อดีตตร.อังกฤษ ค้ากามสาวไทย

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 21 พ.ค. พล.ต.ต.สุรสิทธิ์ สังขพงศ์ รอง ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร.

พล.ต.ต.ปัญญา มาเม่น รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.วิมล เปาอินทร์ ผบก.ปดส. ร่วมกันนำตัวนายเอียน ซัทเทิลเวอร์ท อายุ 42 ปี อดีตตำรวจชาวอังกฤษ พร้อมของกลางเงินสดจำนวน 1.1 แสนบาท สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย บัตรเครดิต และของกลางอื่นๆอีกหลายรายการ มาแถลงต่อสื่อมวลชน โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันค้าหญิงหรือเด็กเพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น ร่วมกันเป็นธุระจัดหาไปเพื่อการอนาจารซึ่งหญิง โดยใช้อุบายหลอกลวงหรือข่มขืนใจด้วยประการใดๆ ร่วมกันเป็นธุระจัดหาซึ่งบุคคลใดเพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณี และไม่ว่าการกระทำต่างๆอันประกอบเป็นความผิดนั้นจะได้กระทำภายในหรือนอกราชอาณาจักร”

พล.ต.ต.ปัญญากล่าวว่า บช.ก.ได้รับการประสานงานจากกรมพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ให้ สืบสวนคดีค้ามนุษย์ข้ามชาติ

เนื่องจากเมื่อเดือน ก.ย. 50 ว่า มีผู้เสียหายเป็นหญิงไทยคนหนึ่งถูกนายเอียนชักชวนไปทำงานที่ร้านอาหารในประเทศอังกฤษโดยให้ค่าตอบแทนสูง ผู้เสียหายหลงเชื่อให้บิดาไปกู้เงินเป็นค่าเดินทาง และค่านายหน้าเป็นเงิน 530,000 บาท โดยนายเอียนเป็นผู้ยื่นขอวีซ่าต่อประเทศฝรั่งเศส ก่อนพาเดินทางเข้าประเทศอังกฤษ หลีกเลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ศุลกากรของประเทศอังกฤษ จากนั้นได้นำผู้เสียหายไปขายให้กับกลุ่มของนางแหม่ม ไม่ทราบนามสกุล ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในกรุงลอนดอน ในราคา 28,000 ปอนด์ คิดเป็นเงินไทย 1,773,520 บาท พร้อมยึดหนังสือเดินทาง บังคับให้ขายบริการทางเพศตามเมืองต่างๆในประเทศอังกฤษ อาทิ ลอนดอน โคเวนตรี วาลิงโบว์ วาลิงฮาร์ม ลิงคอน และสกอตแลนด์ จนกระทั่งตำรวจสกอตแลนด์บุกจับกุมแก๊งดังกล่าวได้ และส่งตัวผู้เสียหายกลับเมืองไทย ก่อนเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน บก.ปดส.
 

รอง ผบช.ก.กล่าวต่อว่า ภายหลังศาลอนุมัติหมายจับ ชุดสืบสวนปราบปรามคนร้ายข้ามชาติ และ ปดส.บุกเข้าจับกุมนายเอียน

ที่ห้องพักเลขที่ 893 วิลล่าสวนพลู คอนโดมิเนียม เลขที่ 459/59 ซอยสวนพลู 8 ถนนสาทรใต้ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กทม. เมื่อค่ำวันที่ 20 พ.ค. พร้อมของกลางอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และหนังสือเดินทาง นอกจากนี้ ยังพบเอกสารของหญิงไทยคนหนึ่งอยู่ในตู้เก็บเอกสารของผู้ต้องหา เชื่อว่าถูกหลอกไปค้ามนุษย์ที่ประเทศอังกฤษด้วย ขณะนี้อยู่ระหว่างประสานงานเพื่อรับตัวกลับประเทศไทย
 

พล.ต.ต.ปัญญากล่าวด้วยว่า ในส่วนของผู้ต้องหาทราบว่าได้เปิดบริษัทเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยให้บุคคลต่างๆย่านคลองเตย สุขุมวิท

และยังเปิดบริการทางอินเตอร์เน็ต http:// www.Thai-Pi.com ในลักษณะเป็น VIP protection ขณะนี้พบว่ามีผู้ร่วมขบวนการทั้งคนไทยและชาวต่างชาติอีกหลายคนที่เจ้าหน้าที่กำลังติดตามจับกุม และขอประชาสัมพันธ์ไปยังหญิงไทยที่ต้องการไปทำงานต่างประเทศ เพราะมีชาวต่างชาติที่ทำตัวเป็นพ่อพระแม่พระเพื่อหลอกลวงหญิงและเด็กไทยไปค้าประเวณี และหากไม่มั่นใจสามารถประสานขอทราบข้อมูล กับตำรวจและกรมจัดหาแรงงานโดยตรง 

วันเดียวกัน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จัดแถลงข่าวงานรณรงค์ พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551

โดย พล.ต.ต.วิมล เปาอินทร์ ผบก.ปดส. กล่าวว่า กฎหมายนี้จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับตำรวจในการหาพยานหลักฐาน การตรวจค้น  ที่ผ่านมาต้องขออนุมัติศาลหลายรอบจนคนร้ายไหวตัว แต่กฎหมายนี้จะให้อำนาจ รอง ผกก.ขึ้นไป หาหลักฐานและออกหมายจับได้ตลอด 24 ชม. การ ช่วยเหลือเหยื่อง่ายขึ้น การค้ามนุษย์มี 2 แบบ คือ ค้าประเวณี กักขังหน่วงเหนี่ยว เด็ก ผู้หญิง และการเอารัดเอาเปรียบแรงงาน พนักงานสอบสวนต้องตีความให้ดี โดยแหล่งที่พบมากคือ การตั้งโต๊ะรับสมัครแรงงานย่านสนามหลวง หมอชิตใหม่ สถานีขนส่งต่างๆ แรงงานเหล่านี้จะเป็นพวกที่มาหางานทำและคิดไปตายเอาดาบหน้า

“กฎหมายนี้จะลงโทษองค์กร ข้าราชการทุกตำแหน่ง ทั้งข้าราชการเมือง และข้าราชการประจำ ทั้งที่ช่วยเหลือ ซ่อนเร้น และกระทำเอง จะมีโทษหนักเป็น 2 เท่า ส่วนใหญ่การค้ามนุษย์มักเกี่ยวโยงกับพวกนักการเมืองท้องถิ่น กฎหมายนี้จะช่วยตำรวจได้มาก” พล.ต.ต.วิมลกล่าว

พล.ต.ต.วิมลกล่าวต่อว่า ส่วนการจับกุมอดีตตำรวจอังกฤษเมื่อคืนวันที่ 20 พ.ค.

พบว่าเป็นอดีตตำรวจที่ลาออกมา 8 ปี และมาพำนักที่ประเทศไทยแล้ว 5 ปี วิธีการแนบเนียนกว่าจะจับได้ เป็นขบวนการใหญ่ รายได้ดีโดยเปิดบริษัทส่งออกบังหน้า แต่หลอกลวงหญิงไทยไปทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟที่อังกฤษ โดยมีชาวอังกฤษมาช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ แต่แท้จริงแล้วเป็นการหลอกไปค้าประเวณี โดยต้องจ่ายเงิน 1.7 ล้าน ก่อนเดินทาง ทั้งนี้ การเข้าประเทศจะทำแบบพาทัวร์นักท่องเที่ยว โดยพาไปประเทศอื่น เช่น มาเลเซีย ฝรั่งเศส ก่อนเข้าไปประเทศอังกฤษ และเชื่อว่ายังมีลูกน้องที่เป็นเครือข่ายอยู่ในประเทศไทย อยู่ระหว่างการสืบสวนจับกุม
 

นางพนิตา กำภู ณ อยุธยา อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กล่าวว่า

ผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์จะเข้าสู่กระบวนการช่วยเหลือของ พม. เหยื่อตามกฎหมายหากความผิดเล็กน้อย เช่น เข้าเมืองผิดกฎหมายจะไม่ถือเป็นความผิด และคุ้มครองเยียวยา รับเข้ามาอยู่ในที่ปลอดภัย รวมทั้งช่วยเหลือทางกฎหมาย ระหว่างการดำเนินคดีให้ สิทธิเหยื่อออกไปทำงานชั่วคราวเพื่อให้มีรายได้ เมื่อจบสิ้นคดีจะส่งกลับภูมิลำเนา จากปัญหาค้ามนุษย์เริ่มรุนแรงมากขึ้น มีการค้าแรงงานผู้ชายตกเป็นเหยื่อมากขึ้น กรมจะตั้งสถานรองรับเหยื่อผู้ชายอีก 4 แห่ง ทุกภาค ใช้งบแห่งละ 50 ล้านบาท และขยายบ้านพักเด็กที่มี 43 แห่ง อีก 33 แห่ง ให้ครบทุกจังหวัด โดยใช้งบไม่เกิน 10 ล้าน บาท เนื่องจากเป็นการเช่าสถานที่จัดตั้งบ้านพักเด็กและครอบครัว ทั้งนี้ อาจขอแปรญัตติงบประมาณปี 52 เพิ่ม

“กรมพัฒนาสังคมฯ เตรียมรณรงค์การใช้กฎหมายทุกรูปแบบทุกพื้นที่ โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายที่เป็นกลุ่มเสี่ยงในการค้ามนุษย์ โดยจะจัดงานเปิดตัวในวันที่ T Day (Anti-Trafficking Day) ในวันที่ 5 มิ.ย.นี้ ซึ่งเป็นวันแรกของการบังคับใช้กฎหมาย ที่สถานีรถไฟหัวลำโพง ซึ่งเป็นจุดใหญ่ที่มีการค้ามนุษย์ เพราะแม้แต่คนอายุ 30-40 ปี ก็ถูกหลอก โดยมีสโลกแกน คุ้มครองคนถูกค้า ขจัดคนค้านำ ทั้งนี้กระทรวงเตรียมเสนอ ครม.เพื่อให้ วันที่ 5 มิ.ย. เป็นวันรณรงค์ต่อต้านการค้ามนุษย์” นางพนิตากล่าว