคลึงกับกรณีดังกล่าว 2 คดี คือที่ อ.เสนา และ อ.ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา คนร้ายขี่รถ จยย.ประกบรถ จยย.ของเหยื่อแล้วถีบให้รถล้มก่อนชิงทรัพย์ไป
พล.ต.ต.นเรศ นันทโชติ ผบก.ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า สั่งการให้ พ.ต.ท.ประภาวิน ฉายโฉมเลิศ รอง ผกก. กลุ่มงานสืบสวน บก.ภ.จ.พระนครศรีอยุธยา
ลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างละเอียดทุกคดี โดยประสานงานกับตำรวจท้องที่รับผิดชอบคดีนั้นๆด้วย ถือเป็นคดีสำคัญที่สังคมเฝ้ามองการทำงานของตำรวจ เนื่องจากพฤติกรรมของคนร้ายก่อเหตุในช่วงกลางวันโดยไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง จากภาพสเกตช์ของคนร้ายได้นำมาตรวจสอบกับแฟ้มคดีอาชญากรรมเก่าพบว่ามีลักษณะใบหน้าคล้ายบุคคลที่เคยถูกทำประวัติอาชญากรรมไว้ 4-5 คน จะต้องประสานผู้เสียหายมาดูอีกครั้ง
ด้านนางพิจิตรา พิณมณี ครูหญิงเหยื่อโจร กล่าวว่า
บาดแผลที่ใบหน้าต้องเย็บหลายเข็ม ส่วนแผลที่ขาซ้ายอักเสบ ยังไม่สามารถไปสอนหนังสือได้ เนื่องจากเจ็บปวดบาดแผลและพูดไม่สะดวก แพทย์แจ้งให้หยุดพักรักษาตัวไม่ต่ำกว่า 15 วัน ขณะที่นางปาลิดา กุลรุ่งโรจน์ ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาพระนครศรีอยุธยา เขต 2 กล่าวว่า นางพิจิตราเป็นครูที่ขยันขันแข็ง ถือว่าเป็นการบาดเจ็บระหว่างปฏิบัติหน้าที่ เพราะเดินทางไปราชการประชุมครูในเมืองและเกิดเหตุช่วงเดินทางกลับ จะต้องดูแลให้ความช่วยเหลือเป็นพิเศษ โดย ผอ.โรงเรียนจะพิจารณานำเสนอมา เบื้องต้นให้ลาหยุดงานจนกว่าจะหายเป็นปกติ
เที่ยงวันเดียวกัน พล.ต.ท.รชต เย็นทรวง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา ผบก.ภ.จ.นนทบุรี
พ.ต.อ.สุกิจ สมณะ รอง ผบก.ศสส.ภ.1 พ.ต.อ.ชยานนท์ มีสติ ผกก.ศสส.ภ.1 พ.ต.ท.ศิริชัย ครูประเสริฐวัฒนา รอง ผกก.กลุ่มงานสืบสวน ภ.จ.นนทบุรี ร่วมสอบปากคำนายศักดิ์สิทธิ์ ลามอ อายุ 30 ปี ลูกเขยนางวิรัตน์ รอดทองคำ เจ้าของรถปิกอัพที่คนร้ายชิงไปก่อเหตุตามที่แจ้งความไว้ที่ สภ.คลองข่อย ระบุลักษณะของคนร้ายเป็นชาย อายุประมาณ 25 ปี รูปร่างผอม สูงประมาณ 170 ซม. ผิวคล้ำ ผมดำหยักศก โดยนายศักดิ์สิทธิ์ให้การว่า ขณะนำรถไปส่งน้ำดื่มในเขต อ.ปากเกร็ด แล้วนำรถมาจอดใต้สะพานพระราม 4 แล้ว ลงจากรถโดยลืมกุญแจคาไว้ที่รถ คนร้ายจึงขับรถออกไปอย่างง่ายดาย ยืนยันว่าไม่รู้เห็นหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีที่เกิดขึ้น ด้าน พล.ต.ท.รชต เย็นทรวง ผบช.ภ.1 กล่าวว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่วิทยาการเก็บรอยนิ้วมือแฝงบนรถปิกอัพไว้เป็นหลักฐาน มั่นใจว่าจะจับตัวคนร้ายได้ เร็วๆนี้แน่นอน