เค้นสอบ3ชั่วโมง พระครูฉาว

จากกรณีนางสุนทร ประเสริฐเจริญกุล อายุ 49 ปี เซลส์ขายเครื่องดูดฝุ่น ถูกคนร้ายชายหญิง 3 คน

ลวงไปรุมซ้อมทารุณที่บ้านเลขที่ 104/1 หมู่ 7 ซอยโรงเจศาลเจ้าเขาขาว ต.หน้าพระลาน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี จนต้องแกล้งตายแล้วฉวยจังหวะที่คนร้ายอุ้มใส่ท้ายรถเก๋งหนีรอดชีวิตมาได้ โดยสาวเหยื่อโหดระบุพระผู้ใหญ่ระดับเจ้าคณะใน อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี เป็นผู้บงการ หลังเกิดเหตุตำรวจได้จับกุมนายเดชา ศรอรุณ อายุ 29 ปี 1 ใน 3 คนร้าย ซัดทอดนายรัฐศาสตร์ หรือเจ๋ง ศรีผดุง อายุ 27 ปี หลานเจ้าของบ้าน กับนางวราภรณ์ เอี่ยมวิชัย เมีย เป็นคนทำร้าย และนางนริศรา ศรีผดุง อายุ 53 ปี เจ้าของบ้านเกิดเหตุ ได้เข้ามอบตัวพร้อมให้การไม่รู้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถูกตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น ขณะที่พระอาจารย์สุชิน โชติวโร เจ้าอาวาสวัดนพรัตนาราม เจ้าคณะอำเภอหนองเสือ จ.ปทุมธานี อ้างถูกเหยื่อสาวข่มขู่รีดเงิน อาจทำให้นายเจ๋ง ลูกศิษย์ ไม่พอใจลวงไปทำร้ายนั้น

ความคืบหน้าการสางปริศนาคดีลวงทำร้ายสาวใหญ่ ปางตาย เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 21 พ.ค.

นายสุนทร ทองดูศรี อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11/2 หมู่ 8 ต.ประตูชัย อ.พระนครศรีอยุธยา พานางวราภรณ์ เอี่ยมวิชัย อายุ28 ปี ลูกสาว ที่ถูกออกหมายจับพร้อมกับนายรัฐศาสตร์ ศรีผดุง ในคดีดังกล่าว เข้าพบ พ.ต.อ.บรรดล ตัณฑไพบูลย์ รอง ผบก.ภ.จ.สระบุรี ที่เดินทางมาตรวจสำนวนการสอบสวนคดีดังกล่าวที่ สภ.หน้าพระลาน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี ชี้แจงว่า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีที่เกิดขึ้น เนื่องจากได้แยกทางกับนายรัฐศาสตร์ ผู้ต้องหา มานาน 8 ปี และมีสามีใหม่แล้ว ทราบว่านายรัฐศาสตร์ มีเมียหลายคน ซึ่งในวันเกิดเหตุทำงานอยู่ที่บริษัท โท โต กุ จำกัด ที่ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ตั้งแต่เช้าจนหกโมงเย็น แล้วกลับบ้านไม่ได้ไปไหนต่อ
 

ต่อมาบ่ายโมงวันเดียวกัน พล.ต.ต.อลงกรณ์ หทัยยุทธ ผบก.ภ.จ.สระบุรี พ.ต.อ.มาโนช สุภาพพูล ผกก.สภ. หน้าพระลาน

ได้นำตัวนางวราภรณ์เดินทางไปที่ รพ.พระพุทธบาท ซึ่งนางสุนทร ผู้เสียหาย นอนรักษาตัวอยู่ เพื่อให้ผู้เสียหายชี้ตัว โดยจัดชาวบ้าน 6 คน มายืนปะปนกับนางวราภรณ์ที่หน้าห้องคนไข้ แต่นางสุนทรแจ้งว่าไม่มีคนร้ายอยู่ในกลุ่มดังกล่าว จากนั้น พ.ต.อ.มาโนช สุภาพพูล ผกก.สภ.หน้าพระลาน เปิดเผยว่า เมื่อนางวราภรณ์ ที่ถูกออกหมายจับ มาชี้แจงข้อเท็จจริง และตำรวจได้พิสูจน์แล้วว่าไม่ใช่ผู้ร่วมกระทำความผิด ก็จะทำการถอนหมายจับต่อไป จากนั้น จะนำตัวนางนริศรา ศรีผดุง เจ้าของบ้าน และนายเดชา ศรอรุณ ผู้ต้องหา มาสอบสวนว่านางหน่อย เมียนายรัฐศาสตร์ ที่ร่วมก่อเหตุด้วยเป็นใคร เพื่อจะได้ติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป

ทางด้านนางสุนทร ประเสริฐเจริญกุล สาวเหยื่อโหด

เปิดเผยถึงกรณีพระอาจารย์สุชิน โชติวโร หรือพระครู ปทุมธรรมวาที เจ้าอาวาสวัดนพรัตนาราม เจ้าคณะอำเภอหนองเสือ จ.ปทุมธานี ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อต่างๆ ว่าตอนนี้จะยังไม่ตอบโต้ เพราะร่างกายไม่ค่อยดี พร้อมกล่าวทิ้งท้ายว่า “เดี๋ยวให้ฉันออกจากโรงพยาบาลแล้ว ค่อยไปว่ากันในกรณีที่ให้สัมภาษณ์ที่ทำให้ฉันเสียหาย เรื่องเงิน 7 หลักก็ไม่จริง” พร้อมประกาศว่าสามารถทำให้พระองค์นี้ต้องสึกจากการเป็นพระได้อย่างแน่นอน
 

ขณะเดียวกัน พ.ต.ท.จักรกฤช วีระเดช รอง ผกก.สส.สภ.หน้าพระลาน พร้อมด้วย พ.ต.ต.ชวนะ สาธร สารวัตรเวรเจ้าของคดี

เดินทางมายังวัดนพรัตนาราม ม.6 ต.นพรัตน์ อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี เข้าสอบปากคำพระครูปทุมธรรมวาที หรือหลวงพ่อสุชิน โชติวโร เจ้าอาวาสวัดนพรัตนาราม ในกุฏิ นานร่วม 3 ชั่วโมง โดยมีชาวบ้าน ที่ทราบข่าวกว่า 200 คน มารวมตัวบนศาลาข้างกุฏิเจ้าอาวาส เพื่อมาเป็นกำลังใจพระครูปทุมธรรมวาที ต่างไม่เชื่อว่าพระครูปทุมธรรมวาที ข่มขืนและบงการทำร้ายนางสุนทร ประเสริญเจริญกุล หลังสอบปากคำเสร็จ พ.ต.ท.จักรกฤช วีระเดช กล่าวว่า มาสอบปากคำพระครูปทุมธรรมวาที ในฐานะพยานเท่านั้น ส่วนเรื่องที่ถูกผู้เสียหายพาดพิงว่าเป็นผู้สั่งการนั้น คงไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดใดๆได้เพราะเป็นความลับในสำนวนการสอบสวน

จากนั้น พระครูปทุมธรรมวาทีใช้ไม้เท้าพยุงตัวเดินออกมาทักทายกับประชาชนที่มาให้กำลังใจ

พร้อม กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นนั้นไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เพียงเพราะเขาแค่ต้องการเงินแล้วเราไม่ให้จึงเกิดเรื่องขึ้น ยังไงก็ขอขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วงและเดินทางมาให้ กำลังใจกันเป็นจำนวนมาก วันนี้ก็คงไม่มีอะไรแล้ว ตำรวจเขามาสอบในฐานะพยานเท่านั้น ทุกคนไม่ต้องเป็นห่วง และวันนี้จะไม่ขอให้ข่าวกับนักข่าว เพราะให้ไปแล้วข่าวออกมาคลาดเคลื่อนจึงของดการให้ข่าว
 

จากการสอบถามชาวบ้านคนหนึ่ง ให้ข้อมูลชื่อนายสินชัย เอี่ยมชัย อายุ 61 ปี

อยู่บ้านเลขที่ 56 ม.7 ต.นพรัตน์ อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี ได้กล่าวว่า ตั้งแต่รู้จักกับหลวงพ่อสุชินมาไม่เคยเห็นท่านทำอะไรที่ไม่เหมาะไม่ควรเลยสักครั้ง ท่านมีแต่จะพัฒนา สร้างความเจริญให้กับวัด ท่านยังสร้างโบสถ์ราคาหลายล้านบาทท่านก็พยายามหาเงินมาสร้าง ไม่มีทางที่ท่านจะไปทำอะไรอย่างที่เป็นข่าว แล้วชาวบ้านส่วนใหญ่ก็ไม่เชื่อกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงได้เดินทางมาให้กำลังใจกับหลวงพ่อ แล้วยังมีชาวบ้านอีกหลายคน ที่ยังงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ส่วนใหญ่แล้วไม่มีใคร