เมื่อเวลา 15.10 น. วันที่ 17 พ.ค. ขณะที่ พ.ต.ท.จักรพงษ์ ขุนพรหม สารวัตรเวร สภ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ
กำลังปฏิบัติหน้าที่บนโรงพัก ได้มี น.ส.วราภรณ์ ทุ่งแฝก เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.สมุทรปราการ พาผู้ปกครอง และ ด.ญ.เกด (นามสมมติ) อายุ 11 ขวบ พักอยู่บ้านเช่าท้องที่หมู่ 10 ต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ เข้าแจ้งความว่า ด.ญ.เกด ถูกนายยุทธนาหรือโจ๊ก (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี มีศักดิ์เป็นอาแท้ๆบังคับข่มขืนมานาน
สอบสวนผู้ปกครองให้การว่า หลังพ่อแม่แยกทางกัน ด.ญ.เกด กับน้องชายพากันไปอยู่กับย่าตั้งแต่เล็ก
โดยมีนายยุทธนา หรือโจ๊ก ซึ่งมีศักดิ์เป็นอาแท้ๆของเด็ก พักอาศัยอยู่ด้วยกันในบ้านเช่าย่านบางนา กทม. พอครบกำหนดเรียนหนังสือ ด.ญ.เกด ก็ไม่ได้เรียนหนังสือ เพราะไม่มีใครดูแล ต่อมาเมื่อราว 2 ปีที่ผ่านมา ย่าของ ด.ญ.เกด ย้ายไปเช่าบ้านอยู่ที่หมู่ 10 ต.ในคลองบางปลากด โดยยึดอาชีพขายข้าวเหนียวไก่ย่าง ภายหลังย่าของ ด.ญ.เกด หนีไป ทิ้งหนูน้อยเผชิญชะตากรรมและพักอยู่กับนายยุทธนา กระทั่งตนสังเกตเห็นผิดปกติที่นายยุทธนามักขลุกอยู่แต่ในห้องกับ ด.ญ.เกด บ่อยครั้ง ด้วยความสงสัยพยายามสอบถาม ด.ญ.เกด มาตลอดแต่เด็กไม่ยอมบอก
ผู้ปกครองหนูน้อยเคราะห์ร้ายให้การอีกว่า ต่อมา เมื่อกลางเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ตนได้ไปตรวจร่างกายที่สถานี อนามัยแห่งหนึ่งย่านทุ่งครุ กทม.
จึงได้พา ด.ญ.เกด ไปตรวจร่างกายด้วย ปรากฏว่าแพทย์ตรวจพบว่าในช่องคลอดเด็ก มีน้ำอสุจิและมีตกขาวคล้ายผ่านการร่วมเพศมา จึงร่วมกับแพทย์พยายามสอบถามความจริงอีก แต่ ด.ญ.เกด ไม่ยอมบอก ต่อมาระยะหลัง ด.ญ.เกด มีอาการซึมเศร้ามากขึ้น ตนเลยตัดสินใจพาไปฝากกับเจ้าหน้าที่มูลนิธิครอบครัวเด็ก จ.สมุทรปราการ ช่วยดูแลและสอบถามเรื่องราว ที่เกิดขึ้นจน ด.ญ.เกด ยอมบอกความจริง ก่อนพามาแจ้งความให้ดำเนินคดีถึงที่สุด
ด้าน ด.ญ.เกด เหยื่ออาหื่นกาม ให้การด้วยอาการยังหวาดผวาว่า ถูกนายยุทธนาหรือโจ๊ก อาแท้ๆบังคับข่มขืนมานานร่วม 4 ปี
ทุกครั้งที่ถูกข่มขืนจะเจ็บปวดมากแต่ถูกนายยุทธนาใช้เสื้อปิดปากไว้ไม่ให้ส่งเสียงร้อง หลังข่มขืนเสร็จนายยุทธนาจะพูดขู่ห้ามนำเรื่องไปเล่าให้ใครฟัง ถ้าคนอื่นรู้จะฆ่าให้ตายทั้งครอบครัวเลยไม่กล้าเล่าให้ใครฟัง เพราะกลัวน้องชายจะถูกฆ่าด้วย เนื่องจากนายยุทธนาเป็นคนดุร้าย กระทั่งมาอยู่ที่บ้านพักเด็กและครอบครัว รู้สึกปลอดภัยขึ้น จึงยอมเล่าความจริงให้เจ้าหน้าที่ รับทราบก่อนพาเข้าแจ้งความดังกล่าว
พ.ต.ท.จักรพงษ์ ขุนพรหม สารวัตรเวรเจ้าของคดี กล่าวว่า
หลังสอบสวนได้นำหนูน้อยเคราะห์ร้ายส่งไปตรวจร่างกายแล้ว เบื้องต้นประมวลจากพยานหลักฐานต่างๆเชื่อว่านายยุทธนาคงบังคับข่มขืนหลานสาวจริง จึงสั่งให้ ตำรวจชุดสืบสวนเดินทางไปตรวจสอบที่บ้านพบว่านายยุทธนาไหวตัวทันหลบหนีไปก่อน ซึ่งจะได้รวบรวมพยานหลักฐานเสนอศาลขออนุมัติหมายจับ และติดตามจับกุมมาดำเนินคดีต่อไป